เผยที่มาของ 8 ฉายา 8 รุ่นนาฬิกา “Rolex” ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน (ภาค 1)
Share
ถ้าพูดถึงนาฬิกาแล้ว คงปฎิเสธได้ยากว่าคุณนั้นจะไม่รู้จักนาฬิกาของ Rolex เป็นแน่
Rolex เป็นนาฬิกาหรูหราที่ใครหลายคนเมื่อเห็นแล้วต้องอยากได้มันมาครอบครอง อยากเอามาใส่ประดับไว้ที่ข้อมือของคุณ แต่ Rolex นั้นก็มีผลิตออกมาหลายรุ่นให้คุณได้เลือก เมื่อมีออกมาเยอะแล้วใครจะจำได้หมดล่ะ เพราะงั้นเองจึงต้องมีชื่อเล่นที่เอาไว้เรียกรุ่นๆนั้นด้วย และในวันนี้ Mover จะพามาทำความรู้จักกับชื่อเล่นต่างๆของนาฬิกาโรเล็คกันนั่นเอง
#1 | James Cameron
เรามาเริ่มกันที่เรือนแรกกันเลยดีกว่านั่นกับนาฬิกาเจ้าของฉายา “James Cameron” หากใครที่เป็นคอหนังคงคุ้นเคยกับชื่อนี้ดีเพราะ james Cameron นั้นคือผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง อาทิเช่น อวตาร และไททานิค นั่นเอง และเขายังชื่นชอบการดำน้ำและยังเป็นนักสำรวจอีกด้วย และเขาได้ใส่นาฬิกา SEA-Dweller เรือนนี้ดำดิ่งลงสู่ใต้น้ำในความลึก 10,908 (35,787ฟุต) และนั่นถือว่าเป็นจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรบริเวณมาเรียนา เทรนซ์ และนั่นจึงเป็นที่มาของฉายาของเรือนนี้นั่นเอง
#2 | Batman
เรือนต่อมานี้คงถูกใจสาวกของเหล่าค่าย DC เป็นที่แน่นอน เพราะเจ้าเรือนนี้มีฉายาสุดเท่นั่นคือ Batman นั่นเอง เพราะด้วยรูปลักษณ์เท่ๆ และมีสีดำตัดสลับกับสีน้ำเงินดังซึ่งเหมือนกับชุดของ Batman จึงทำให้เจ้า GMT Master II 116710BLNR เรือนนี้ได้ฉายานี้มา ซึ่งคงจะถูกใจและถูกคอเหล่าฮีโร่ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนราคาวางจำหน่ายนั้นอยู่ที่ 317,100 บาท
#3 | HULK
ข้ามจากฝั่ง DC มาสู่ค่าย Marvel กันบ้าง ด้วยเอกลักษณ์ของเจ้า Submariner 116610LV เรือนนี้ที่มีสีเขียวเป็นจุดเด่น ไม่ว่าจะเป็นขอบหรือหน้าปัด ก็ล้วนแต่เป็นสีเขียวทั้งนั้น จึงทำให้เจ้าเรือนนี้มีฉายาเท่ๆ ฮีโร่ผู้ที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังมหาศาลว่า “HULK” หรือเจ้ายักษ์ตัวเขียวนั่นเอง สำหรับนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวอย่าง Submariner มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 320,900 บาท
#4 | James Bond
ไปต่อกันที่ Submariner 6538 เรือนนี้กันเลยดีกว่า หากคุณชอบหนังสายลับอย่างเรื่อง James Bond คุณคงเคยเห็นเจ้านาฬิกาเรือนนี้ผ่านตาไม่มากก็น้อย นั่นก็เพราะว่านักแสดงหลักของเรื่อง Sean Connery ได้ใส่ใน 4 ภาคแรก และกลายเป็นที่จดจำของคนดูไปในที่สุด นั่นจึงทำให้เจ้าเรือนนี้ได้รับฉายาว่า “James Bond” ไปนั่นเอง และด้วยความเท่แบบสายลับจากเกาะอังกฤษผสมผสานเข้ากับความ Limited Edition จึงทำให้ Submariner 6538 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท
#5 | PEPSI
ถัดจากหนังคราวนี้เราข้ามมาที่ของกินกันบ้าง หากใครที่ชอบดื่มน้ำอัดลมคงรู้จักกันดีกับเครื่องดื่มที่ชื่อว่า PEPSI และด้วยโลโก้สัญลักษณ์ของ PEPSI นั้นมีสีน้ำเงิน-แดง ซึ่งเหมือนกับสีของเจ้าเรือนนี้ จึงทำให้เจ้าเรือนนี้ได้รับฉายาว่า “ PEPSI ” ไปนั่นเอง แต่สำหรับราคาวางจำหน่ายถ้าทราบแล้วก็อาจซ่าพอกับฉายาของนาฬิการุ่นนี้ เพราะ GMT Master II 126710BLRO มีราคาอยู่ที่ 328,300 บาท
#6 | Coke
เมื่อมี PEPSI แล้วแน่นอนว่าก็ต้องมีคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Coke ด้วยเช่นกัน เป็น 2 สิ่งที่หนีกันไม่พ้นจริงๆ แม้ในโลกของนาฬิกา (Rolex) ก็ตาม และด้วยโลโก้ของ Coke ที่มีเอกลักษณ์จากสีดำและสีแดง ซึ่งเหมือนกับขอบนาฬิกาของ Rolex GMT Master II จึงทำให้นาฬิกาเรือนนี้ได้รับฉายาว่า “ Coke ” ไปตามโทนสีที่เหมือนกัน ส่วนราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 257,972 บาท
#7 | Root Beer
มาต่อกันที่นาฬิกาที่ยังคงอยู่กับเครื่องดื่มอีกเช่นเคย คราวนี้เป็นคราวของ “ Root Beer ” เครื่องดื่มอัดลมที่มีคำว่า “เบียร์” เป็นส่วนประกอบ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีเบียร์ผสมแต่อย่างใด และด้วยลักษณะของหน้าปัดของ Submariner 126711 CHNR ที่เป็นสีดำตัดด้วยขอบที่เป็นสีน้ำตาล ซึ่งเหมือนกับลักษณะของ Root Beer จึงทำให้เจ้าเรือนนี้ได้รับฉายาว่า “ Root Beer ” ไป ด้านราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 499,900 บาท
#8 | Kermit
ข้ามจากเครื่องดื่มมาที่ตัวการ์ตูนกันบ้าง หากพูดชื่อของ Kermit หลายคนคงรู้จักกันบ้าง เพราะเจ้าตัวนี้เป็นกบสีเขียวอารมณ์ดีที่มาจากรายการโทรทัศน์ไอทีวีของประเทศอังกฤษ เจ้า Kermit ถูกสรรค์สร้างโดย Jim Henson นักเชิดหุ่นมือจากอังกฤษ และด้วยลักษณะของเจ้ากบตัวนี้ซึ่งไปตรงกับลักษณะของเจ้า Submariner 16610LV เรือนนี้ที่มีหน้าปัดเป็นสีดำ และมีขอบเป็นสีเขียว จึงทำให้เจ้าเรือนนี้ได้ฉายาว่า “ Kermit ” ไปในที่สุด ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 302,200 บาท