ทำความรู้จักกับ Westlife บอยแบนด์แห่งยุค 90 ที่กำลังจะมีคอนเสิร์ตในไทย
Share
Westlife กำลังจะกลับมาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทยอีกครั้ง
- Westlife เป็นวงบอยแบนด์สัญชาติไอริชที่โด่งดังมากๆในช่วงปลายยุค 90 ถึงช่วงต้นปี 2000
- เพลงฮิตของวง Westlife มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น My Love , I Lay My Love on You และ Fool Again
- Westlife สร้างสถิติเป็นศิลปินกลุ่มที่ทำยอดขายอัลบั้มสูงที่ในประวัติศาสตร์วงการดนตรีอังกฤษ ถึง 55 ล้านแผ่น
- ปีที่ผ่านมาคือ 2018 วง Westlife มีอายุครบ 20 ปี สมาชิก 4 คนกลับมารวมตัวทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกอีกครั้ง
facebook.com/Westlife
ใครที่เป็นวัยรุ่นในช่วงยุค 90s ปลายๆย่อมต้องเคยรู้จัก Westlife วงดนตรีบอยแบรนด์สัญชาติไอริชที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก พร้อมกับสร้างเพลงป็อปสุดฮิตมากมายไม่ว่าจะเป็น My Love , I Lay My Love on You , Fool Again และ Seasons in the Sun (นำเพลงของ Terry Jacks มาร้องใหม่) เมื่อบวกกับหน้าตาอันหล่อเหลาของ 5 หนุ่มสมาชิกในวง ยิ่งดึงดูดใจให้สาวๆทั่วโลกต่างพากันคลั่งไคล้ในตัวพวกเขา
หลังจากแยกย้ายและยุบวงมาเป็นเวลา 6 ปีเต็มๆ สมาชิกของวงเวสต์ไลฟ์กลับมารวมตัวกันทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกอีกครั้ง ในชื่อ Westlife The Twenty Tour 14 Number 1’s / 20 Years of Hits โดยมีคิวแสดงในประเทศไทยวันที่ 26 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ หลายคนอาจไม่รู้จัก Westlife หรือบางคนอาจลืมข้อมูลของวงนี้ไปบ้าง วันนี้ Mover ขอพาไปทำความรู้จักกับพวกเขาอีกครั้ง เผื่อว่าคุณสนใจอยากซื้อบัตรคอนเสิร์ตไปร่วมสนุกและรำลึกความหลังไปกับ 4 หนุ่ม Westlife
facebook.com/Westlife
Westlife ก่อตั้งวงในปี 1998 ที่ประเทศไอร์แลนด์ สังกัดค่าย BMG โดยมีสมาชิก 5 คน คือ Shane Filan, Mark Feehily, Kian Egan, Nicky Byrne และ Brian McFadden เพียงซิงเกิลแรกของ Swear It Again ที่วางแผงในปี 1999 ก็สามารถขึ้นสู่ชาร์ตอันดับสูงสุดในไอร์แลนด์และสหราชอาณาจักรได้ไม่ยาก ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในฐานะบอยแบนด์แถวหน้าของยุคมิลเลนเนียม
ส่วนอัลบั้มแรกของวงที่ใช้ชื่อเดียวกันว่า Westlife วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนปี 1999 กลายเป็นอัลบั้มยอดนิยมขึ้นชาร์ตสูงสุดอันดับ 2 ก่อนที่เพลงใหม่อย่าง Fool Again จะขึ้นชาร์ตในเดือนเมษายนปี 2000 ต่อมา Coast To Coast อัลบั้มที่สองสร้างปรากฏการณ์มากมายทั่วโลก จากกระแสความนิยมเพลงป็อปและบอยแบนด์ในตอนนั้น ส่งผลให้รายการวิทยุแทบทุกทวีป เปิดเพลงดังของพวกเขาอย่าง My Love ตลอดทั้งปี
ช่วงปี 2001-2003 คือยุคทองของ 5 หนุ่ม Westlife ปี 2001 พวกเขาเริ่มต้นเวิลด์ทัวร์ในชื่อ The No Stools Tour ตามมาด้วยอัลบั้มที่สาม World Of Our Own ที่มีเพลงเด่นอย่าง Queen of My Heart กับ World of Our Own และในปี 2003 ห้าหนุ่มหน้าใสเสียงดีก็ออกอัลบั้มรวมเพลงฮิต ได้แก่ Unbreakable เป็นอัลบั้มที่สี่ หลังจากนั้นในปี 2003 ซิงเกิล Hey Whatever ก็ขึ้นสู่อันดับ 4 ในชาร์ตสหราชอาณาจักร ไล่เลี่ยกับการวางแผงอัลบั้มที่ห้า อย่าง Turnaround ที่เน้นการนำเพลงเก่ามาร้องใหม่ในแบบฉบับของพวกเขา
ความเปลี่ยนแปลงของวง Westlife เริ่มต้นขึ้นในปี 2004 หลังอัลบั้มที่หก Allow Us To Be Frank แฟนเพลงก็ต้องช็อกเมื่อ Bryan McFadden ตัดสินใจลาออกจากวง เพราะอยากให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น หลังจากสมาชิกที่เหลือแยกย้ายกันไปพักผ่อนและทบทวนบทบาทของวง ปี 2005 พวกเขาที่เหลือกันอยู่ 4 คน ยังคงตัดสินใจเดินหน้าทำเพลงต่อ โดย You Raise Me Up ที่นำเพลงจาก Secret Garden มาปรับใหม่ให้เป็นสไตล์ป็อปมากขึ้นและอัลบั้มที่เจ็ดของพวกเขาอย่าง Face To Face ก็สามารถขึ้นสู่อันดับ 1 ชาร์ตสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทั้งเพลงและอัลบั้มของพวกเขาครองแชมป์ในสัปดาห์เดียวกัน
facebook.com/Westlife
นอกจากนี้ซิงเกิลนี้ยังได้รับรางวัลเพลงแห่งปีของสหราชอาณาจักร ทำให้พวกเขาเป็นศิลปินที่ได้รางวัลเพลงแห่งปีของสหราชอาณาจักรมากที่สุดถึง 4 ปี 2006 อัลบั้มที่แปดของพวกเขาที่ชื่อ The Love Album วางแผง โดยเปลี่ยนมาร่วมงานกับค่าย Sony BMG ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงจากต้นฉบับเดิมที่นำมาขับร้องใหม่ทั้งหมด และ The Rose เพลงดังจากอัลบั้มนี้สามารถขึ้นสู่อันดับ 1 ในชาร์ตเพลงสหาชอาณาจักร ทำให้พวกเขาสร้างสถิติเป็นศิลปินที่มีเพลงขึ้นที่ 1 ถึง 14 เพลงในสหราชอาณาจักร เท่าเทียบเท่ากับ คลิฟ ริชาร์ด และเป็นรองเพียง เอลวิส เพรสลีย์ กับ เดอะ บีทเทิลส์ เท่านั้น
ขณะเดียวกัน Westlife ยังเป็นศิลปินกลุ่มที่ทำยอดขายอัลบั้มสูงที่ในประวัติศาสตร์วงการดนตรีอังกฤษในศตวรรษที่ 21 คือกว่า 55 ล้านแผ่น รวมถึงยังเป็นเจ้าของสถิติ Guinness World Records จากการมีซิงเกิลติดอันดับ 1 UK Chart ติดต่อกันยาวนานที่สุด มากถึง 7 ซิงเกิลด้วย
facebook.com/Westlife
ทว่า ปลายปี 2007 กระแสของบอยแบนด์และเพลงป็อปค่อยๆดร็อปลงไป Westlife มีผลงานอัลบั้มที่เก้าคือ Back Home แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับ Where We Are , Gravity และ Greatest Hits อั้ลบั้มที่สิบ สิบเอ็ด สิบสองตามลำดับ ในที่สุดพวกเขาประกาศยุบวง Westlife ในปี 2012 หลังการทัวร์คอนเสิร์ต Greatest Hits
มาดูชีวิตส่วนตัวของสมาชิกวง Westlifeแต่ละคนกันบ้าง Bryan McFadden หลังออกจากวงเป็นคนแรก ไบรอัน ก็มีผลงานอัลบั้มเดี่ยวออกมา แต่ไม่ได้รับความนิยม ก่อนจะผันตัวเข้าสู่วงการโทรทัศน์ และไม่เคยกลับมาร่วมกับวงอีกเลย , Shane Filan ถูกศาลลอนดอนประกาศให้เป็นบุคคลล้มละลายหลังคอนเสิร์ตอำลาวง Westlife ในปี 2012 จน เชน ต้องขายบ้านพัก ก่อนจะเป็นศิลปินเดี่ยวมีอัลบั้ม You & Me ออกมา ตามด้วยผลงานหนังสือชีวประวัติตัวเองชื่อ My Side of Life
facebook.com/Westlife
ด้าน Mark Feehily สร้างความฮือฮาด้วยการออกมายอมรับว่าเขาเป็นเกย์ แต่กระแสความนิยมจากแฟนๆต่อ มาร์ค ก็ไม่ได้ลดลงไป พร้อมกับหันไปทำธุรกิจร้านเครปและเครื่องดื่มร้อนเคลื่อนที่ และมีผลงานอัลบั้มเดี่ยวออกมาเช่นกัน , Kian Egan ถือเป็นสมาชิกที่รุ่งโรจน์ในวงการบันเทิงที่สุดในวง คีแอน เป็นผุ้ชนะในรายการดังของประเทศออสเตรเลียอย่าง I’m a Celebrity Get Me Out of Here รวมถึงได้เป็นโค้ชให้กับรายการดังระดับโลก The Voice Ireland และมีอัลบั้มเพลงเดี่ยวของตัวเองด้วย ส่วน Nicky Byrne หยุดร้องเพลงและหันไปเอาดีทางการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์อย่าง Football’s Next Star, The Hit และ The Million Euro Challenge
อย่างไรก็ตาม ปี 2018 ที่ผ่านมา เชน มาร์ค คีแอน และ นิคกี้ ก็ตัดสินใจกลับมาปลุกตำนาน Westlife วงบอยแบนด์ที่เคยโด่งดังที่สุดวงหนึ่งของโลกให้กลับมาโลดแล่นบนเวทีอีกครั้ง ในวาระครบรอบ 20 ปีของวง แม้จะกลายเป็นบอยแบนด์รุ่นเดอะไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงยืนยันที่จะมอบความสุขให้กับแฟนเพลงที่เหนียวแน่นของพวกเขาในหลายประเทศทั่วโลกอีกครั้ง ใครที่คิดถึงเพลงเพราะๆของ Westlife ยังมีเวลาให้ซื้อตั๋วไปชมคอนเสิร์ตของพวกเขาอยู่นะ
