แนะนำ 5 สถานที่คูล ๆ สำหรับ “เล่นเซิร์ฟ” ในประเทศไทย
Share
หลายคน ๆ คงจะเบื่อกับกิจวัตรประจำวันที่เป็นอยู่ เกิดความเบื่อหน่าย ลองไปค้นหากิจกรรมอะไรที่น่าสนุก บนอินเทอร์เน็ตดูสิ และน่าจะได้สะดุดตากับกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ นั้นก็คือการ “เล่นเซิร์ฟ” หรือการโต้คลื่นนั้นเอง ถึงกระนั้นจะโต้คลื่นจำรองที่สามารถเที่ยวได้ในเมือง ก็คงไม่สามารถจัดการกับความเบื่อหน่ายให้หายไปได้นาน ในครั้งนี้เราจะนำสุดยอด “สถานที่โต้คลื่น in Thailand” มาฝากกับทุกคนนะครับ อย่าเผลอไผลว่าในไทยจะโต้คลื่นไม่ได้เชียว แล้วคุณจะไม่พลาด ความงดงามของเกลียวคลื่นไทย
#สถานที่โต้คลื่น in Thailand!
หากเอ่ยถึงสถานที่โต้คลื่นในไทย เชื่อว่าหลายๆคนคงต้องนึกถึงเกาะหรือชายหาดภาคใต้ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในประเทศไทยอย่างแน่นอน แต่จริง ๆ แล้วสถานที่แบบนี้กลับอยู่ใกล้เรามากกว่าที่คิด งั้นเรามาเริ่มไล่เลียงจากที่ใกล้กรุงเทพ ไปหาที่ไกลที่สุดที่คนนิยมไปโต้คลื่นกันได้เลย
#1 | LaemYah Rayong Surf Club
แหลมหญ้า หาดบ้านก้นอ่าว และหาดแม่รำพึง จ.ระยอง
เป็นสถานที่ที่เราสามารถโต้คลื่นได้ และยังอยู่ใกล้กรุงเทพมากที่สุดอีกด้วย โดยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพ ประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อถึงตัวจังหวัด และเดินทางต่ออีก 50 นาทีเพื่อไปที่ แหลมหญ้าระยองเซิร์ฟคลับ ที่นี้มีบริการฝึกสอนสำหรับ นักเซิร์ฟมือใหม่อีกด้วย ส่วนราคาบริการฝึกสอนจะอยู่ที่ 1,300 บาท ฝึกสอน 2ชม. และเราสามารถเล่นต่อได้อีก 4 ชม.
- จุดเด่นของที่นี่คือ : อยู่ใกล้กรุงเทพ มีที่ฝึกสอนสำหรับนักโต้คลื่นมือใหม่ วิวสวย น้ำใส คลื่นเหมาะแก่มือใหม่ แต่ก่อนไปอย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยละ
#2 | หาดคุ้งวิมาน และหาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี
หาดคุ้งวิมาน ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ไม่ไกลมากจากกรุงเทพนัก โดยเฉลี่ยใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาทีเพื่อถึงตัวจังหวัดจันทบุรี และเดินทางต่ออีก 45 นาทีก็สามารถมาถึงหาดคุ้งวิมานได้แล้ว
- จุดเด่นของที่นี่คือ : คลื่นมีกำลังแรงมากกว่าชายหาดอื่น ๆ ของไทย มีโรงแรมที่พักมากมายใกล้กับสถานที่โต้คลื่น ทำให้สามารถไปพักผ่อนได้อย่างสะดวก
#3 | เกาะพยาม ระนอง
หลังจากดูที่อ่าวไทยมา 2 แห่งแล้ว คราวนี้กระโดดมาที่ทะเลอันดามันกันบ้าง นั้นคือเกาะพยามของจังหวัดระนองนั้นเอง ในสถานที่นี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสำหรับนักโต้คลื่นชาวไทยสักเท่าไร แต่เป็นที่รู้จักในหมู่นักโต้คลื่นต่างชาติเสียมากกว่า ระยะทางจากกรุงเทพมาระนองประมาณ 600 กิโลเมตร ใครสะดวกแบบไหนก็จัดเลย สำหรับที่แนะนำจะเป็นรถทัวร์โดยสารสำหรับท่านที่ต้องการชมบรรยากาศการเดินทาง ส่วนใครต้องการแบบแว๊บเดียวถึงที่หมายแนะนำเป็นเครื่องบินเลยครับ สามารถลงที่ท่าอากาศยานระนองได้สบายๆ แล้วไปต่อที่ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำเพื่อไปยังเกาะพยาม ระยะเวลาก็ตามแต่เรือที่เรานั่ง แต่ที่รวดเร็วที่สุดเห็นจะเป็นสปีดโบ๊ทที่ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที หรือถ้าเป็นเรือทั่วไปจะใช้เวลาจะอยู่ที่ 1-2 ชั่วโมง
- จุดเด่นของที่นี่คือ : เหมาะแก่การเล่นกระดานโต้คลื่นแบบ Longboard และมีนักโต้คลื่นจากหลากหลายชาติมารวมตัวกันเยอะ
#4 | Memories Beach Bar & Pakarang Surf Shop
หาดปะการัง จ.พังงา
เป็นอีกสถานที่ ที่มีบริการให้เราสามารถฝึกการโต้คลื่นได้ก่อน โดยมีค่าฝึกสอน 800 บาท ต่อ 1 ท่าน พร้อมกับให้เราเช่าบอร์ด และสามารถเล่นได้ตลอดทั้งวัน
- จุดเด่นของที่นี่คือ : ตัวหาดที่เราสามารถโต้คลื่นได้ ยาวถึง 9 กิโลเมตร และคลื่นสูงระดับพอดี เหมาะแก่ผู้ที่หัดโต้คลื่นเป็นอย่างมาก
#5 | หาดกะตะ และป่าตอง จ.ภูเก็ต
สำหรับท่านที่ชอบความสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางเยอะ หาดกะตะและป่าตอง ถือเป็นตัวเลือกแรกๆเลยทีเดียว เนื่องจากสามารถบินไปลงที่ท่าอากาศยานภูเก็ตได้ และด้วยความที่เป็นเกาะภูเก็ต เกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว ในเรื่องของการเดินทางจึงมีให้ท่านเลือกได้ตามสะดวก หาดกะตะนี้ได้รับการการันตีจากบรรดานักโต้คลื่นว่าเป็นหาดที่มีคลื่นดีระดับโลก อีกทั้งลักษณะคลื่นยังง่ายแก่นักโต้คลื่นมือใหม่ หากแต่คลื่นของที่นี้ค่อนข้างจะชิดกัน จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งหลักดี ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับคลื่นลูกถัดไปอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งที่น่าสนใจคือที่โต้คลื่นของตำบลป่าตอง มีความยาว 3.5 กิโลเมตร มีโรงเรียนสอนนักโต้คลื่นอยู่คือ Andaman Sea Surf Patong ที่สามารถให้นักโต้คลื่นมือใหม่ไปเรียนรู้ก่อนลงสนามจริง เนื่องจากคลื่นในบริเวณนี้มีลักษณะคลื่นที่ไม่ใหญ่เกินไป สามารถหัดเล่นได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับนักโต้คลื่นมือใหม่มาก
- จุดเด่นของที่นี่คือ : สามารถเดินทางไปโต้คลื่นได้ง่าย ที่พักมีมากมาย ทั้งยังเดินทางในเกาะได้อย่างสะดวก หากพูดถึงการโต้คลื่นในไทย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมักจะคิดถึงที่นี้เป็นที่แห่งแรก