Type to search

Lifestyle

อยาก “ดำน้ำ” ต้องรู้! หลักการง่ายๆสำหรับพิชิตโลกใต้ทะเล

Share

ลมหนาวผ่านไป ฤดูแห่งความสดใสของซัมเมอร์กำลังจะมา


ในช่วงสัปดาห์ก่อน MOVER มีโอกาสได้พูดคุยกับครูสอนดำน้ำหนุ่มใหญ่ ที่นอกจากจะเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนดำน้ำ Move Dive Thailand แล้ว ‘คุณชัยวัฒน์ นิเวศน์มรินทร์’ หรือที่ลูกศิษย์เรียกขานกันว่า ‘ครูชาร์จ’ ยังควบบทบาทช่างภาพใต้น้ำอีกด้วย เรียกได้ว่าใน 365 วัน ครูชาร์จคลุกคลีอยู่กับท้องทะเลเป็นส่วนใหญ่จนเป็นบ้านหลังที่สองเลยทีเดียว

งานนี้เราจึงไม่พลาดเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ดีๆมาฝากกัน เผื่อซัมเมอร์นี้การดำน้ำอาจทำให้คุณตกหลุมรักโลกใต้ท้องทะเลกว่าที่คิด

 “ทะเลไทย ใครจะไม่หลง” 

ครูชาร์จเล่าให้เราฟังว่า ก่อนที่จะมาเปิดโรงเรียนสอนดำน้ำครูชาร์จเป็นหนุ่มรักธรรมชาติและได้มีโอกาสทำงานใช้ชีวิตอยู่บนเรือมาหลายปี ความใกล้ชิดท้องทะเลทำให้เขาหลงรักในมนต์เสน่ห์ของโลกอีกใบที่เงียบสงบและน่าค้นหา จากการดำน้ำจึงนำมาสู่การถ่ายทอดสุนทรียะแห่งโลกใต้น้ำผ่านเลนส์ให้ชาวบกอย่างเราได้เห็นกัน

“การถ่ายภาพใต้น้ำไม่เหมือนกับการถ่ายภาพบนบกเลย เพราะใต้น้ำนอกจากสีที่หายไปตามความลึกของน้ำ และแสงส่องลงมายังจำกัดแล้ว สภาพแวดล้อมใต้น้ำ (ความขุ่น) ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถจะควบคุมได้ รวมไปถึงการควบคุมการลอยตัว (Boyancy) การเคลื่อนไหวต่างๆ นอกจากนี้เราก็ไม่ควรไปยุ่งกับธรรมชาติ อย่างการเอามือไปแตะ หรือเอาเท้าไปเหยียบพื้น เพราะมันจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ตรงจุดนั้นได้ ดังนั้นการถ่ายภาพใต้น้ำ จึงเป็นหนึ่งในสกิลเฉพาะที่เราต้องเรียนรู้ก่อน ถึงจะนำไปใช้ปฏิบัติจริงได้”

 

“เราสามารถเริ่มเรียนดำน้ำได้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
คิดดูสิ ถ้าตอนปิดเทอมแล้วมาเรียนเกี่ยวกับการดำน้ำ ตอนเรียนจบ ม.6 ต่อให้ไม่เรียนต่อ
ก็สามารถหางานที่ดี และมั่นคงได้แล้วนะ”

 “ใครอยากดำน้ำ ยกมือขึ้น” 

จากประสบการณ์การสอนดำน้ำกว่าสิบปีของครูชาร์จ บอกได้เลยว่าลูกศิษย์ลูกหาที่มาเรียนดำน้ำล้วนมีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป บ้างมาเพราะความชอบ บ้างมาเพราะความกลัว ซึ่งเราสามารถสรุปแยกย่อยเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

  1. กลุ่มที่ชอบความท้าทาย อยากทดลองสิ่งใหม่ๆ ถือเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสริมสกิลที่มีอยู่เดิมให้มากขึ้น
  2. กลุ่มที่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม มักเป็นคนที่ติดตามข่าว และเห็นปัญหาด้านธรรมชาติทางท้องทะเล จึงอยากช่วยเหลือธรรมชาติผ่านกิจกรรมต่างๆทางน้ำ
  3. กลุ่มที่อยากทำเป็นอาชีพหลัก ด้วยอาชีพสอนดำน้ำในปัจจุบัน เป็นสายอาชีพที่ยังไม่แพร่หลายมากนัก เพราะเน้นประสบการณ์ เป็น Hard Skill ที่พิเศษ ถือเป็นหนึ่งในสายอาชีพที่น่าสนใจ
  4. กลุ่มที่อยากพักผ่อน การดำน้ำ เป็นเหมือนอีกโลกใบหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ทำให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติ ในมุมมองที่แตกต่างกว่าที่เคย
  5. กลุ่มที่ต้องการพิชิตความกลัวของตนเอง กล่าวได้ว่าการดำน้ำ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องว่ายน้ำเป็น ดังนั้นจึงเหมาะมากๆ สำหรับคนที่มีประสบการณ์ร้ายๆ เกี่ยวกับน้ำ อาจเคยจมน้ำบ้าง กลัวน้ำบ้าง การดำน้ำจะทำให้เราหายกลัวกับสิ่งเหล่านั้นได้ จนบางครั้งเราอาจะรัก และหลงใหลมันเลยด้วยซ้ำ

“คุณไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไร เพื่อมาเรียนดำน้ำ”

 

ครูชาร์จบอกกับเราว่า “การเรียนดำน้ำถ้าหากเราหาข้อมูลมาก่อน ต้องแน่ใจในแหล่งข้อมูลว่าถูกต้องน่าเชื่อถือหรือไม่ บางครั้งมันอาจเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามหลักการ ซึ่งแทนที่เราจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เรียนรู้ เราอาจพลาดโอกาสนั้นแล้วได้จดจำข้อมูลที่ผิดไปแทนก็ได้ ซึ่งมันก็อาจจะยากเพราะเราเกิดความจำสิ่งนั้นไปแล้ว ดังนั้นทางที่ดีหาข้อมูลมาบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือเตรียมใจให้สนุกกับเป้าหมายที่อยากจะเรียนไว้ก็พอ ส่วนเรื่องความรู้นั้นที่เรียนจะจัดเตรียมและครูๆที่สอนจะดูแลคุณเอง”

สำหรับการเรียนดำน้ำ ครูชาร์จยังได้แนะนำอีกว่า ถ้าใครแค่อยากเรียนเพื่อนำไปดำน้ำเล่น ใช้ในการออกทริปทั้งแบบ day-trip และ liveaboard หรือแค่ท่องเที่ยวดำน้ำทั่วไป ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนครบถึงระดับ Divemaster หรือ Instructor ก็เที่ยวได้แล้ว โดยสามารถดูได้จากความเหมาะสมของหลักสูตร ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

ระดับพื้นฐาน ( เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกทริป หรือท่องเที่ยว)

  • หลักสูตรนักดำน้ำขั้นต้น (Open Water Diver Course)
  • หลักสูตรนักดำน้ำขั้นสูง (Advanced Open Water Diver Course)

ระดับกลาง (เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขยายขีดความสามารถในการดำน้ำของตนเอง)

  • หลักสูตรปฐมพยาบาล และกู้ชีพ (First Aid and CPR)
  • หลักสูตรนักด้ำน้ำกู้ภัย (Rescue Diver)

ระดับสูง แบ่งออกเป็น 2 สาย (เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้เพื่อนำไปประกอบอาชีพ)

  • Divemaster หลักสูตรที่เตรียมตัวเพื่อจะเรียนต่อเป็นครูสอนดำน้ำ Instructor ซึ่งเมื่อผ่าน Divemaster แล้วก็สามารถพาคนไปดำน้ำได้ ช่วยสอนหรือจะไปทำงานตาม Dive Center หรือบน liveaboard ได้
  • Extended Range Specialty Programs จะเป็นสายการสำหรับคนชอบผจญภัยความท้าทายหรือสถานที่เที่ยวแปลกๆ แบ่งได้หลักๆ คือ

-Cavern Diving การดำน้ำถ้ำ ซึ่งจะใช้สกิลกับอุปกรณ์ต่างจากดำน้ำแบบสันทนาการ

-Gas Blender GAS การดำน้ำแบบใช้หลายถังและแก๊สที่ใช้จะต่างกันตามระดับความลึก (ดำน้ำแบบสันทนาการใช้อากาศธรรมดาเป็นหลักคือออกซิเจน 21%)

-CCR Diving การดำน้ำที่ใช้เครื่องหมุนเวียนอากาศให้สามารถนำมาใช้ได้ใหม่ อันนี้ลึกมากและเรียนยากมาก

หลักสูตรสำหรับดำน้ำแบบสันทนาการ มีค่าเรียนประมาณคอร์สละ 10,000 กว่าบาท และถ้าใครต้องการเรียนเพื่อนำความรู้ไปประกอบอาชีพ หรือมีเวลามากพอ คุณก็สามารถพิชิตหลักสูตรทั้งหมดได้ โดยใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น ซึ่งจะทำให้คุณสามารถก้าวไปเป็นครูสอนดำน้ำได้แบบสบายๆ แต่การจะทำแบบนั้นได้ ก็จำเป็นที่เราต้องย้ายตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พร้อม เช่น เกาะเต่าหรือภูเก็ต และมีทุนทรัพย์ที่มากพอ (ประมาณ 300,000 บาท) ด้วยนะครับ


สำหรับใครที่อ่านบทความนี้แล้วเริ่มคิดอยากจะดำน้ำขึ้นมาบ้าง สามารถไปเริ่มต้นที่ Move Dive Thailand ได้นะครับ และพิเศษสุดๆ หากแจ้งว่ามาจาก MOVER ทาง Move Dive Thailand จะมอบส่วนลดให้ 15%

 

โลกใต้ทะเล เป็นอีกโลกหนึ่งที่ลึกลับ น่าค้นหา ขอให้ทุกคนสนุกไปกับการผจญภัยครั้งใหม่ที่รออยู่นะครับ!


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com
Tags