สุภาพบุรุษทุกคนคงมีสูทใส่กันอย่างน้อยคนละชุด และทุกชุดที่คุณมีต้องเป็นชุดที่ทำให้คุณดูหล่อ สมาร์ทและดูภูมิฐานที่สุด ถึงแม้ว่าคุณอาจจะรู้สึกว่าคุณไม่ใช่ผู้ชายที่เหมาะจะใส่สูท แต่ต้องมีจุดนึงในชีวิตที่คุณต้องหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ต้องไปร่วมงานแต่งงาน ไปสัมภาษณ์งาน หรือไปออกงานอีเว้นท์ต่างๆ ที่ต้องแต่งตัวอย่างดูเป็นทางการ
“เสื้อฮู้ดสามารถแบ่งรูปแบบใหญ่ๆ ออกได้ 3 รูปแบบ” Pull Over Hoodie : เสื้อฮู้ดแบบสวม ไม่มีซิป Zip Up Hoodie : เสื้อฮู้ดแบบมีซิปผ่าด้านหน้า Half Zip Hoodie : เสื้อฮู้ดแบบมีซิปผ่าลงถึงกลางตัว แม้ตอนนี้อากาศจะไม่หนาวแล้ว แต่ถ้าจะพูดถึงเสื้อที่สวมทับเสื้อด้านใน หรือเสื้อคลุมที่ได้รับความนิยมมาโดยเสมอ “เสื้อฮู้ด” น่าจะเป็นเสื้อในดวงใจใครต่อใครมากมาย เพราะเสื้อฮู้ด เป็นหนึ่งในชุดที่สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าชุดอื่นๆ ได้มากที่สุด แถมยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้เราเป็นอย่างมาก ในบางโอกาส ด้วยฮู้ดที่สามารถใช้คุมหัวได้ ที่บางครั้งก็ใช้กันแดด กันฝน กันลม หรือจะใช้ปิดบังใบหน้าในบางโอกาสก็ยังได้อีกด้วย ...
ทุกวันนี้ต้องบอกว่าลุคทางการเป็นอะไรที่จำเป็นไม่น้อย ผู้ชายยุคใหม่ทุกคนควรรู้จักครีเอทลุคทางการให้เหมาะกับตัวเองเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับหลากหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน วันที่มีประชุมใหญ่ ไปจนถึงวันออกงานสำคัญ เพราะการแต่งตัวให้รับกับกาลเทศะจะช่วยเพิ่มความสมาร์ทและเสริมบุคลิกให้เราดูดีได้ในทุกสถานการณ์ แต่มากกว่าลุคที่สมาร์ทแล้ว เนื้อผ้าของเสื้อผ้าที่เราเลือกสวมใส่ก็ต้องช่วยเสริมความมั่นใจให้เราได้ไม่แพ้กัน และวันนี้ Mover ก็ได้เลือก ชุดสูท จาก G2000 มาครีเอทเป็นสไตล์ที่น่าสนใจ อัพลุคทางการสุดธรรมดาให้ดูสมาร์ทกว่าที่เคย ซึ่งความพิเศษอยู่ตรงที่ชุดสูทเหล่านี้ ผลิตเนื้อผ้าโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ชายยุคใหม่ทุกรูปแบบ ช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ไปพร้อมๆ กับดูดีมีสไตล์ได้โดยไม่ต้องกังวล ส่วนจะมีลุคไหนและเทคโนโลยีใดบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ – Lightweight – เริ่มที่ลุคแรกกับชุดสูทสีพื้นฐานที่ควรมีติดตู้ไว้อย่างสีน้ำเงินเข้ม Navy Blue แบบกระดุมสองเม็ดแถวเดียว เคล็ดลับในการแมตท์สูทสีนี้ให้เรียบแต่ดูดีอยู่ที่การใส่คู่กับเสื้อเชิ้ตและเนคไทสีอ่อนให้มีความตัดกัน ไม่ว่าจะเป็นสีเทาหรือสีขาวก็ลงตัว แล้วอย่าลืมติดกระดุมเม็ดบนด้วย สูทสีนี้ถือว่ามีระดับความเป็นทางการค่อนข้างสูง อาจจะไม่เท่าสีดำแต่ก็สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะใส่ไปทำงานหรือใส่ไปออกงานต่างๆ ...
เชื่อเลยว่าหากมีคนส่งการ์ดเชิญไปงานมาให้หนุ่มๆ โดยระบุเดรสโค้ดมาว่า ‘ให้สุภาพบุรุษสวมใส่ชุดค็อกเทล (Cocktail Attire) มาร่วมงาน’ บรรดาหนุ่มๆจะต้องสงสัยแน่นอนว่า ชุดค็อกเทลที่ว่านี่คืออะไร? แล้วจะต้องแต่งอย่างไรถึงจะเหมาะสม? ขอเกริ่นก่อนว่าชุดค็อกเทลของหนุ่มๆที่ว่ามานี้ ส่วนมากจะถูกระบุในเดรสโค้ดของงานแต่งงาน งานปาร์ตี้กลางคืน หรืองานเข้าสังคมที่ค่อนข้างเป็นทางการเท่านั้น นั่นเท่ากับว่าคุณผู้ชายยิ่งจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับชุดค็อกเทลตัวปัญหานี้ให้ดียิ่งกว่าเดิม วันนี้ Mover จะพาหนุ่มๆไปทำความรู้จัก Cocktail Attire เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องใส่ผิดใส่ถูกให้เขินแขกในงานจนหน้าแดงกันครับ ชุดค็อกเทล (Cocktail Attire) คืออะไร? หากในการ์ดเชิญไปงานระบุเดรสโค้ดว่า คุณผู้ชายจะต้องสวมชุดค็อกเทล นั่นหมายความว่า คุณจะต้องใส่เสื้อเชิ้ตพร้อมชุดสูท สวมรองเท้าสุภาพ พร้อมกับผูกเนคไทด์หรือติดโบว์ไทด์ไว้ที่คอปก หรือหากงานปาร์ตี้ดังกล่าวเป็นงานสบายๆ ไม่เป็นทางการมาก คุณผู้ชายก็สามารถใส่เสื้อคลุม (blazer) พร้อมกับกางเกงสีดำก็ได้ไม่ผิดกติกา สรุปสั้นๆได้ว่าหากเจอคำว่า ...
หมดยุคแล้วที่จะต้องเดินเข้าร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพื่อซื้อเสื้อสูททรงคุณลุงมาใส่แก้ขัดเพื่อออกงานแล้ว! เพราะตอนนี้สิ่งที่ผู้ชายทั่วโลกให้ความสนใจและฮิตมาก ก็คือสิ่งที่เรียกว่า สูทสไตล์คราฟ หรือ Bespoke Suit ซึ่งจะเป็นเสื้อสูทสั่งตัดตามความต้องการของเจ้าของ ที่จะช่วยเสริมตัวตนของผู้สวมใส่ออกมาได้มากที่สุดนั่นเอง
ทุกวันนี้การใส่เสื้อสูทไม่ใช่เรื่องไกลตัวของใครอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าเราสามารถเอาเสื้อสูทเหล่านี้มาใส่ได้ในหลากหลายสถานการณ์มากขึ้น ไม่ว่าเป็นเวลาสบาย ๆ ในวันหยุด หรือว่าวันที่ต้องการความเป็นทางการมาก ๆ ก็สามารถเลือกหยิบสูทตัวเก่งมาจับคู่กับไอเท็มอื่น ๆ เพื่อครีเอทลุคที่เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้
“Manners Maketh Man” แฟนหนัง Kingsman คงจะคุ้นเคยกันดีกับประโยคนี้ ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษนั้นไม่เพียงแต่จะถูกสื่อออกมาผ่านกิริยาและการแสดงออกแล้ว แต่ยังรวมไปถึงการแต่งตัวที่เนี้ยบและดูดีอยู่เสมอตามแบบฉบับผู้ดีอังกฤษ
เป็นเวลา 4 ทศวรรษ ที่ S’fare (เอสแฟร์) แบรนด์เครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษ ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทั้งนี้ทางแบรนด์ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้คอนเซป ‘BE A GENTLEMAN’ ที่สะท้อนบุคลิกของการเป็นสุภาพบุรุษผู้มีวิสัยทัศน์ที่ดูดีทั้งภายนอกและภายใน แบรนด์ S’fare มุ่งเน้นการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าคุณภาพที่ตอบสนองความต้องการของสุภาพบุรุษในทุกวัย และทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งเราไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาสินค้าให้โดดเด่น ทันสมัย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีความเป็นนวัตกรรม ไม่ว่าจะด้วยเทคโนโลยี หรือดีไซน์ (Innovation Design) ที่เอสแฟร์ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดในการออกแบบ รังสรรค์เป็นเสื้อผ้าที่ออกแบบด้วยความปราณีต มาให้ลูกค้าได้สวมใส่ ในปีนี้ S’fare ได้นำเสนอเครื่องแต่งกายที่มีรูปแบบดีไซน์อันหลากหลาย เพื่อเติมเต็มทุกความต้องการในทุกโอกาสของสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง แบ่งออกเป็น 2 หมวดหลักใหญ่ๆ ...
เมื่อย่างเข้าสู่วัยทำงาน แน่นอนว่าผู้ชายทุกคนจะต้องมี “สูทตัวแรก” เตรียมไว้ใส่ไปประชุมหรือไปงานทางการ ซึ่งวันนี้ Mover ขอพาคุณมาสัมผัสประสบการณ์การเลือกสูทเต็มรูปแบบจาก ‘Takeo Kikuchi’ แบรนด์สูทสุดเก๋าเจ้าแรก ๆ ในญี่ปุ่นที่มีประวัติอันยาวนาน จนเรียกได้ว่าไม่มีใครในญี่ปุ่นที่ไม่รู้จักแบรนด์นี้ ‘Takeo Kikuchi’ คือแบรนด์เสื้อผ้าแบรนด์แรก ๆ ในญี่ปุ่นที่เริ่มต้นจากชุดสูทเป็นหลัก สูทของเขาก็เรียกได้ว่าเป็นอันดับ 1 ในแบรนด์ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยเน้น 3 คีย์เวิร์ดหลักที่ทางแบรนด์รักษามาตลอดคือ “Travel, Tailor, British” เป็นคอนเซ็ปต์หลัก แสดงให้เห็นถึงอุดมการณ์ในการผนวกความมีสไตล์ ความสะดวกทนทาน และความเป็นผู้ดีมารวมกัน สูทของ Takeo Kikuchi จะคำนึงถึงเรื่องความใส่สบาย คงทน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในญี่ปุ่นที่ต้องใส่สูทเดินทางไปทำงานตลอด รวมทั้งใส่สูทลำลองในวันสบาย ๆ อีกด้วย ...
หลังจากที่เราได้ทราบขั้นตอนการตัดสูทแบบครบเครื่องจาก Takeo Kikuchi แบรนด์สูทสุดเก๋าสัญชาติญี่ปุ่นกันไปแล้ว แน่นอนว่าทุกคนคงจะมีดีไซน์ “สูทตัวแรก” และ total looks แบบต่าง ๆ ไว้ในใจกันบ้าง ซึ่งวันนี้ Mover จะพาคุณมามาเจาะลึกกับ ‘City Setter’ สูทแบบพิเศษที่เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เร่งรีบของคนเมืองกันบ้าง ซึ่งจะเปลี่ยนนิยามการใส่สูทของคุณไปโดยสิ้นเชิง อย่างที่ทราบกันไปในคอนเทนท์ที่แล้วว่าสูทของ Takeo Kikuchi นั้นทำมาจากผ้านำเข้าสุดหรูจาก 4 แบรนด์ดังที่แสดงถึงความไม่ธรรมดาของแบรนด์อย่างเต็มที่ ได้แก่ “มิยูกิ โอริโมโนะ” แบรนด์ผ้าชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่น, “Dormeuil” บริษัทค้าผ้าที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากอังกฤษ, “Piacenza” (เปียเชนซา) จากอิตาลี ซึ่ง 3 อันดับแรกนี้เป็นผ้าทำมาจากวัสดุที่มาจากธรรมชาติ ...