เผยเทคนิค ‘ดูแลรองเท้าช่วงหน้าฝน’ ให้กลับมาคงทนเหมือนเดิม
Share
“หน้าฝน คือช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม”
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ หากใครออกไปข้างนอกโดยไม่ได้เตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนไว้ให้ดี ก็อาจเปียกได้ง่ายๆ ซึ่งสำหรับบางคนแล้วมันไม่ใช่แค่ตัวเปียกเท่านั้นแต่ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมและที่สำคัญ ‘รองเท้า’ ไอเท็มลูกรักของใครหลายๆคน ยิ่งหน้าเป็นสนีกเกอร์คู่โปรดหรือโลฟเฟอร์คู่แพง บอกเลยว่าหากเปียกขึ้นมาก็ไม่ต่างอะไรจากฝันร้ายดีๆนี่เอง
ในช่วงอากาศแปรปรวนแบบนี้ MOVER เลยได้รวบรวมเทคนิคดีๆ ในการดูแลรองเท้ามาฝากกัน เมื่อเราพลาดท่าเสียทีทำรองเท้าเปียกไปจะแก้ไขให้กลับมาเป็นสภาพปกติยังไงได้บ้าง มาดูกันครับ
หลักการพื้นฐานเมื่อรองเท้าของเราเปียกนั่นก็คือ ล้างรองเท้าภายนอกให้สะอาด + เช็ดให้แห้ง + แล้วนำไปผึ่งลม ให้แห้งให้ไวที่สุด เพราะยิ่งแห้งช้า ยิ่งชื้น ยิ่งทำให้เป็นรอยเหลืองหรือเป็นคราบ
โดยการทำให้แห้ง ให้วางรองเท้าให้เอียง 45 องศากับพื้น ให้ส้นรองเท้าเสมอพื้น และหมั่นเทน้ำออกบ่อยๆ จนกว่ารองเท้าแห้งสนิท แล้วจึงนำไปตากแดดอ่อนๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง
อย่าลืมเอาพื้นรองเท้าไปล้างและตากให้แห้งด้วย โดยใช้วิธี ล้าง เช็ด และผึ่งลม
ไม่ควรนำรองเท้าเปียกน้ำมาใส่จนกว่าจะแห้งสนิท เพราะจะทำให้หนังยืดและเสียรูปทรง
ถ้ารองเท้าเปื้อนโคลน รอให้โคลนจับตัวเป็นก้อนก่อน แล้วจึงใช้ไม้แข็งๆ ขูดออกเบาๆ ใช้ผ้าเปียกๆ เช็ดตรงรอยเปื้อน ผึ่งลมให้แห้งสนิท นำรองเท้าใส่ถุงแล้วนำไปใส่กล่อง
ติดสเปร์ยกันน้ำที่เหมาะกับวัสดุของรองเท้าของเราไว้กับตัวเสมอๆ และทำการฉีดมันทิ้งไว้ 1 คืนก่อนที่เราจะใส่มันเสมอ
รองเท้าหนังควรใช้กระดาษชุบน้ำเช็ดฝุ่นและรอยเปื้อนต่างๆ จากนั้นจึงนำครีมมาขัดรองเท้าเบาๆ
รองเท้าหนังกลับหรือหนังกำมะหยี่ ต้องใช้แปรงพิเศษสำหรับหนังประเภทนี้เท่านั้น ใช้น้ำยาเฉพาะทำความสะอาด จากนั้นใช้สเปรย์ไร้สีที่มีคุณสมบัติกันน้ำฉีด
รองเท้าหนังแก้ว ควรใช้กระดาษชุปน้ำเช็ดและทำความสะอาด จากนั้นทาครีมสำหรับรักษาหนังแก้วโดยเฉพาะ พ่นสเปรย์เพื่อป้องกันหนังแห้งและการก่อตัวของรอยแตก