Type to search

Interview

Interview : Alex Face ผลงานการเพ้นท์ครั้งใหม่ กับการสร้างอิมแพคต่อสังคมด้วยกระป๋องสเปรย์

Share

 Mercedes-Benz (ประเทศไทย) จัดงาน #GrowupLikeThis ชวนคนรุ่นใหม่สะท้อนแนวคิดแบบไร้ขีดจำกัดผ่านสองกิจกรรมสุดคูล ภายใต้แคมเปญระดับโลก Grow up”

 “GLA Car Paint x Alex Face” ได้ศิลปินกราฟิตี้ชื่อดัง “อเล็กซ์ เฟส (Alex Face) หรือ พัชรพล แตงรื่น  สร้างสรรค์ผลงาน GLA Millennials Voices’ Edition  ด้วยการเพ้นท์ภาพคาแร็คเตอร์  “เด็กน้อยสามตาหน้าบึ้ง” บนรถ Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic เพื่อเป็นเสมือนกระบอกเสียงของคนยุคมิลเลนเนียลที่ต้องการแสดงตัวตนให้สังคมยอมรับและเข้าใจในวิถีของตนเอง และ “Grow up. Define Your Own Ways Photoshoot” กิจกรรมประกวดภาพถ่ายโดยช่างภาพหนุ่มไฟแรงบนโลกโซเชียล 5 คน ถ่ายทอดแนวคิดการใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ที่ต้องสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง ณ สยามบราสเซอรี

ก่อนที่จะไปชมผลงานของ คุณพัชรพลกันแบบเต็มๆ MOVER มี Exclusive Interview เกี่ยวกับแนวคิดในการเพ้นท์ครั้งใหม่ครั้งนี้ว่าจะมีอะไรที่แตกต่างและน่าสนใจอย่างไร บอกเลยว่าได้เปิดมุมมองใหม่ๆเพิ่มอีกแน่นอน

  INTERVIEW : Patcharapol Tangruen  

#1 แรงบันดาลใจในการร่วมทำแคมเปญกับ Mercedes Benz

แรงบันดาลใจที่มาทำโปรเจค GLA Millennials’Voices’Edition คือตอนแรกที่ทาง Mercedes-Benz ติดต่อมา ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วครับว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ (หัวเราะ) ในช่วงที่คุยกันผมก็หาแรงบันดาลใจจากงานกราฟฟิตี้ พวกข้อความที่อยู่ตามถนน ผมดูว่าน่าจะนำ Message เหล่านี้มาใช้ในการทำงาน ดูว่ามันมีร่องรอยอะไรให้เราพ่นบ้าง เราพูดถึงเรื่อง กราฟิตี้ด้วย สตรีทอาร์ตด้วย หาแรงบันดาลใจจากสิ่งพวกนั้นและนำมาตีความ ผมคิดด้วยว่าผมทำงานเกี่ยวกับสตรีทอาร์ต ผมทำคาแร็คเตอร์เป็นตัวการ์ตูน มันน่าจะเล่นกับความเป็นมิลเลนเนียล ผมคิดว่าคนยุคมิลเลนเนียลเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง แล้วแต่ละคนก็มีคาแร็คเตอร์แตกต่างกันไป

ผมเลยทำให้มันมีคาแร็คเตอร์หลายๆตัวมารวมกันอยู่ในรถครับ น่าจะเป็นอะไรที่ลงตัวต่อการนำมาเพ้นท์รถยนต์ เพื่อให้มันมีความเป็นมิติที่ไม่เหมือนกับการเพ้นท์กำแพงที่เป็น 2 มิติ โดยสื่อถึงความหลากหลายของคาแรกเตอร์ผ่านสีตาของตัวการ์ตูน ก็เหมือนความแตกต่างของเชื้อชาติ ภาษา ซึ่งทุกคนมีความแตกต่างในชาติพันธุ์ แต่ความจริงแล้วพวกเราก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน สามารถอยู่ร่วมกัน รับฟังกัน และพร้อมที่จะขับเคลื่อนสังคมไปด้วยกัน เป็นการสะท้อนแนวคิดเรื่องความเท่าเทียม การให้เกียรติในการแสดงออกทางความคิด การเคารพในความคิดหรือความเห็นที่แตกต่างกัน การเข้าใจและมองรอบด้านของกระบวนความคิดมนุษย์ รวมไปถึงความเท่าเทียมกันในการแสดงออกทางความคิด

#2 ความท้าทายของงานชิ้นนี้คืออะไร?

งานชิ้นนี้ค่อนข้างจะทำการบ้านเยอะพอสมควรครับเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก อย่างแรกเลยก็คือ “เบนซ์” เป็นรถที่มีความลงตัวอยู่แล้ว ก่อนหน้านั้นผมเอารถไปขับอยู่ประมาณอาทิตย์นึง แล้วรู้สึกว่ามันปลอดภัยนะ ผมชอบระบบความปลอดภัย คือมันดีอยู่แล้ว มันเหมือนยานอวกาศสำหรับผม (หัวเราะ) มันเจ๋งมากเลย! ผมดูเรื่องความปลอดภัยเพราะผมมีครอบครัว มีคนที่ผมรัก เรื่องความปลอดภัยมันเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ กลายเป็นความท้าทายหลายๆอย่าง

ผมรู้สึกว่ารถมันหรูหรา มันลงตัวอยู่แล้ว การที่จะเติมแต่งอะไรมันยากที่จะทำในสิ่งที่คิดว่าดูดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นกว่าเดิม ผมคิดว่าไม่ต้องไปพ่นมัน รถมันก็สวยอยู่แล้วนะ (หัวเราะ) ถ้าไปพ่นมันผมเกรงว่ามันต้องทำให้สวยขึ้น มันต้องมีอะไรอยู่ในนั้น มันต้องมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากขึ้น มันก็เลยกลายเป็นความท้าทายตรงนี้ครับ

#3 เพ้นท์ตึก เพ้นท์รถ เพ้นท์ท่าเรือมาแล้ว มีที่อื่นที่อยากจะเพ้นท์อีกมั้ย?

ผมเคยคิดว่าอยากจะเพ้นท์อะไรเกี่ยวกับเรือดำน้ำ ยานอวกาศผมก็เคยคิดนะ (หัวเราะ) อะไรที่มันแบบหลุดโลกไปเลยครับ พวกวัตถุที่มันถูกส่งขึ้นไปบนอวกาศ เพ้นท์เรือ เพ้นท์สิ่งที่มันลอยอยู่ในน้ำ ผมคิดว่าอะไรก็ได้ที่มันเป็นไอเดียที่ตอบสนองเรา และเป็นสิ่งที่เราอยากจะสื่อออกไปในตอนนั้น ผมว่าบางทีมันขึ้นอยู่กับไอดียมากกว่าว่าตอนนั้นเราอยากจะพูดเรื่องอะไร อยากจะพูดประเด็นไหน แล้วอะไรจะมาตอบโจทย์เรา อย่างเช่น เราอยากพูดเรื่องสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เช่น ทะเลอย่างเนี้ย ผมคิดว่าเรือก็เป็น Object ที่น่าสนใจครับ

#4 คิดว่าศิลปะมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมทุกวันนี้อย่างไรบ้าง 

ผมว่าหลายคนอาจจะคิดว่าศิลปะเป็นเรื่องที่ไกลตัว บางคนคิดว่าศิลปะอาจเป็นเพียงภาพเขียนที่จัดแสดง เป็นชิ้นงานราคาแพงที่กลุ่มคนซื้อไปติดตามผนังบ้าน แต่ความจริงแล้วผมทำงานทางด้านศิลปะที่ต้องไปพ่นตามชุมชน กลายเป็นว่าเราได้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อม ได้พบปะผู้คน และได้พบเจอกับวิถีชีวิตโดยอัตโนมัติ มันเลยทำให้รู้สึกว่าการที่เราได้ไปพบเจอกับคนเหล่านี้ บางครั้งเหมือนกับเราได้เกิดกระบวนการคิดอะไรบางอย่าง แม้ว่าจะเป็นงานอะไรก็แล้วแต่

คนที่มาดูผลงานเขามาคุยกับเรานะครับ ความจริงแล้วทุกคนไม่จำเป็นต้องมีเงิน หรือเป็นนักสะสม ผมเจอคนทั่วไปเข้ามาคุย ผมว่านั่นแหละเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างคนกับศิลปะ ผมเลยคิดว่าศิลปะทำให้เกิดวัฒนธรรมด้วย มันเป็นเรื่องของวิถีชีวิต มันเป็นเรื่องของการบันทึกประวัติศาสตร์

ผมมองว่าถ้าเราจะสอนศิลปะเด็กแบบจริงจัง เราไม่ใช่แค่สอนเขาแค่วาดรูปอย่างเดียว แต่เราสอดแทรกพวกวิธีคิด ผมว่าเขาอาจจะมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น และผมคิดว่าศิลปะมันจะช่วยลดความรุนแรงได้ ผมคิดแบบนั้น ผมเชื่อว่าศิลปะมันสามารถบำบัดจิตใจตนเองทำให้เรารู้สึกดีขึ้นครับ

#5 คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจในงานสตรีทอาร์ต 

ถ้าเกิดจะเริ่มทำ ผมว่ามันต้องออกไปทำเลย ออกไปทำนอกพื้นที่ แต่ถ้าเราออกไปทำข้างนอกผมว่ามันก็อาจจะยากเหมือนกันในตอนแรก เพราะว่าเราจะไปพ่นยังไง เราจะไปขอใคร เราจะไปคุยกับใคร ซึ่งตอนแรกผมก็พ่นในบ้านตัวเองก่อนครับ พ่นในที่ที่เป็นของเราเอง เราพ่นจนเรารู้สึกว่ามันพอได้และเราก็ฝึกต่อ พอเสร็จแล้วเราก็ค่อยเขยิบไปปากซอย มันโอเค! เราเปลี่ยนไปหน้าปากซอย พอหน้าปากซอยผมไปซอยถัดไป

เริ่มทำไปเรื่อยๆ มันเหมือนเราค่อย ๆฝึก ค่อย ๆขยับไปเรื่อย ถ้าเราทำที่บ้านมันไม่ใช่สตรีทอาร์ตนะ มันเป็นงานที่บ้านเพราะฉะนั้นต้องไปทำในพื้นที่จริง ๆและเราไม่ใช่แค่ว่าไปพ่นอะไรไม่รู้ บางครั้งสิ่งที่เราไปพ่นคือเราใช้พื้นที่สาธารณะแล้ว เราควรที่จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำ เราอาจจะต้องให้อะไรกลับไปให้คนดูด้วย ไม่ใช่จะเอาแค่ความมันส์ หรือแค่อารมณ์ของเรา ในอีกมุมนึงเราต้องคิดถึงคนที่มาดูด้วยว่าเขาจะได้อะไรจากงานของเราครับ

GLA Millennials’Voices’Edition

ไม่ธรรมดาเลยนะครับผู้ชายคนนี้ จากบทสัมภาษณ์คุณ Alex Face เชื่อว่าทุกคนที่ได้อ่านจะต้องได้รับเรื่องราวดี ๆ มีสาระกลับไปอย่างแน่นอนครับ หากใครที่สนใจงานทางด้านสตรีทอาร์ตเป็นพิเศษ อย่ามัวรอช้า! รีบลงมือทำ ฝึกฝนตัวเองให้เก่ง เราแอบหวังว่าจะได้ชื่นชมผลงานของพวกคุณนะครับ


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com
Tags