How to : วิธีเซ็ทผม 2 ทรงสไตล์คลาสสิค ที่มีต้นแบบมาจากยุค 70s
Share
เมื่อพูดถึงเทรนด์ ทรงผม ยอดฮิตตลอดกาล หลาย ๆ คนก็ต้องนึกถึง 2 ทรงผมสุดคลาสสิคอย่าง ทรงเสยปาดเรียบ (Slicked Back) และ ปอมปาดัวร์ (Pompadour) เพราะถึงแม้จุดกำเนิดของมันจะมีมาตั้งแต่ยุค 70s แต่ทรงผมทั้งสองนี้กลับยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไม่มีหลุดออกนอกกระแสเลย
แต่หากจะต้องเซ็ทผมอีก บางคนก็อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยากและยอมแพ้ไปก่อนที่จะได้ลอง ดังนั้นวันนี้ MOVER และ GATSBY จึงขอนำเสนอ วิธีเซ็ทผม สไตล์คลาสสิคทั้ง 2 ทรงนี้ให้ทุกคนได้เรียนรู้และทำตามกันแบบง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเองแต่รับรองว่าดูดีแบบสุด ๆ แน่นอน
– Slicked Back –
Grease & Tight
Slicked Back หรือ “ผมเสย” เป็นที่นิยมกันมาตั้งแต่อดีต ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเซ็ทง่ายและทำเพียงครั้งเดียวก็อยู่ทนทานทั้งวัน แม้จะสวมหมวกทับก็ไม่เสียทรง เหมาะสำหรับคนที่มีผมตรงและยาวพอประมาณสำหรับการเซ็ทไปด้านใดด้านหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคที่ดูเรียบร้อยและเป็นทางการ จะเซ็ทไปทำงานหรือพบปะคนสำคัญก็ดูเหมาะสม อุปกรณ์ที่จำเป็นก็มีเพียงไม่กี่ชิ้นอย่าง โพเมด และหวีเท่านั้น
How to Style
สำหรับตัวช่วยในการแต่งทรงสุดคลาสสิคอย่าง Slicked Back ก็คือโพเมดแต่งผม GATSBY รุ่น Supreme Grease กระปุกสีเทา ซึ่งจะช่วยเสริมความเงางามซึ่งเป็นจุดเด่นของทรงผมแบบนี้ได้ดี ส่วนพลังในการจัดแต่งทรงผมและความทนทานอยู่ทรงนั้นก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว ที่สำคัญเป็นโพเมดสูตรออยส์เบสที่ล้างออกง่าย ไม่มีปัญญาเรื่องการทำความสะอาดแน่นอน
#1 Step: เริ่มต้นจากการสระผมให้สะอาดแล้วใช้ไดร์เป่าจนแห้ง โดยทรงผมที่เหมาะกับการนำมาเสยก็มีหลายแบบด้วยกัน ทั้งรองทรงที่ด้านบนและด้านหน้ายาวสักหน่อย หรือจะเป็นอันเดอร์คัทก็ทำได้เช่นกัน จากนั้นก็ทำการวอร์มโพเมดให้ทั่วฝ่ามือ แล้วลูปลงไปให้ทั่วเส้นผม โดยเน้นให้เส้นผมด้านหน้าถูกเสยไปไว้ด้านหลังให้หมด ในขั้นตอนนี้อาจจะใช้หวีเป็นตัวช่วยก็ได้เช่นกัน
#2 Step: หลังจากนั้นก็ทำการปาดผมด้านข้างทั้งสองข้างให้เรียบสนิท เน้นเก็บรายละเอียดเส้นผมรอบ ๆ ใบหูให้เนี้ยบ อาจจะใช้มือช่วยกด ๆ มันไว้สักครู่หนึ่งเพื่อช่วยให้อยู่ทรงมากขึ้น ยิ่งถ้าใครชอบสไตล์เปียก ๆ แบบ Wet Look ล่ะก็โพเมด Gatsby ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์สุด ๆ
#3 Step: เพื่อความเนี้ยบที่มากยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้เราแนะนำให้ใช้หวีช่วยจัดทรงได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ได้ Texture มากขึ้น ใครชอบเนี้ยบมากก็เสยมันให้เรียบที่สุด แต่เราขอแนะนำว่าเซ็ทให้ดูพอง ๆ สักนิดก็จะดี เพราะจะช่วยให้หน้าคุณดูเรียวมากขึ้น พอทุกอย่างลงตัวแล้วก็ถือเป็นอันเสร็จขั้นตอนการแต่งผม
– Pompadour –
Volume & High
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ ปอมปาดัวร์ กันก่อน โดยทรงผมนี้จะเน้นการเซ็ทตรงปลายผมด้านหน้าให้ม้วนขึ้นหรือเสยชี้ขึ้นด้านบน แต่ถ้าใครที่ต้องการความเนี้ยบกว่าปกติหรือผมยังยาวไม่มากพอที่จะปาดขึ้นก็สามารถปัดไปด้านข้างได้ ซึ่งนี่เป็นทรงผมที่เหมาะกับทั้งคนผมตรงและผมหยักศก โดยนอกจากจะต้องพึ่งพาสกิลการจัดแต่งสักเล็กน้อยแล้ว ตัวช่วยอย่างโพเมดแต่งผมที่ต้องมีประสิทธิภาพมากพอเช่นกัน
How to Style
และวันนี้โพเมดแต่งผมที่เราเลือกมาเป็นตัวช่วยในการจัดทรงผม Pompadour ก็คือ GATSBY รุ่น Supreme Hold กระปุกสีน้ำตาลที่มีพลังในการจัดแต่งทรงผมให้อยู่ทรงในระดับที่ดีเยี่ยม เพิ่มความเงาให้กับเส้นผมระดับหนึ่ง ที่สำคัญคือล้างออกง่ายไม่เป็นปัญหาในการทำความสะอาดแน่นอน
#1 Step: เริ่มต้นจากการวอร์มผลิตภัณฑ์โพเมด Gatsby รุ่น Supreme Hold ให้ทั่วทั้งฝ่ามือ จากนั้นเสยผมด้านหน้าไปในทิศทางที่ต้องการ โดยเน้นให้ด้านหน้าม้วนเสยขึ้นไปด้านบน กะระยะการเสยจากความยาวของผม ถ้าหากยาวมากก็ใช้วิธีปาดไปทางด้านข้างซ้าย-ขวาได้เช่นกัน
#2 Step: และถ้าผมด้านข้างของคุณมีความยาวประมาณหนึ่ง ก็สามารถนำโพเมดมาช่วยจัดทรงให้เรียบไปได้อีกเช่นกัน อาจจะใช้วิธีออกแรงกดไว้สักพักหนึ่ง หรือหากมีผมส่วนไหนที่ยังชี้หรือกระดกขึ้นมา ก็สามารถจัดแต่งให้เข้าทรงได้ในขั้นตอนนี้
#3 Step: ขั้นตอนสุดท้ายคือการทำให้ทุกอย่างเที่เราเซ็ทมามีวอลลุ่มและอยู่ทรงนานตลอดทั้งวัน ด้วยการใช้มือขยี้ที่โคนผมเล็กน้อยพร้อมกับใช้ไดร์เป่าไปในทิศทางที่เราได้ปาดผมไปในขั้นตอนที่หนึ่งและสอง เป็นอันเสร็จสิ้น
ถือได้ว่าทั้ง 2 ทรงผมที่เราเลือกมานี้เป็นทรงที่เซ็ทง่าย ใคร ๆ ก็เซ็ทตามได้ในเวลาไม่นาน ใช้เพียงแค่ผลิตภัณฑ์แต่งผมที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับทรงที่คุณต้องการ เพียงแค่มีผลิตภัณ์โพเมดดี ๆ จาก GATSBY วางจำหน่ายแล้วเฉพาะที่ร้าน Watsons ทุกสาขา ราคาเพียงกระปุกละ 220 บาท เท่านี้คุณก็ได้ทรงผมสไตล์คลาสสิคสุดเท่ทุกเวลาที่ต้องการแล้ว
Facebook: GATSBY Thailand