5 เทคนิคที่คุณต้องรู้! เพื่อปลดหนี้ ได้ง่ายเหมือนปลดกระดุม
Share
แค่เป็นหนี้ก็ปวดหัว แต่ ชำระหนี้ ยิ่งปวดใจ เพราะชำระเท่าไหร่ก็ไม่หมด เข้าต้นบ้าง ดอกบ้าง เห็นใบเสร็จแล้วยังงงๆ วันนี้ Money Avengers Ft. Mover ขอนำเสนอ 4 ทริค ชำระหนี้ จ่ายทั้งทีต้องคุ้มค่า!!! ให้ท่านได้รู้ว่าใช้หนี้อย่างไรจึงจะคุ้ม!!!
1. ไม่จำเป็นต้องรีบโปะ
รถยนต์ คือ ทรัพย์สินชิ้นแรกที่หลายๆคนตัดสินใจซื้อเมื่อทำงาน เพราะ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ใช้ในการทำงาน และสร้างภาพลักษณ์ได้ แต่น้อยคนนักที่จะซื้อด้วยเงินสด เมื่อกู้ซื้อมาทั้งที ก็ขอให้ผ่อนให้ดี จะได้ไม่เสียรู้เค้า สินเชื่อรถยนต์ จะคิดดอกเบี้ยแบบเงินต้นคงที่ ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ การชำระหนี้ทุกๆครั้ง เงินที่รับชำระไปจะถูกนำไปแบ่งชำระดอกเบี้ยและเงินต้นเท่าๆกันทุกๆงวด ทำให้การชำระแบบ “โปะ” หรือการจ่ายเกินกว่าที่อัตราผ่อนกำหนด ไม่ประหยัดดอกเบี้ยเลย เพราะเงินส่วนที่ชำระเกินนั้นจะถูกเก็บเอาไว้ ไปลดอัตราผ่อนในงวดหน้า ซึ่งจะถูกนำไปชำระดอกเบี้ยและเงินต้นด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม
ยกตัวอย่างเช่น…
กรณีที่เราเช่าซื้อรถ ราคา 100,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี
สัญญาเช่าซื้อนาน 5 ปี
จะต้องชำระเดือนละ 1,917 บาท
หากเราชำระตามอัตราผ่อนปกติ
เงิน 250 บาท (3% ต่อปี = 250 บาทต่อเดือน) จะถูกแบ่งออกนำไปชำระดอกเบี้ย
และส่วนที่เหลือ 1,667 บาท จะถูกนำไปชำระเงินต้น เป็นเช่นนี้ซ้ำๆไปจนครบ 5 ปี
แต่…
หากชำระเพิ่มเติมเป็น 3,000 บาท
เงิน 250 บาท จะถูกนำไปชำระดอกเบี้ยเช่นเดิม และอีก 1,667 ก็ถูกนำไปชำระเงินต้นเช่นเดิม
แต่ส่วนที่ชำระเกิน(1,083 บาท) ก็จะถูกเก็บไว้ในระบบเพื่อหักชำระเช่นเดิมจนกว่าจะครบ 5 ปีต่อไป
รู้อย่างนี้ ก็เหลือเงินเกินๆ ไปโปะสินเชื่ออื่น หรือ เก็บเงินไว้กินดอกเบี้ย คุ้มกว่าแน่นอน
TIPS : หากต้องการชำระปิดก่อนกำหนด บางสถาบันจะให้ส่วนลดเฉพาะกรณีชำระหนี้เป็นศูนย์ภายในครั้งเดียว เพราะฉะนั้นแนะนำให้รอจนใกล้ครบยอดหนี้ที่เหลือ และโทรแจ้งความประสงค์ชำระปิดยอดหนี้ เพื่อเจรจาขอส่วนลด และค่อยชำระตามยอดที่เจรจาได้ จึงจะสามารถประหยัดดอกเบี้ยได้
2. คำนวณดอกเบี้ย
ต่างกับข้อแรก การคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ของสินเชื่อบ้านนั้นและสินเชื่อส่วนบุคคลบางชนิด จะเป็นการชำระสินเชื่อ ที่แบ่งเงินที่ชำระ ไปหักชำระดอกเบี้ยบางส่วน และส่วนที่เหลือจะถูกนำไปชำระเงินต้น และคิดดอกเบี้ยงวดต่อๆไปจากเงินต้นที่ลดล ทำให้การผ่อนชำระจริงโดยปกติจะหมดก่อนสัญญาที่ระบุไว้ และ ดอกเบี้ยที่ชำระจะลดลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นศูนย์ในที่งวดสุดท้าย ทำให้การชำระหนี้แบบ “โปะ” นั้นสามารถสร้างความแตกต่างได้มากทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่น…
- กรณีที่เรากู้ซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาท
- ทำสัญญาเงินกู้ 30 ปี
- อัตราดอกเบี้ย 8% ต่อปี
- เท่ากับเราจะต้องชำระขั้นต่ำ 14,676 บาท ต่องวด
หากเราชำระตามอัตราผ่อนปกติ เงินในงวดแรกจะถูกแบ่งออก 13,333.33 บาท นำไปชำระดอกเบี้ย และที่เหลือ (1,342.67 บาท)จะถูกนำไปชำระเงินต้น ซึงจะทำให้เงินต้นในงวดถัดมาจะเหลือเพียง 1,998,657.33 บาท เท่านั้น และ เมื่อชำระงวดต่อมาเราจะเสียดอกเบี้ยเพียง 13,324.38 บาท และลดลงไปเรื่อยๆ
ตลอด 30 ปี เราจะเสียดอกเบี้ยทั้งหมด 3,282,300.79 บาท ซึ่งคิดเป็น 1.6 เท่าของเงินกู้ที่เรากู้เลยทีเดียว แต่หากเลือกชำระเพิ่มเติมเป็นเดือนละ 15,700 บาท (ชำระเกินเดือนละ 1,024 บาท) จะทำให้เงินต้น ในงวดที่สอง เหลือเพียง 1,995,299.05 บาทเท่านั้น และส่งผลให้ชำระหนี้หมดเร็วขึ้น 75 เดือน หรือ 6 ปี 3 เดือน แถมประหยัดดอกเบี้ยได้ถึง 812,187.55 บาท
หรือหากชำระเพิ่มเป็น 16,700 บาท จะชำระหนี้หมดเร็วขึ้นถึง 118 เดือน และประหยัดได้ถึง 1.26 ล้านบาทเลยทีเดียว เอาเวลา เอาเงินที่ประหยัดไปซื้อบ้านอีกหลังยังได้เลย แค่โปะทีละนิดก็ประหยัดดอกได้เป็นล้าน!!!
3. รีไฟแนนซ์ก็เป็นทางออกที่ดี
หากหนี้ของเราปัจจุบันเป็นการกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงอยู่มาก การรีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินอื่นที่อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสถาบันการเงินจะมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีภาระหนี้กับสถาบันการเงินอื่นถูกเป็นพิเศษ เพื่อเชิญชวนให้มาใช้สินเชื่อกับตน เช่น กรณีสินเชื่อบ้าน โดยทั่วไปช่วงเกิน 3 ปีแรกจะคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 5-8% ต่อปี ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 2-3.5% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งสามารถทำให้เราประหยัดดอกเบี้ยไปได้พอสมควร และช่วยลดอัตราผ่อนของเราได้อีกด้วย
TIPS : ก่อนจะทำเรื่องรีไฟแนนซ์แนะนำให้พนักงานสินเชื่อคำนวณค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยที่ประหยัดด้วย ว่าคุ้มหรือไม่ หากไม่คุ้มก็อาจจะเลือกทางเลือกที่สอง
4. ประวัติดีช่วยให้มีข้อต่อรอง
ข้อนี้เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่น้อยคนนักที่รู้คือเราสามารถขออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าเดิมที่ประวัติการชำระดี เพื่อป้องกันการรีไฟแนนซ์ออกแบบในทางเลือกแรก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยอาจจะถูกกว่าเดิมไม่มากนัก แต่ก็ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใหม่ทั้งหมด ตรงนี้ก็เป็นอีกช่องทางสำหรับคนที่ไม่อยากดำเนินเรื่องขอสินเชื่อใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีข้อดีคือ เราสามารถรับดอกเบี้ยถูกลง โดยที่ทำเรื่องเอกสารน้อยมาก แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องผ่อนชำระกับสถาบันการเงินนั้นๆมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี และไม่เคยมีประวัติการค้างชำระ (หรือแล้วแต่เงื่อนไขอื่นๆ)
กรณีของสินเชื่อส่วนบุคคล และ บัตรเครดิต ปกติแล้วสินเชื่อส่วนบุคคลแบบทั่วๆมักคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 22-28% ต่อปี และบัตรเครดิตอยู่ที่ 20% ต่อปี แต่ก็มีสินเชื่อส่วนบุคคลบางชนิดที่คิดดอกเบี้ยถูกกว่า เช่น 10% 1 ปี หรือ 17.99% ตลอดอายุสัญญา แต่ก็มีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น ห้ามชำระหนี้เป็นศูนย์ก่อน 1 ปี หรือ ห้ามชำระเกินอัตราผ่อน เราสามารถเลือกใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบพิเศษเหล่านั้น เพื่อชำระสินเชื่อเดิมที่ดอกเบี้ยแพงกว่า ซึ่งช่วยให้เราประหยัดดอกเบี้ยได้
TIPS : สิ่งที่ต้องระวังคือ ต้องมั่นใจว่าจะไม่กลับไปใช้บัตรเครดิต หรือ สินเชื่อของสถาบันการเงินเดิมอีกจนกว่าจะชำระสินเชื่อใหม่หมด มิฉะนั้นจะกลายเป็นการเพิ่มหนี้โดยไม่จำเป็น
5. ศึกษาโปรโมชั่น
หลายๆสถาบันการเงินมักมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเดิม ที่ยังมีภาระหนี้คงค้างอยู่และมีประวัติชำระที่ดี คอยเชิญชวนให้เราใช้บริการเพิ่มเติมอีกครั้ง ด้วยสิทธิพิเศษที่การขอสินเชื่อใหม่ให้ไม่ได้ ซึ่งความพิเศษนี้ แยกออกมาได้ 2 แบบคือ
- กรณีสินเชื่อส่วนบุคคล ความพิเศษอยู่ที่ความสะดวก เพราะหลายๆสถาบันการเงินเสนอการอนุมัติสินเชื่อครั้งใหม่โดยไม่ต้องทำเรื่องยื่นเอกสาร โดยมีเงื่อนไข คือ หากขอสินเชื่อครั้งนี้รวมกับยอดหนี้ที่คงค้างอยู่แล้ว ไม่เกินยอดหนี้เต็มที่เคยกู้ เพียงแค่ทำรายการผ่านโทรศัพท์ ไม่เกิน 3 วัน เงินก็โอนเข้าบัญชีเรียบร้อย
- กรณีสินเชื่อบ้านและรถยนต์ ที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมและใช้เวลารอคอยนิดหน่อย แต่ก็ได้อัตราดอกเบี้ยที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะปกติแล้วสินเชื่อบ้านและรถยนต์มักจะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ถูก(2-8% ต่อปี) เมื่อเราสนใจใช้สินเชื่อประเภทนี้อัตราดอกเบี้ยที่ได้ก็มักจะขยับขึ้นมาอีกนิด แต่โดยรวมแล้วไม่เกิน 10% ต่อปี ซึ่งถูกกว่าบัตรเครดิตถึง 2 เท่า และถูกกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลถึงเกือบ 3 เท่า
ทำให้หากมีความจำเป็นต้องการใช้เงินก้อนขึ้นมา การใช้สินเชื่อลักษณะนี้ก็จะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว เลือกได้ทั้งดอกถูก หรือ ความสะดวก เลือกใช้ดีๆมีแต่คุ้มกว่าไปใช้ดอกเบี้ยแพงๆแน่นอน!!!
ถึงแม้ทำตามทริคเหล่านี้แล้วจะชำระอย่างคุ้มค่า แต่อย่าลืมว่า ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐนะครับ
ติดตาม Tips การเงิน การลงทุนได้ที่ : Money Avengers
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงานเพจ Mover
mover.in.th@gmail.com