Tattoo Care EP.3 : 6 “ข้อห้าม” ที่คุณควรรู้เกี่ยวกับรอยสักใหม่
Share
รู้หรือไม่ว่า รอยสักที่สวยถูกใจ เกิดจากช่างสักครึ่งหนึ่ง และการดูแลของเราครึ่งหนึ่งเช่นกัน ซึ่งในขั้นตอนการดูแลรอยสัก ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงระยะสมานตัวก็มีสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงควบคู่ไปด้วย ไปดูกันเลยว่า 6 ข้อห้ามของ รอยสักใหม่ นั้นมีอะไรบ้าง!
แสงแดดคือศัตรูตัวฉกาจของรอยสักใหม่ หลังจากสักมาได้ 3-4 สัปดาห์ รอยสักอาจดูเหมือนสมานตัวแล้ว แต่ความจริงผิวหนังที่ขึ้นมาปกคลุมก็ยังเป็นเพียงหนังบาง ๆ เท่านั้น หากโดนแสงแดดโดยตรง จะทำให้สีของรอยสักซีดลง ผิวหมองคล้ำ ทำให้สีรอยสักไม่สดตามที่คุณตั้งใจไว้ ช่วงแรก ๆ คุณจึงควรปกปิดรอยสักจากแสงแดดให้มากที่สุด อดใจไว้โชว์รอยสักเพื่อสีจะได้สวยสดไปอีกนาน ๆ แต่ถึงคุณจะสักมานานแล้วก็ไม่ควรโดนแดดอยู่ดีครับ ทางที่ดีก่อนออกจากบ้านหาครีมกันแดด SPF 30 ทากันไว้ก่อนดีกว่าครับ
4. หลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดรูป
เสื้อผ้าที่รัดรูป จะทำให้รอยสักไม่ได้รับออกซิเจนอย่างทั่วถึงและเพียงพอ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการสมานแผล นอกจากนี้ระหว่างที่รอยสักกำลังสมานตัว น้ำเหลืองและหมึกจะรั่วซึมออกมาด้วย หากรอยสักแนบกับเสื้อผ้าที่รัดรูปก็อาจเกิดการแห้งกรังติดกับเสื้อได้ เวลาเอาออก นอกจากจะเจ็บแล้ว ยังจะติดเอาสะเก็ดแผลที่เพิ่งสร้างออกไปด้วยอีก ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ วิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือการพรมด้วยน้ำเพื่อให้ทุกอย่างนิ่มลงจนสามารถนำออกได้ ที่สำคัญคือห้ามดึงเด็ดขาด!
6. ป้องกันความสกปรก
ข้อนี้พูดถึงกรณีที่เลี่ยงความสกปรกไม่ได้จริง เช่น หากคุณทำงานที่ต้องพบเจอกับฝุ่น ความร้อน และมลภาวะอยู่ตลอดเวลา คุณก็ต้องดูแลรอยสักใหม่ให้ละเอียดกว่าคนทั่วไป เนื่องจากเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ ซึ่งก็จะทำให้ระยะเวลารักษาและสมานตัวนานตามไปด้วย ทางที่ดีความหาผ้าปิดแผล โดยทาครีมสำหรับรอยสักไว้ก่อน 1 ชั้นบาง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้รอยสักติดผ้าพันแผล เมื่อเสร็จงานก็ควรรีบแกะผ้าพันแผลออกให้อากาศถ่ายเท หรือถ้าทำได้ก็ควรล้างทำความสะอาดรอยสัก ซับและปล่อยให้แห้ง จากนั้นทายาอีกรอบก็เรียบร้อย
จบได้แล้วกับ 6 ข้อห้ามของรอยสักใหม่ ที่จะทำให้รอยสักของคุณออกมาสวยดั่งใจหวัง ให้คุ้มค่าฝีมือช่าง เงิน และความเจ็บปวดของคุณ ที่สำคัญ ยังช่วยให้รอยสักสมานตัวได้เร็วและลดปัญหาระยะยาว เช่น รอยสักสีซีด ได้อีกด้วย! คุณยังสามารถติดตามบทความเกี่ยวกับรอยสัก และ Tattoo Prep EP.1 และ EP. 2 ได้ที่ Mover ที่เดียวครับ
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com