คู่มือ นักเดินทาง สำหรับมือใหม่หัดเที่ยว
Share
ใกล้จะสิ้นปี 2016 แล้ว นั่นหมายความว่าเทศกาลวันหยุดยาวที่ทุกคนจะได้พักจากการทำงานมาตลอดทั้งปีกำลังจะมาถึง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะปัจจุบันคนเราสามารถหาข้ออ้างในการเที่ยวได้ตลอดปีอยู่แล้ว ดัวนั้นเตรียมเปิดปฏิทินของปีหน้า แล้วเขียนใบลาล่วงหน้าไว้ได้เลย (แต่ระวังได้ใบลาออก) สมัยนี้ นักเดินทาง หลายคนมักชอบออกเที่ยวด้วยตัวเองมากกว่า เพราะสามารถเปิดเว็บแล้วดูรีวิวจากเว็บไซต์หรือบล็อกต่าง ๆ ที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ต่อมความอยากของเรามันถูกกระตุ้นได้ง่าย
แต่การจะไปเที่ยวทั้งที นอกจากเราจะต้องผ่านด่านการปวดหัวจากการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักให้ถูกใจเรามากที่สุดแล้ว การจัดกระเป๋าเนี่ยแหละ ก็สร้างความสับสนวุ่นวายไม่แพ้กัน MOVER จึงขอแนะนำ คู่มือสำหรับ นักเดินทาง มือใหม่หัดเที่ยว อย่างมีเทคนิคและชั้นเชิง
–#1––Where?–
จุดหมายปลายทางเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เที่ยวในประเทศ หรือนอกประเทศ ทวีปเอเชีย ยุโรป หรือฝรั่งอเมริกา ทุกที่มีผลต่อการจัดกระเป๋าไม่น้อย เพราะว่ามันจะส่งผลไปถึงข้อถัดไป
เหนือสิ่งอื่นใด อย่าลืมนึกถึง งบประมาณ ด้วย แต่ปัจจุบันหลายสายการบินก็มีโปรโมชั่นตั๋วราคาประหยัด พร้อมน้ำหนักสำหรับสัมพาระอีกจำนวนหนึ่ง มาให้เลือกจองกันตลอดทั้งปี ซึ่งถือว่าช่วยเรื่องนี้ไปได้เยอะ แต่บางคนไม่รีบ ก็นั่งรถชมวิว ขับรถไปเอง หรือนั่งรถไฟ ก็แล้วแต่สไตล์ ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อการจัดกระเป่าทั้งสิ้น เพราะถ้าเราไปประเทศโซนหนาว เสื้อผ้าก็จะหนาและมากชิ้นขึ้นไปตามสภาพอากาศของแต่ละที่ และการเดินทางที่คุณเลือกจะเป็นตัวตัดสินว่าคุณควรจะเอาเสื้อผ้าของคุณไปกี่ชิ้น เพราะถ้าคุณขึ้นเครื่องบินคุณก็จะไม่ต้องเหนื่อยในการแบกสิ่งของทั้งหมดเป็นเวลานาน แต่ถ้านั่งรถหรือรถไฟคุณอาจจะต้องกังวลเรื่องพื้นที่ในการจัดเก็บมากขึ้น
Tips & Tricks
>> ในประเทศ ค่าเดินทาง 500-2,xxx บาท, ค่าที่พัก เอาที่เราสบายใจและสบายกระเป๋า อยากจะโฮสเทล รีสอร์ต หรือโรงแรม 300-4,xxx บาทต่อคืนกำลังดี และค่าอาหารก็แล้วแต่ท้องถิ่นด้วย แหล่งที่เที่ยวก็อาจจะแพง โดยเฉพาะเกาะ หาดทรายที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ
>> ต่างประเทศ (เอเชีย) หากละแวกบ้าน ฮิตติดชาร์ตก็ญี่ปุ่น เกาหลี และไทเป ค่าตั๋วโปรโลวคอสต์ก็รุนแรงเหลือเกิน ไปกลับบางทีไม่ถึง 7,xxx บาท แต่ก็ยังไม่รวมสัมภาระสำหรับที่คนต้องจัดเต็มไว้ก่อน ถ้าอยากนั่งสบาย ๆ ก็คงต้อง Full-Service ซึ่งราคาประมาณ 15,xxx-22,xxx บาท แล้วแต่ช่วงเวลา รวมถึงค่าที่พัก โฮสเทลถ้าที่ดี ๆ ไม่อึดอัด ตั้งอยู่บนโลเคชั่นที่สะดวกสบาย ราคาจะเกือบแตะ 1,000 บาท หากเป็นโรงแรมก็ขึ้นอยู่กับระดับดาวที่เพิ่มมากขึ้น และค่ากินที่เราควรแบ่งเงินเอาไปลงมากที่สุด อย่ากินอยู่อย่างประหยัด แต่ก็ไม่ใช่ว่ากินแต่ร้านระดับ 5 ดาวอย่างเดียวเท่ารั้น ต้องไปกินอาหารท้องถิ่นเค้าด้วยนะ จะได้คุ้ม
>> ต่างประเทศ (ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลางและออสเตรเลีย) โปรตั๋วราคาถูกก็พอมีอยู่บ้าง แต่ถ้าต้องข้ามไปอีกซีกโลกขนาดนี้ ราคาจะสูงสักหน่อยก็คงต้องยอม อยู่ที่ประมาณ 2x,xxx-3x,xxx บาท อยู่ที่ว่าจะเลือกบินตรงหรือแวะพักเปลี่ยนเครื่อง บางสายการบินอาจจะมีช่วงลดสุด ๆ เหลือประมาณ 18,xxx-19,xxx บาท แต่ก็ต้องดูด้วยว่าสายการบินนั้นเป็นอย่างไร ค่าที่พักส่วนใหญ่จะเป็นโฮสเทล ซึ่งราคาจะสูงสักหน่อย ราว ๆ 1,500 บาทต่อคืนหรือมากกว่านั้น
เพจบอกโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินที่ดีที่สุดก็คือ Facebook: ArPaeDotCom และเว็บไซต์จองที่พักที่สะดวกมาก ๆ ก็คือ booking.com ซึ่งมีให้บริการในรูปแบบของ Application ทั้งในระบบ iOS และ Android พร้อมข้อมูล แผนที่ ข้อความยืนยันการจองให้ด้วย ไม่ต้องปริ้นกระดาษออกมาให้เปลืองทั้งเงินและเวลา
–#2––When?–
ทริปครั้งนี้เราจะไปเมื่อไหร่ เดือนไหน อย่าลืมดูสภาพอากาศด้วย หากเที่ยวในประเทศไทย ก็เดาง่ายหน่อย เพราะมีแต่ร้อน ร้อนมาก และร้อนมาก ๆ (อาจจะมีฝนบ้าง) หรือช่วงปลายปี จนถึงต้น ๆ ปีถัดไปน่าจะมีความหนาวปกคลุมบ้างในบางพื้นที่ แต่หนาวแค่ไหนแจ๊กเก็ตตัวเดียวก็น่าจะเอาอยู่
เอเชีย
ฤดูใบไม้ผลิ: มีนาคมจนถึงต้นเมษายน
ฤดูร้อน: ปลายเมษายน จนถึงราว ๆ สิ้นเดือนสิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง: (ก่อนใบไม้ร่วงจะมีฤดูฝนมาแทรกกลางบ้าง ช่วงเดือนสิงหาคม ถือเป็นช่วงมรสุม) ใบไม้จะร่วงก็ช่วงปลายกันยายนจนถึงต้นพฤศจิกายน
ฤดูหนาว : พฤศจิกายนจนไปถึงกุมภาพันธ์ (ธันวาคม จนถึงต้น กุมภาพันธ์ ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีจะอากาศค่อนข้างหนาว)
ฝั่งยุโรปและอเมริกา
ฤดูใบไม้ผลิ: มีนาคมจนถึง พฤษภาคม ก็จะเริ่มร้อนขึ้น
ฤดูร้อน: มิถุนายน จนถึงราวๆ สิ้นเดือนสิงหาคม กลางวันจะยาวกว่ากลางคืน
ฤดูใบไม้ร่วง: ใบไม้จะร่วงก็ช่วงปลายกันยายนจนถึงต้นพฤศจิกายน กลางวันจะเริ่มสั้นลง พระอาทิตย์ตกเร็วขึ้น หากไปเที่ยวช่วงนี้ก็อย่าตกใจว่าทำไมมืดเร็ว
ฤดูหนาว : พฤศจิกายนจนไปถึงกุมภาพันธ์ (ธันวาคม จน ถึงต้นกุมภาพันธ์ ญี่ปุ่นและเกาหลีจะอากาศหนาวมาก ๆ) หิมะเริ่มตก พระอาทิตย์ขึ้นเกือบ 9โมง และตกดินเวลาราวๆ 4 โมงเย็น
ด้วยภาวะโลกร้อน อากาศในปัจจุบันบางทีแทบคาดเดาไม่ได้แล้ว บางปีก็หนาวเร็วกว่า บางปีก็ร้อนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น้ำท่วมง่ายมากขึ้น ดังนั้นเราจึงควรจะเช็คอุณหภูมิก่อนเดินทางคร่าว ๆ ไว้ก่อนจากเว็ปไซต์ทั้ง weather.com และ accuweather.com หรือในรูปแบบ Application ที่ติดมากับเครื่องก็น่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ Apple
–#3––How Long?–
จากการกางปฏิทินดูแล้ว คำนวนดูว่าเราสามารถลางานไปได้กี่วัน พอได้จำนวนวันที่แน่นอน ก็มาดูกันว่าคุณมีไลฟ์สไตล์แบบไหน
สายเบาเน้นสบาย: ไม่กังวลเรื่องใส่ชุดซ้ำ กางเกงยีนส์ตัวเดียวใส่ทั้งทริป แจ๊คเก็ตตัวเดียวไปได้ทุกที่ รองเท้าคู่เดียวใส่กับทุกสไตล์ เราขอบอกเลยว่าคุณเป็นคนที่โชคดีมากเพราะไม่ต้องทนแบกเสื้อผ้ามากมายให้หนักกระเป๋า แถมเหลือที่ว่างให้ซื้อของฝากกับไปอีก
สายจัดหนัก: ไม่ว่าอากาศจะดีหรือแย่ ก็ให้ขอเท่ไว้ก่อน ต้องมีหมวก สร้อย แหวน แว่นกันแดด สายรัดข้อมือ ฯลฯ ถ้าหากคุณมีสไตล์แบบที่กล่าวมานี้ เราต้องขอเตือนให้ระวังเรื่อง น้ำหนัก ของกระเป่าด้วย หากต้องเดินทางไปในหลายที่คุณอาจจะเหนื่อยและเปลืองแรงโดยใช่เหตุ อีกทั้งเวลาจะขนของทั้งหมดกลับลงในกระเป๋าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมเช็คความเหมาะสมด้วยว่ากิจกรรมที่เราจะไปทำมีอะไรบ้าง นอนเฉย ๆ ตะลุยป่า หรือเล่นน้ำทะเล แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรจัดเสื้อผ้าไปพอดีเป๊ะ คุณควรจะเผื่อไปอย่างน้อย 1 ชุด คือเสื้อ 1 ตัว กางเกง 1 ตัว เผื่อเหตุฉุกเฉินเช่น เปียกฝน หรืออยากอยู่ต่อ
–#4––How To?–
–4.1 Backpack–
>> เลือกกระเป๋าที่มีน้ำหนักเบา มีช่องใส่ของเล็ก ๆ ได้ประมาณหนึ่ง
>> วัสดุกระเป๋ากันน้ำได้ดี สภาพยังสมบูรณ์
>> เตรียมชุดไว้ล่วงหน้า คิดล่วงหน้าไว้เลยว่าเสื้อตัวไหนจะใส่กับกางเกงตัวไหน ในวันที่เท่าไหร่ เพื่อที่จะไปไหน
>> การม้วนเสื้อและกางเกงจะประหยัดพื้นที่ได้มาก อย่าลืมม้วนกางเกงในไปด้วย จะได้หยิบ 1 ครั้งได้ไปเลย 1 ชุด
>> พกถุงพลาสติกไปเผื่อไว้ใส่ขยะ หรือเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว
>> หากสะพายกระเป๋าใบเดียวขึ้นเครื่องบิน อย่าลืมเช็คเรื่องของเหลว ที่ห้ามเกินขวดละ 100 ml. รวมถึงของมีคมเช่น ที่โกนหนวด หรือมีดพก
–4.2 Luggage–
Tips&Tricks
>> การจัดเสื้อผ้าเป็นลุคในแต่ละวันไป จะทำให้เราหยิบออกมาโดยไม่เละเทะ จบไปในแต่ละวัน โดยจะใช้การม้วนไว้ด้วยกัน หรือนำเสื้อวางทับบนกางเกงก็ได้ โดยให้ลุควันแรก ๆ วางทับบนลุควันท้าย ๆ เพื่อสะดวกต่อการหยิบใช้งาน
>> สายเบา จะเหมาะมากกับการม้วนเสื้อยืดให้เป็นปล้องแล้ววางเรียง ๆ กัน ซึ่งช่วยให้เสื้อไม่ยับอีกด้วย กางเกงใส่ซ้ำได้โดยเฉพาะยีนส์ ยิ่งสบายไปใหญ่
กางเกงชั้นใน เสื้อกล้าม และถุงเท้า จะม้วนหรือวางรวมกับลุคในแต่ละวัน หรือจะแยกไว้ในกระเป๋าเล็ก ๆ รวมกันก็ได้
>> จากภาพจะเห็นได้ว่ามีการใช้สิ่งของบรรจุไว้หลายอย่าง เช่น ถุงซิปล็อค ไว้ใส่ของเปียกเช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู หรือ ยาสระผม ส่วนกล่องใบเล็ก ๆ ไว้ใส่อุปกรณ์ไฟฟ้าเช่น สายชาร์ตต่าง ๆ ตัวแปลงหัวปลั๊ก (ควรจะซื้อแบบ Univeral Adapter สำหรับใช้ในทุกประเทศ) หูฟัง และกระเป๋าผ้าใบเล็กหรือถุงพลาสติก เอาไว้ใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่แล้ว
วิธีจัดกระเป๋าไปเที่ยวมีหลากหลายวิธี แต่เชื่อเถอะว่า ไม่ว่าวิธีไหน ๆ ก็ยังดีกว่าหยิบอะไรได้ก็โยนลงกระเป๋าเดินทาง จับอะไรได้ก็ใส่เพราะ ‘ นักเดินทาง ที่ดีจะเที่ยวทั้งที ต้องมีชั้นเชิง’
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com