อยากเท่ แต่ไม่อยากแต่งเยอะ อยากใส่รองเท้าง่ายๆไปเที่ยวได้สบาย ต้องไม่พลาดกับ Slip-on รองเท้าที่ใส่ไม่ยุ่งยากแต่งลุคเท่ๆก็ได้ ลุคชิลๆ ก็เข้ากันได้สบาย หนุ่มๆเบื่อกันหรือยังที่จะออกจากบ้านแต่ละทีต้องคอยจัดเต็มด้วยรองเท้า Sneaker จะถอดจะใส่แต่ละทีก็ต้องคอยแก้เชือกผูกเชือก ถึงจะเท่แต่ก็แอบลำบากเหมือนกัน แต่จะให้ลดระดับความชิลไปถึงขั้นรองเท้าลำลองก็อาจจะดูชิลไปหน่อยสำหรับในบางสถานที่ ลองลดระดับความจัดเต็ม มาในสายกลางๆแบบรองเท้า “Slip-on” กันบ้างไหมครับ ถึงจะเป็นรองเท้าที่ดูชิลๆ แต่ด้วยดีไซน์แล้ว สามารถใส่ไปเที่ยวแบบหนุ่มเท่ๆได้แบบสบาย หรือจะไปสายชิลรองเท้า “Slip-on” เขาก็มีรูปแบบชิลๆตอบโจทย์หนุ่มเซอร์ แถมเป็นรองเท้าที่ถอดง่ายใส่ง่ายอีกด้วย ส่วนในเรื่องของลุคการแต่งตัวว่าจะใส่แบบไหน แต่งสไตล์อะไรนั้นไม่ยาก นอกจาก MOVER จะมาแนะนำให้เพื่อนๆได้แต่งตามแล้วยังขอการันตีว่าใส่ได้หลายลุคแน่นอนครับ FORMAL LOOK เริ่มต้นด้วยลุคที่ฉีกสไตล์ความชิลของรองเท้า Slip-on ด้วยลุคที่จัดเต็มไปด้วยความเป็นทางการอย่างชุดสูท ที่จะมาเจืองจางความเป็นทางการด้วยความสบายๆของรองเท้า Slip-on เพื่อนสามารถลดระดับความเป็นทางการให้ดูชิคมากขึ้นด้วยการพับขากางเกงขึ้นมาสักนิด และถ้าจะให้ดีลองเปลี่ยนจากชุดสีทางการมาเป็นสูทที่มีสีสันสักหน่อยก็เพิ่มความเท่ให้กับลุคทางการได้แล้วครับ CASUAL ...
ต้องยอมรับว่าความเท่ของหนุ่มๆ กับความคลาสสิกของกางเกงยีนส์ผู้ชาย เป็นอะไรที่ไม่สามารถตัดขาดออกจากกันได้เลยจริงๆ สไตล์ที่แตกต่างกับทรงกางเกงยีนส์ในรูปแบบต่างๆสามารถทำให้เราดูดีและสนุกได้แบบไม่รู้จบ ไม่ว่าจะมาในลุคของหนุ่มวินเทจด้วยกางเกงยีนส์ขากระบอก หนุ่มร็อคกับกางเกงยีนส์ขาเดฟ หรือหนุ่มชิลด้วยกางเกงยีนส์ขาสั้น ก็สามารถเปลี่ยนลุคไปกับยีนส์ได้หลายสไตล์ อีกหนึ่งสไตล์ของกางเกงยีนส์ที่เท่จนไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ Ripped Jeans หรือ ยีนส์ขาด กางเกงยีนส์สไตล์เซอร์ที่หนุ่มๆหลายคนชอบใส่ ในปี 1970s Ripped jeans หรือกางเกงยีนส์ขาดๆนั้น เริ่มต้นได้รับความนิยมจากวงพังก์ร็อค The Ramones จากนั้นนักแสดงหญิง Farrah Fawcett ยังช่วยทำให้กางเกงยีนส์เป็นที่นิยมมากขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Charlie’s Angels’ นอกจากนี้ กระโปรงยีนส์และเสื้อยีนส์ก็เริ่มได้รับความนิยมในยุคนี้ด้วย หลังจากนั้นกระแสของสไตล์กางเกงยีนส์ขาดๆกับนักดนตรีเท่ๆ จึงเป็นไอเท็มที่ฮิตแบบสุดๆ มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งไม่ใช่แค่ในวงการดนตรีเท่านั้น แต่หนุ่มๆหลายคนก็ชื่นชอบในความดิบนี้เหมือนกัน ทำให้เกิดสไตล์การขาดก็หลายรูปแบบ หลายเลเวลให้ได้สนุกกันครับ ...
ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแฟชั่นจากฝั่งเกาหลี ของทั้งเหล่าออนนี่และเหล่าอปป้า ไม่ว่าจะเทรนด์ของผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ล้วนมาแรงกลายเป็นแฟชั่นเทรนด์แรกๆที่เรานึกถึงกันไปซะแล้ว ซึ่งไม่เฉพาะแค่แฟชั่นบนรันเวย์เท่านั้นแต่สตรีทสไตล์ของวัยรุ่นเกาหลีก็ยังมีความเท่ มีสไตล์หลายคนก็เอามาเป็นอินสไปร์ในการแต่งตัวอยู่หลายครั้งกัน วันนี้ MOVER เลยจะขอพาเพื่อนๆไปส่องแฟชั่นของเหล่านายแบบ กับแฟชั่นในชีวิตประจำวันของพวกเขา ที่หล่อแบบสบายๆสไตล์แคชชวล บอกเลยว่าติดตามไว้เป็นอินสไปร์เรชั่นชั้นดีเลยที่เดียวครับ @Nam_yoonsu Look of @Nam_yoonsu มาเริ่มต้นกันที่ลุคชิวๆ แต่เห็นแล้วสัมผัสได้ถึงความเป็นหนุ่มสไตล์เกาหลี กับลุคสบายๆ เสื้อยืดขนาดใหญ่ แต่ไม่ถึงกับโอเวอร์ไซส์จับคู่กับกางเกงยีนส์ธรรมดา เพิ่มดีเทลด้วยการพับขากางเกงแบบ Long Roll และที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นกับรองเท้า Sandal ที่ไม่ค่อยเห็นผู้ชายใส่เท่าไหร่ แต่ในเกาหลีอปป้าฮิตใส่กันมากๆ แถมยังใส่ถุงเท้าอีกหนึ่งชั่นเพิ่มดีเทลเข้าไปอีก จากลุคชิวๆธรรมดา ก็กลายเป็นลุค Casual แบบเท่ๆได้แล้ว IG @Nam_yoonsu @Koojas ...
เป็นโชคดีของผู้ชายที่ไม่ต้องต้องเตรียมตัวยุ่งยากเหมือนผู้หญิง เพียงแค่เลือกสูทตัวเก่งของคุณ มิกซ์แอนด์แมทช์นิดหน่อยก็สามารถออกงานได้แล้ว แต่ประเด็นหลักอยู่ตรงที่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้คุณผู้ชายทั้งหลายดูหล่อขึ้นนี่แหละ อย่างเช่นการเลือกสีของชุดสูท หรือการใส่เครื่องประดับเล็กๆน้อยๆบนคอปกของเสื้อ อย่างเช่น เนคไทด์, โบว์ไทด์ หรือไม่ใส่อะไรเลย ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะเพียงแค่สวมเสื้อเชิ้ตดีๆสักตัวและใส่สูททับก็โอเคแล้วสำหรับผู้ชายบางคน แต่วันนี้ Mover มีวิธีเด็ดๆ ที่จะทำให้การแต่งตัวออกงานของหนุ่มๆ ดูดีขึ้นเป็นกองมาฝาก รับรองว่าทำตามแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน โอกาสไหนเหมาะแก่การติดโบว์ไทด์? ถ้าคิดถึงการติดโบว์แล้ว บางคนคงจะนึกถึงความสนุกสนาน หรืออะไรที่ไม่เป็นทางการมากเท่าไหร่นัก เพราะว่าการติดโบว์ไว้ที่คอปกอาจเหมาะกับหนุ่มวัยรุ่น หรือการไปออกงานสังสรรค์สบายๆ ชิลล์ๆ ไม่เป็นงานทางการมากนัก แต่บอกไว้เลยว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะการติดโบว์ไทด์นั้นสามารถติดเพื่อไปออกงานสังคม หรืองานทางการได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบ หรือชนิดของโบว์ไทด์ที่เราเลือกใช้ ยกตัวอย่างเช่น หากเราไปปาร์ตี้บ้านเพื่อน ต้องการความสนุกสนาน อาจติดโบว์ไทด์ที่พิมพ์ลายสนุกๆ ...
กฎข้อที่ 1 : รู้ว่ากำลังจะไปไหน หากคุณเตรียมตัวให้พร้อม และเผื่อเวลาในการค้นหาข้อมูลของสถานที่และงานที่จะไปล่วงหน้าสักนิด ก็จะสามารถแพลนการแต่งตัวได้ โดยลองค้นหาข้อมูลคร่าวๆของงานดังนี้ สถานที่ที่จะไป งานที่จะไปคืองานอะไร เวลาที่จะจัดงาน เชื่อเลยว่าถ้าคุณรู้ 3 ข้อนี้ รับรองว่าการแต่งตัวของคุณจะดูดีและเหมาะสมกับงานแน่นอน กฎข้อที่ 2 : ถ้าคุณถูกเชิญไปงานแต่ง แน่นอนว่าการแต่งตัวไปงานแต่งนั้นจะต้องแต่งชุดค็อกเทลเต็มยศ เพื่อให้เกียรติคู่บ่าวสาวในงาน แต่ถ้าคุณจัดเต็มเกินไปก็จะดูเป็นการแย่งความสนใจไปซะอีก ฉะนั้นลองเลือกสวมชุดที่ดูดีแต่เรียบง่าย และที่สำคัญคืออย่าลืมใส่ชุด หรือสีตามธีมที่เจ้าภาพในงานกำหนดไว้ด้วยล่ะ กฎข้อที่ 3 : หากคุณถูกเชิญไปในงานที่เป็นทางการ จำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่าหากเป็นงานทางการ หรืออยากดูสุภาพให้เลือกใส่สูทสีเข้ม อย่างสีดำ สีกรมท่า เป็นต้น ...
หลายคนอาจเคยประสบปัญหาว่า เมื่อต้องไปออกงานสังคมที่ต้องพบเจอผู้คนมากมาย เราจะมีวิธีการแต่งตัวอย่างไรให้ดูดี และได้รับคำชื่นชมจากผู้ที่ร่วมงาน โดยเฉพาะงานเลี้ยงแบบค็อกเทล ที่คุณผู้ชายอาจต้องใส่ใจการแต่งตัวมากขึ้นสักหน่อย เพราะการแต่งตัวไปร่วมงานค็อกเทล (Cocktail Attire) ให้เพอร์เฟกต์อาจจะต้องอาศัยทริคเล็กๆเพื่อเพิ่มเสน่ห์ สำหรับวันนี้ Mover จึงรวบรวมคำแนะนำจากสไตล์ลิสต์ชื่อดังมาให้คุณผู้ชาย เพื่อช่วยให้การแต่งตัวลุคค็อกเทลในโอกาสพิเศษของคุณดูดีขึ้นอีกระดับกันครับ งานเลี้ยงแบบค็อกเทล การจัดงานเลี้ยงแบบค็อกเทล (The Cocktail Party) การจัดงานเลี้ยงแบบค็อกเทลเหมาะที่จะใช้จัดเลี้ยงกับแขกจำนวนมาก ๆ งานเลี้ยงค็อกเทลส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการจัดเลี้ยงไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง แต่ถ้าเลี้ยงค็อกเทลแล้วต่อด้วยอาหารเย็น จะไม่มีการกำหนดเวลา อาหารที่จะใช้จะเลือกใช้อาหารประเภทคานาเป้และออร์เดิฟ และการจัดโต๊ะจะจัดแบบบุฟเฟ่ต์ การจัดเลี้ยงแบบนี้เพื่อพบปะพูดคุยกัน ไม่มีเก้าอี้ให้ เวลาที่นิยมจัดเลี้ยงเริ่มระหว่าง 5 โมงเย็น และ ...
ต้องบอกเลยว่าวิธีการช้อปปิ้งของผู้ชายและผู้หญิงนั้นแตกต่างกันมากเพราะผู้หญิงโดยส่วนมากนั้นจะสามารถเดินช้อปปิ้งเรื่อยๆเป็นชั่วโมงอยู่ในห้างแบบไม่มีวันจบสิ้นส่วนผู้ชายจะมีพฤติกรรมเหมือนการล่าเหยื่อคือจ้องเพียงแค่สิ่งที่ตัวเองอยากได้แล้วจู่โจมเลยสิ่งนี้ทำให้ผู้ชายไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตลอดทั้งวันไปกับการเดินห้างซึ่งก็ถือเป็นข้อดีประการหนึ่ง ส่วนข้อเสียคือพวกหนุ่มๆไม่ค่อยจะพิถีพิถันในการเลือกซื้อสินค้าเท่าไหร่นักอย่างบางทีการที่เห็นเสื้อผ้าตัวที่ชอบแล้วหยิบเลยอาจทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองกว่าเดิมก็ได้ MOVER เลยหาวิธีในการเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับหนุ่มๆมาฝากเพื่อที่จะทำให้การช้อปปิ้งของคุณผู้ชายง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นอีก 1. ถึงจะน้อยชิ้นแต่ใส่ง่าย หนุ่มๆคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ไม่มีอะไรจะใส่เลย” ประโยคพูดติดปากของผู้หญิงทั้งที่ตู้เสื้อผ้าของอัดแน่นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าจนแทบไม่มีที่จะใส่แล้วแต่ที่พวกเธอคิดแบบนั้นเป็นเพราะผู้หญิงมีเสื้อผ้ามากเกินไปจนทำให้เวลาจะเลือกเสื้อผ้าต้องคิดมากกว่าปกติยิ่งคิดเยอะๆเลยทำให้รู้สึกว่าอันนี้ก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ดีจนวนกลับมาในจุดที่ว่าไม่มีอะไรจะใส่เหมือนเดิม ฉะนั้นวิธีการที่ดีคือการมีเสื้อผ้าในปริมาณที่เหมาะสมไม่เยอะเกินไปและที่สำคัญคือเลือกสีที่มิกซ์แอนด์แมทช์ง่าย อย่างเช่นสีดำสีเทาสีน้ำเงินเข้มจะทำให้การแต่งตัวออกจากบ้านของคุณไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปเพราะสีพวกนี้ใส่ง่ายและใส่ได้ในทุกโอกาสแม้กระทั่งอดีตประธานาธิปดีของสหรัฐอเมริกาอย่าง‘บารัคโอบามา’ ก็เคยใช้วิธีนี้มาแล้วภรรยาของเขาเปิดเผยว่า“สามีของฉันเคยใส่ชุดเดิมไปทานข้าวในทุกรัฐมาเป็นเวลา8 ปีแต่ไม่มีใครสังเกตเห็น”เชื่อเลยว่าวิธีนี้นอกจากจะประหยัดเวลาในการแต่งตัวแล้วยังจะช่วยให้ประหยัดเงินอีกด้วย 2. หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีลวดลาย หากคุณเริ่มที่จะทำตามคำแนะนำข้อหนึ่งโดยการเลือกเสื้อผ้าด้วยสีเรียบๆแล้วล่ะก็เราอยากให้คุณเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ไม่ลวดลาย ด้วยลวดลายที่ว่านี้ หมายถึงทุกอย่างที่เป็นลวดลายทั้งหมด อาทิ ภาพสกรีนโลโก้ของเสื้อวลีเด็ดๆที่อยู่ที่เสื้อภาพวาดคูลๆฯลฯ เพราะลวดลายเหล่านั้นจะทำให้คนจำได้ว่าคุณเคยสวมเสื้อตัวนี้มาแล้ว แต่กฎข้อนี้ก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไร เพราะถ้าหากคุณอยากจะดูสบายๆได้ลุคหนุ่มวัยรุ่นหรือแนวสตรีทจะเลือกซื้อเสื้อยืดสกรีนลายเท่สักตัวสองตัวคงไม่ผิด แต่ถ้าหากคุณอยากจะใส่เสื้อตัวที่ว่าไปนานๆหรือเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในรูปร่างตัวเองเท่าไหร่นักเราขอแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีภาพหรือลวดลาย เพราะมันจะทำให้เด่นสะดุดตาผู้คนและทำให้คนจ้องเข้ามาที่รูปร่างของคุณมากกว่าเสื้อผ้าสีพื้นๆไม่มีลวดลาย 3.ใช้สีมืดพรางรูปร่าง สีดำหรือสีที่มืดจะช่วยพรางรูปร่างของคุณหากคุณไม่มั่นใจในรูปร่างหรือรู้สึกว่าไม่ต้องการให้คนสนใจในเรือนร่างของคุณลองเลือกเสื้อผ้าโทนสีมืดหรือดำดูไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดเสื้อเชิ้ตหรือสเว็ตเตอร์ก็สามารถใช้เทคนิคนี้ได้เพราะสีที่มืดไม่เพียงแต่จะช่วยพร่างรูปร่างแต่ยังจะช่วยให้หุ่นของคุณดูเพรียวขึ้นอีกด้วย 4. คนผอมใส่สีสว่าง ตรงกันข้ามหากหนุ่มๆคนไหนรู้สึกว่าตัวเองผอมเกินไปให้ลองใสสีสันสดใสโทนสว่างเพราะจะทำให้คุณดูมีชีวิตชีวาและขนาดตัวดูกว้างขึ้นเหมือนโทนสีสว่างจะช่วยหลอกตาให้คุณดูตัวใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ใครที่กังวลกับรูปร่างลองใช้เทคนิคนี้ดู 5. เลือกเสื้อผ้าที่มีเส้นลายตามรูปร่าง เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าปกติแล้วคนที่อยากดูผอมเพรียวจะเลือกเสื้อที่มีเส้นแนวตั้ง เพราะจะทำให้ดูหุ่นดีขึ้นและจะทำให้ดูตัวสูงขึ้นด้วย ส่วนเส้นแนวนอนเหมาะสำหรับคนที่อยากดูตัวกว้างขึ้นหรือต้องการลดความสูงของตัวเอง แต่การเลือกเส้นลายนั้นสามารถใช้ได้ในกรณีความสูงเท่านั้น ...
กางเกงยาวกองกับพื้นอาจจะเป็นช้อยส์ที่ผู้ชายหลายคนควรหยุดใส่ก่อน ลองหากางเกง 5 ส่วน (Cropped Pants) มาใส่กันดู เผื่อความเป็นลุงจะเปลี่ยนมาดูหล่อพุ่งกว่าเก่า กางเกง 5 ส่วนก็คือ กางเกงที่มีความยาวปิดขาลงมาถึงบริเวณหน้าแข้งปิดน่อง แต่ไม่ต่ำมาถึงตาตุ่มนั้นเองครับ บอกเลยว่าทรงนี้จะเหมาะกับหนุ่มๆหุ่นอวบเป็นพิเศษ เพราะการที่เราเปิดเผยผิวบางส่วนให้เห็นสัดส่วนบางช่วงจะทำให้เราดูเพรียวขึ้นอีกด้วย สำหรับคนหุ่นดีอยู่แล้วก็ใส่ได้สบายๆเลยครับ แต่การใส่ ‘กางเกง 5 ส่วน’ให้ดูดีไม่ออกมาเป็นลุงก็ต้องมีทริคเล็กน้อยในการใส่กางเกงทรงนี้ด้วย วันนี้เรา Mover เลยหาทริคคูลๆมาแนะนำกันว่าการใส่กางเกง 5 ส่วนให้ดูเท่มีสไตล์ต้องทำยังไงบ้างไปดูกันเลยครับ เลือกทรงขากระบอก ขาเดฟหน่อยๆ แม้ปลายกางเกงจะสูงขึ้นมาแล้ว แต่ทรงของกางเกงก็ต้องเข้ารูปหน่อย อย่างทรงกระบอก จะกระบอกเล็กหรือใหญ่ได้หมดตามสไตล์เลย และที่บอกว่าขาเดฟหน่อยๆ คืออย่าเดฟมากถึงขั้นสกินนี่ เพราะจะทำให้ดูแน่นเกินไป อย่างคนผอมก็อาจจะดูก้างยิ่งกว่าเดิม ส่วนคนอ้วนจะขากลายเป็นแหนมแน่นอน ...
เชื่อเลยว่าหากมีคนส่งการ์ดเชิญไปงานมาให้หนุ่มๆ โดยระบุเดรสโค้ดมาว่า ‘ให้สุภาพบุรุษสวมใส่ชุดค็อกเทล (Cocktail Attire) มาร่วมงาน’ บรรดาหนุ่มๆจะต้องสงสัยแน่นอนว่า ชุดค็อกเทลที่ว่านี่คืออะไร? แล้วจะต้องแต่งอย่างไรถึงจะเหมาะสม? ขอเกริ่นก่อนว่าชุดค็อกเทลของหนุ่มๆที่ว่ามานี้ ส่วนมากจะถูกระบุในเดรสโค้ดของงานแต่งงาน งานปาร์ตี้กลางคืน หรืองานเข้าสังคมที่ค่อนข้างเป็นทางการเท่านั้น นั่นเท่ากับว่าคุณผู้ชายยิ่งจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับชุดค็อกเทลตัวปัญหานี้ให้ดียิ่งกว่าเดิม วันนี้ Mover จะพาหนุ่มๆไปทำความรู้จัก Cocktail Attire เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องใส่ผิดใส่ถูกให้เขินแขกในงานจนหน้าแดงกันครับ ชุดค็อกเทล (Cocktail Attire) คืออะไร? หากในการ์ดเชิญไปงานระบุเดรสโค้ดว่า คุณผู้ชายจะต้องสวมชุดค็อกเทล นั่นหมายความว่า คุณจะต้องใส่เสื้อเชิ้ตพร้อมชุดสูท สวมรองเท้าสุภาพ พร้อมกับผูกเนคไทด์หรือติดโบว์ไทด์ไว้ที่คอปก หรือหากงานปาร์ตี้ดังกล่าวเป็นงานสบายๆ ไม่เป็นทางการมาก คุณผู้ชายก็สามารถใส่เสื้อคลุม (blazer) พร้อมกับกางเกงสีดำก็ได้ไม่ผิดกติกา สรุปสั้นๆได้ว่าหากเจอคำว่า ...
คงต้องยอมรับว่าสไตล์แฟชั่นที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเวลานี้คงหนีไม่พ้นสายมินิมอล แต่ก่อนที่หนุ่มๆจะไปรู้จักสไตล์ เรามาเข้าใจความหมายกันก่อนดีกว่า “Minimal style” มินิมอลสไตล์ หมายถึงการแต่งตัวที่เน้นความเรียบง่ายของเสื้อผ้าทั้งรูปแบบ ทรง สีสันและลวดลาย แต่ไม่ได้หมายความว่าหนุ่มๆต้องใส่เพียงสีขาว ดำเท่านั้น มินิมอลสไตล์ยังรวมไปถึงสีเทา เบจหรือแนวเอิร์ธโทนได้อีกด้วย ซึ่งแบรนด์ที่หนุ่มๆส่วนใหญ่คุ้นเคยคงหนีไม่พ้น Muji กับ Uniqlo แต่วันนี้ Mover จะขอนำเสนอ 10 แบรนด์สายมินิมอล ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศมาให้หนุ่มๆสายนี้เอาไว้เป็นทางเลือกกันครับ Twentysecond ขอเริ่มกันที่แบรนด์ Twentysecond แบรนด์ไทยแท้แต่กำเนิด ที่มีจุดเริ่มต้นจากแหล่งชอปปิ้งสุดฮิตของเหล่าวัยรุ่นอย่างสยามสแควร์ซอย 2 เสื้อผ้าของทางร้านครบครันตั้งแต่หัวจรดเท้า ในสไตล์มินิมอล เหมาะกับหนุ่มๆมือใหม่หัดมินิมอลที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือจะเป็นหนุ่มเก๋าที่มินิมอลมานานแต่เบื่อแบรนด์เดิมก็ลองเข้าไปดูกันได้ ราคาเริ่มต้นที่ 500 ...