‘วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์’ ผู้หลงใหลเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สไตล์ ‘น้อยแต่มาก’
Share
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนคงมีโอกาสใช้เวลาอยู่บ้านกันมากขึ้น ได้ทำงานจากที่บ้าน ทำความสะอาดบ้าน ได้เข้าไปใช้พื้นที่หรือเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่เราหลงลืมไป ทำให้เทรนด์การตกแต่งบ้านกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะการกลับมาใช้เฟอร์นิเจอร์ในที่ดีไซน์สวย ที่สำคัญยังต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบถ้วน หรือที่หลายคนให้คำนิยามว่า ‘น้อยแต่มาก’ นั่นเอง
โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนทาง MOVER ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณอ๋อง – วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Norse Republics ผู้ที่เรียกได้ว่าหลงใหลในเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ จนเป็นผู้นำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจากสแกนดิเนเวียนมากถึง 5 แบรนด์ ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น
- HAY : แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าไลฟ์สไตล์จากประเทศเดนมาร์กที่มาพร้อมแนวคิด Simplicity with a Twist กับการออกแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่
- FRITZ HANSEN : แบรนด์ลักซ์ชัวรี่เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังจากประเทศเดนมาร์ก ที่รวบรวมชิ้นงานที่ไอคอนนิคที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกไว้มากมาย ทั้ง Egg Chair, Swan Chair และ Series 7 Chair
- GUBI แบรนด์เฟอร์นิเจอร์กลิ่นอายเรโทร ซึ่งเน้นไปที่ดีไซน์เรียบง่ายหากแต่หรูหราน่าหลงใหล
รวมถึงสองแบรนด์ล่าสุดอย่าง VITRA และ ARTEK แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่นิยมและมียอดขายสูงสุดในยุโรป ด้วยดีไซน์เรียบง่ายที่มาพร้อมกับคุณภาพและเทคนิคการผลิตขั้นสูง ซึ่งคุณวีกฤษฏิ์ ก็ได้เผยถึงความพิเศษของแบรนด์ VITRA ให้เราได้ฟังกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ บอกเลยว่าถูกใจหนุ่มๆที่รักเฟอร์นิเจอร์แน่นอน
ประสบการณ์ช่วงโควิด
“ส่วนใหญ่พวกเฟอร์นิเจอร์ที่บ้าน ผมกับภรรยาก็จะซื้อไว้หมดแล้ว พอมีโควิดขึ้นมา เริ่มแรกคือเห็นต้นไม้ที่ระเบียงตายแล้วก็เอาต้นไม้มาเติม ส่วนภรรยาผมก็จะเริ่มไปดูเรื่องจานชามเอาเข้ามาเสริม แต่ก่อนก็ไม่เคยคิดว่าจะเอาของพวกนี้มาใช้เพราะว่ามันเป็นของขาย แต่ว่าพอใช้เองมันเปลี่ยนบรรยากาศเราเหมือนกัน อาหารก็น่าทานขึ้น การการจัดบ้านมันสนุกขึ้น การจัดโต๊ะอาหารดูมีสีสันมากขึ้น มันก็ทำให้เราเอ็นจอยมากขึ้น”
เฟอร์นิเจอร์ยุค New normal
“ช่วงโควิดที่ผ่านมา ผมก็มองเห็นว่าเทรนด์ของเฟอร์นิเจอร์จะเป็นอะไรที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ปรับเปลี่ยนตัวเองได้ ปรับเปลี่ยน space ได้ ไม่ได้จำกัดอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง เราจะเห็นได้ว่าอย่างบริษัทใหญ่ๆ พอเขาต้องปิดบริษัทช่วงโควิดให้ทุกคนทำงานที่บ้าน เขาก็จะให้พนักงานสามารถเอาโต๊ะ เก้าอี้ไปได้ ซึ่งผมว่ามันเป็นไอเดียค่อนข้างดีเพราะว่าเดี๋ยวนี้ space ก็ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง start-up business บางทีขยายตัวเร็วมาก เพราะฉะนั้นพื้นที่มันต้องสามารถ fit in ในความต้องการของอนาคตได้ นั่นก็หมายถึงเฟอร์นิเจอร์ก็ต้องเบาบาง ต้องเคลื่อนย้ายได้สะดวกจะต้องปรับเปลี่ยน lay out ได้ตลอดเวลา”
ความน่าสนใจของแบรนด์ VITRA?
“เป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานครับ ความน่าสนใจคือเขาเป็นบริษัทมีปรัชญาการดีไซน์ให้มัน beyond traditional จะเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ของเขามี innovation มี technology มีรูปทรงที่ค่อนข้างล้ำสมัย บางตัวผลิตมาตั้งแต่ปี 30 ปี 40 แต่ทุกวันนี้เวลามองไปก็ยังเห็นว่ามันยังล้ำสมัยอยู่ เป็นแบรนด์ที่ฉีกจากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ปกติมาก”
ไอเท็มที่น่าสนใจ
“เก้าอี้ตัวสีเหลือง เป็นเก้าอี้ที่เหมาะสำหรับคนทำงานในออฟฟิศ คือเราจะมีเทคโนโลยี forward tilt เวลานั่งทำงานแล้วเอนตัวไปข้างหน้า เก้าอี้มันจะตามเราไปเอง ประโยชน์ก็คือมันจะช่วยทำให้หลังเราไม่เจ็บเพราะว่า seat กับตัว back มันตามเราไปตลอด ซึ่งบางคนอาจใช้เป็นเก้าอี้ทานข้าว หรือว่าสำหรับนั่งทำงานก็ได้”
“สำหรับใครที่ชอบสไตล์ไม้ๆ คลาสสิก ก็จะเป็นคอลเล็คชั่นของ Jean Prouvé (ฌอง พูร์เว่) เป็นคอลเลคชั่นที่ทุกคนเสาะแสวงหา ถ้าคนรักเฟอร์นิเจอร์จะรู้จักอันนี้ดีแล้วเขาก็จะเก็บสะสมกันด้วย เพราะบางตัวถ้าตัวเก่าๆก็จะเป็นการผลิตเมื่อปี 1920 ช่วงยุคก่อนสงครามโลก ช่วงยุคนั้นเขาชอบนำเหล็กมาทำ มีเทคโนโลยีในการทำเหล็กค่อนข้างเยอะ เลยเอาเหล็กมาผสมกับเฟอร์นิเจอร์ แต่ก่อนเราจะเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้อย่างเดียว แต่นี่เป็นยุคแรกที่เอาเหล็กเข้ามาผสมกับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็เลยดังมาตลอด ถ้าจะหารุ่นแรกๆ ก็ราคาหลายแสนเหมือนกัน แต่ถ้ารุ่นใหม่ก็จะอยู่ที่ 30,000 กว่าบาท ก็ถือเป็นอีกตัวที่ลูกค้าชอบมาก”
“Panton Chair (เก้าอี้แพนตัน) เป็นเก้าอี้ที่ดีไซน์ล้ำสมัยมากในยุคปี 50 เป็นเก้าอี้ตัวแรกที่ทำมาจากพลาสติกชิ้นเดียว แล้วความเงาเขาก็ใช้พวกไฟเบอร์กลาสเป็นงานทำด้วยมือทั้งหมด หล่อมาเป็นเก้าอี้ตัวนี้ ก็ถือเป็นตัวคลาสสิกของแบรนด์เช่นกัน”
“Grand relax ซึ่งตัวนี้นั่งเอนดูแล้วจะสบายมากเพราะมันจะเอนตามน้ำหนักตัวของเรา แล้วยังมีปุ่มด้านข้างที่ยังสามารถปรับได้ ซึ่งตัวนี้มันดีที่ว่าสามารถใช้ในออฟฟิศ โรงแรมหรือที่บ้านก็ได้ เพราะมันมีความสบายที่ไม่ได้นุ่มหรือ relax เกินไป”
Blend in เข้ากับอะไรก็ได้
“จริงๆ ก็มีหลากหลายทั้งแบบมินิมอล คลาสสิก ร่วมสมัย หรือดีไซน์จัด ๆ ซึ่งผมว่าพวกดีไซน์จัด ๆ มันเป็นตัวที่สามารถอยู่กับอะไรก็ได้เพราะว่ามันเป็น Art piece คำว่า art มันไม่มีขีดจำกัดเพราะมันอยู่ตรงไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นคำแนะนำในการเลือก คือเราก็อาจเลือกแบบที่มีตัวธรรมดาผสมไปด้วย เพราะถ้าหากทุกตัวในบ้านเป็น Art Piece หมดก็คงไม่น่าสนใจ อาจจะมีชิ้นเด่นๆ บางชิ้นที่เราต้องการให้เป็น focus point หรือตัวนำสายตา”
“สำหรับ Vitra แม้เราจะมีผ้าและสีสันค่อนข้างเยอะ แต่ทุกอย่างจะอยู่ใน mood & tone หมด นั่นหมายความว่าผ้าทุกชิ้นที่เลือกมามันอยู่ด้วยกันได้ เรามีการ research ออกมาแล้วว่าสีแบบไหนจะเข้ากับสีแบบไหน ซึ่งสีพวกนี้มันแสดงให้เห็นว่าการ combination ที่รุนแรงขนาดนี้มันก็ยังเข้ากันได้ เพราะฉะนั้นการเลือกโทนสีก็ไม่จำเป็นต้องเลือกโทนเดียวกันทั้งหมด แต่ควรเป็นสีต่างกันที่มันมีส่วนผสมเข้ากัน”
“อย่างที่ออฟฟิศนี้เราทำเป็นคอนเซ็ปต์เหมือนกับ life office คือเราก็นั่งทำงานแบบนี้จริง ๆ ผมคิดว่าเดี๋ยวนี้ทุกอย่างมันเห็นกันหมด ไอเดียของความ transparency ที่ลูกค้าสามารถเห็นเรานั่งทำงาน มันเป็นไอเดียที่ดูจริงใจดี รู้สึกว่าเราก็ไม่ได้มีอะไรที่ต้องปิดบัง เราก็อยากจะเปิดให้ทุกคนเข้ามาชมในออฟฟิศของเรา ซึ่งก็เป็นโชว์รูมไปด้วย เพราะลูกค้าอาจจะมีข้อสงสัยว่าใช้งานไปนาน ๆ มันจะเป็นยังไง ถ้าเก้าอี้ที่เป็นผ้าใช้ไปนาน ๆ มันจะเสื่อมไหม จะรุ่ยไหม บางทีแค่คำตอบอย่างเดียวอาจจะไม่ได้เป็นตัวพิสูจน์ได้ แต่ว่าการที่เราใช้เองอยู่ทุกวันมันทำให้ตัวเราเอง เราก็รู้ด้วย แล้วก็กล้าที่จะบอกคนอื่นด้วยว่าเป็นยังไง”
การเลือกเฟอร์นิเจอร์สักชิ้น ควรพิจารณาอะไรบ้าง?
“อย่างแรกดูว่ามันเข้ากับตัวเราหรือเปล่า เราเป็นคนสไตล์แบบไหน เพราะว่าเฟอร์นิเจอร์ก็เหมือนเสื้อผ้า ผมมองว่ามันคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเรา นอกจากนั้นก็จะเป็นเรื่องความสบายแล้วว่าพอนั่งแล้วมันจะเหมาะกับสรีระเราไหม หรือถ้าสำหรับผมก็จะดูดีเทลการเย็บต่างๆ การต่อลาย ถ้าลึกไปกว่านั้นอีก อย่างคนเดนมาร์คเขาจะบอกว่าเวลาดูเฟอร์นิเจอร์ ไม่ใช่ดูแค่หน้าตาของมัน เราต้องพลิกดูข้างล่างด้วยว่ามันผลิตขึ้นมายังไง ข้างนอกดูสวยแล้วข้างในมันไม่สวยหรือเปล่า คือเหมือนเวลาเรา appreciate ของบางอย่างเราก็จะพลิกดูรอบ ๆ ผมว่าการเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญในบ้าน มันจะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี เราก็ต้องดูให้ละเอียดๆ”
ราคา VS คุณภาพ
“มันต้องไปด้วยกันนะ (หัวเราะ) แต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับ budget เราด้วยว่ามันไปถึงคุณภาพขนาดไหนแล้วเราพอใจกับมันหรือเปล่า สมมติเราเห็นเก้าอี้ตัวหนึ่งสองแสนเราบอกแพงมาก แต่พอไปหาในตลาดแล้วคุณภาพระดับนี้มันก็ราคาประมาณนี้ทั้งหมด ดังนั้นถ้าเขาพอใจคุณภาพระดับนี้เขาก็ต้องจ่ายราคานี้อยู่ดีครับ”
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถมาสัมผัสเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านดีไซน์ล้ำไม่ซ้ำใคร ได้ที่โชว์รูม Vitra ซอยสมคิด เปิด ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.นะครับ