8 Elements นิทรรศการภาพถ่าย สีขาวดำ จาก 8 ช่างภาพสุดยอดฝีมือ

Eight Thonglor ไลฟ์สไตล์มอลล์หรูใจกลางกรุง เปิดพื้นที่จัดนิทรรศการภาพถ่ายสีขาวดำที่ชื่อว่า ‘8 Elements’ เชิญชมผลงานจาก 8 ช่างภาพสุดยอดฝีมือ สมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ

การได้รับชมผลงานภาพถ่ายที่งดงาม นอกจากจะสรรค์สร้างสุนทรียภาพทางสายตาและเปิดมุมมองให้เห็นมิติใหม่ในชีวิตแล้วนั้น คงจะดีไม่น้อยถ้าสิ่งสวยงามเหล่านี้ยังสร้างสามารถต่อยอดการแบ่งปันมอบความช่วยเหลือสู่สังคมได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ Eight Thonglor ไลฟ์สไตล์มอลล์ยอดนิยมย่านสุขุมวิท ภายใต้การบริหารของ ชัยรัตน์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทองหล่อ เมเนจเม้นท์ ได้เปิดพื้นที่จัดงานนิทรรศการภาพถ่ายที่ชื่อว่า 8 Elements นำเสนอผลงานภาพถ่ายสีขาวดำจาก 8 ช่างภาพสุดยอดฝีมือผู้ประสบความสำเร็จระดับนักบริหาร ให้เหล่าคนเมืองได้มาร่วมสัมผัสเสน่ห์และเรื่องราวต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกผ่านภาพถ่ายที่ล้วนคัดสรรมาอย่างบรรจง โดยรายได้จากการจำหน่ายรูปภาพและหนังสือภาพ จะมอบให้กับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อเป็นเงินทุนช่วยเหลือและพัฒนามูลนิธิสืบต่อไป โดยสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2560  ที่ Eight Thonglor ชั้น G 

โดยในงานได้รับเกีรยติจากเหล่าเซเลบริตี้ผู้ชื่นชอบงานศิลปะมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ ปริญญา-จันทิรา-ระริน ธรรมวัฒนะ, ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี, อรชุมา ดุรงค์เดช, พิชามญช์ ชมะนันทน์, ตะวันนา ธารา, นิติกร กรัยวิเชียร, นภัทร-พรพิลาส อัสสกุล, หม่อมหลวงกอกฤษต กฤดากร, อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์, ศิโรตม์ เสตะพันธุ, อรวรรณ อิงคสิทธิ์, ธนพัฒน์ สุวรรณสรางค์, เธียรินี รุจิขจรเดช, เอกชัย-อรณิชา-อานิสา บูรพชัยศรี, ปาริสา อิศรเสนา ณ อยุธยา,กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา, ณ ภัทร ณ ตะกั่วทุ่ง, นที มาเสถียรวงศ์, กวิล ชัยเกียรติ, นรรจาพร จงควินิต ศรันย์-รดา อดุลตระกูล, กร ทองทั่ว, ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ และอีกมากมาย

รวมถึงเหล่านักแสดงชื่อดัง อาทิ, ปณิตา ธรรมวัฒนะ, ศุภักษร เรืองสมบูรณ์, อลิชา-ภูริ หิรัญพฤกษ์, ดิษยา กรกชมาศ, วรัฐฐา อิมราพร, รจนนท์ กระจ่างวงศ์, วิชาดา พูลผล, ศุภัชญา รื่นเริง และอีกมากมาย

โดยความพิเศษของงานครั้งนี้คือการรวบรวมสุดยอดผลงานระดับมาสเตอร์พีซจาก 8 ช่างภาพมือสมัครเล่นที่ฝีมือไม่สมัครเล่นจากหลากหลายสาขาอาชีพที่ต่างก็มีใจรักในการถ่ายภาพมาจัดแสดงผลงานไว้ด้วยกัน ได้แก่ อนุวัต บูรพชัยศรี, ภาคภูมิ หัศบำเรอ, แพทย์หญิงอรอินทร์ เรืองวัฒนสุข, ธนากร เตลาน, เบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา, รชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา, ภูมิใจ อัตตะนันทน์ และวิชิรศักดิ์ เมธีวรกุลกิจ

‘Eight Thonglor’ ไลฟ์สไตล์มอลล์คอนเซ็ปต์ Neighborhood Lifestyle Mall ในบรรยากาศสะดวกสบาย ที่พรั่งพร้อมด้วย ร้านค้าและบริการกว่า 40 ร้านที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารชั้นเลิศและคาเฟ่หลากหลายสัญชาติ อาทิ ญี่ปุ่น, อินเดีย, ฝรั่งเศส, สเปนและอาร์เจนติเนียน ร้านค้าแฟชั่น แบรนด์แนมวินเทจ ไทยดีไซเนอร์ รวมถึงสถานเสริมความงามและออกกำลังกาย ซึ่งนับว่าครบครันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างแท้จริง

ชัยรัตน์ แสงทอง กล่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า ‘ทุกวันนี้ ‘เอท ทองหล่อ’ เปรียบเสมือนห้องนั่งเล่นของคนเมืองที่สามารถเข้ามาใช้ชีวิตเติมเต็มความสุขได้อย่างเต็มเปี่ยม แต่นอกจากสินค้าบริการแล้ว เราก็อยากตกแต่งห้องนั่งเล่นที่เรามีอยู่นี้ ด้วยผลงานทางศิลปะที่ให้ผู้ที่มีความสนใจได้มาเข้าชม ซึ่งงานนิทรรศการภาพถ่าย ‘เอท เอเลเมนท์’ (8 Elements) ที่จัดขึ้นมาในครั้งนี้ความพิเศษอยู่ตรงที่เป็นการค้นพบผลงานภาพถ่ายของช่างภาพมือสมัครเล่น 8 ท่านที่ล้วนแต่ฝีมือไม่ธรรมดา และรู้สึกทึ่งมากเมื่อพบว่าผู้ที่ถ่ายภาพเหล่านั้นล้วนแต่เป็นผู้บริหารระดับสูงที่ประสบความสำเร็จจากต่างสาขาอาชีพที่มาถ่ายรูปเพียงเพราะใจรักอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้เราจึงได้นิยามทั้ง 8 ท่านว่าเป็น Undiscovered Photographers หรือช่างภาพผู้ไม่เคยถูกค้นพบที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้อีกมากมาย และรายได้จากการจำหน่ายภาพหลังจากหักค่าใช้จ่ายเราจะส่งมอบให้กับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ต่อไป’

โดยในงาน ‘8 Elements’ มีจุดเด่นอยู่ที่การนำสุดยอดผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซจาก 8 ช่างภาพมาจัดแสดงไว้ร่วมกัน ซึ่งแต่ละท่านได้กล่าวถึงความพิเศษของผลงานชิ้นเด่นนี้ เริ่มจากผลงานของ อนุวัต บูรพชัยศรี ผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหลากหลายแขนง ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอบริษัทเอ็มอีซีกรุ๊ป, กงสุลกิตติมศักดิ์แห่งสาธารณรัฐโปแลนด์, เลขานุการคณะกรรมการสถาบันการธนาคารสภาผู้แทนราษฎร และเจ้าของนามแฝงช่างภาพที่ใช้ชื่อว่า Eyeshadow ซึ่งผลงานของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อครั้งที่ถูกรับเลือกให้ไปจัดแสดงอยู่ที่ Leica Gallery ประเทศสิงคโปร์และผลงานชิ้นชิ้นโดดเด่นของเขามีชื่อว่า EMBRACING THE LIGHT ‘ผมชอบแสงเงา และสีขาวดำ โดยคอลเลกชั่นที่เลือกมาแสดงครั้งนี้จะเป็นภาพคนทั้งหมดซึ่งมีแสงเงามาเป็นส่วนประกอบหลักในการถ่าย โดยแต่ละภาพก็จะแสดงอารมณ์แตกต่างกันออกไป แต่จะมีกลิ่นอายความดิบแฝงอยู่ เพราะผมไม่เคยแต่งภาพเวลาถ่ายก็จะจบที่หลังกล้องเลย’

ภาคภูมิ หัศบำเรอ กรรมการบริหารบริษัท แอทเทเลียร์ พี จำกัด เจ้าของผลงาน สะพานเทียบเรือ เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา ‘ผมเป็นแค่นักท่องเที่ยวหนึ่งคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นภาพของผมก็จะมีทั้งภาพวิวทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม รวมถึงสตรีท แต่ภาพมาสเตอร์พีซที่เป็นสะพานเทียบเรือ ผมชอบเพราะโครงสร้างของภาพมันมีความแข็งแรง ทั้งองค์ประกอบของเส้นสาย จังหวะของน้ำที่กระฉอก และแสงเงาที่เกิดขึ้น เพราะการถ่ายแลนด์สเคป (Landscape) มันต้องใช้เวลา ในแต่ละสถานที่มันจะมุมที่แสงสวยตามระยะเวลาของมัน ต่างจากการถ่ายสถาปัตยกรรมที่สามารถถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะให้แสงเงาในแต่ละเวลาต่างกันอยู่แล้ว’

ภูมิใจ อัตตะนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กับผลงาน When Doves Cry ภาพที่เกิดขึ้นจากการนำภาพถ่ายจริงมาแต่งเติมเทคนิคการสร้างภาพให้เกิดเป็นภาพใหม่ที่ให้อารมณ์ที่แตกต่าง ‘เราชอบภาพมีความหมาย สามารถสื่อสารไปกระทบกับความรู้สึกของคนได้ ซึ่งเขาอาจจะรู้สึกเหมือนเราหรือต่างจากเราก็ได้ นั่นคือความสนุก คืออิสระในการชมงานอาร์ต ส่วนภาพมาสเตอร์พีซ When Doves Cry ชื่อนี้เป็นชื่อเพลงของวง Prince ศิลปินที่เราชื่นชอบ เราก็เลยสร้างภาพนี้ขึ้นมาตามอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง เพื่อรำลึกถึงวันที่เขาจากไป’

รชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองประธานอาวุโสฝ่ายขายและการตลาดทั่วโลก บริษัท นาราห์เฮิร์บ จำกัด ที่มาพร้อมผลงาน IF YOU WANT TO GO BIG, STOP THINKING SMALL ‘ปกติผมถนัดถ่ายสตรีท (Street) และภาพถ่ายขาวดำก็เป็นความท้าทายสำหรับผม เพราะมันจะไม่มีสีมาดึงดูดความสนใจ ครั้งนี้ผมเลยเลือกถ่ายภาพแลนด์สเคป (Landscape) ให้คนได้เห็นถึงความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติผ่านมุมมองของเรา ซึ่งคนส่วนใหญ่เวลาตั้งใจจะไปถ่ายภาพที่ไหนสักแห่ง มักจะไปถ่ายแต่ที่จุดหมายปลายทาง แต่สำหรับผมจะชอบถ่ายภาพระหว่างทางไปด้วย ซึ่งหลายครั้งภาพที่ดีที่สุดก็เป็นภาพระหว่างทาง ที่คนส่วนใหญ่มักมองไม่เห็น’

วิชิรศักดิ์ เมธีวรกุลกิจ รองประธานฝ่ายหุ้นค้าปลีก 1 ธนาคารซีไอเอ็มบี และช่างภาพที่ผลงานภาพถ่ายของเขาเคยได้รับเลือกจากเว็บไซต์ไลก้า ให้นำไปตีพิมพ์ลงบนหนังสือภาพของเยอรมันที่ถูกวางจำหน่ายไปทั่วโลก และครั้งนี้ผลงานมาสเตอร์พีซของเขามีชื่ว่า TE ANAU, New Zealand ‘ผมเป็นคนที่ชอบสะสมกล้องมาก่อน จนกระทั่งได้กล้องมาตัวหนึ่ง เป็นตัวที่เราชอบมากก็เลยเริ่มออกเดินทางและใช้กล้องนั้นถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าการถ่ายภาพเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรารัก ส่วนภาพที่นำมาจัดแสดงจะเป็นภาพที่มีความทรงจำของผมอยู่ในนั้น อย่างภาพมาสเตอร์พีซที่เป็นแกะเดินบนถนน ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกของการถ่ายแลนด์สเคป (Landscape) ผมเตรียมตัวไปอย่างดีตั้งใจว่าจะไปถ่ายภาพนี้ให้ได้ ในขณะที่ทุกคนบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยากมากที่แกะจะเดินหลายๆ ตัวบนถนนแบบนั้น ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของผม’

 เบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ซีอีโอแห่งบริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอาท์เล็ท จำกัด กับผลงานมาสเตอร์พีซที่มีชื่อว่า GOLDEN TEMPLE ‘การถ่ายภาพมันคล้ายกับกระบวนการหนึ่งในสมองของเรา เวลาที่เห็นอะไรสวยๆ เราจะสามารถจดจำรายละเอียดของภาพนั้นเอาไว้ได้อย่างแม่นยำมาก ดังนั้นการถ่ายภาพของเราก็คือการถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในหัวของเราออกมาเป็นภาพถ่าย นำเสนอถึงอารมณ์ ความรู้สึกของเหตุการณ์ ณ ขณะนั้น เวลาหยิบภาพนั้นขึ้นมาดูมันจะพาเรากลับไปสู่ความรู้สึกในตอนนั้นได้ อย่างภาพมาสเตอร์พีซจะเป็นภาพวัดที่ญี่ปุ่นซึ่งมีวิวสวยมาก ภาพที่เราเห็นคือให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ด้วยมุมและองค์ประกอบภาพ มองเห็นเงาสะท้อนของวัดในน้ำ เลยรีบหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพนั้นไว้ทันที’

สำหรับผลงานภาพไฟน์อาร์ตที่เรียกเสียงฮือฮาผลงานจาก ธนากร เตลาน ช่างภาพผู้สร้างสรรค์ศิลปะด้านไฟน์อาร์ต (Fine Art) ซึ่งผลงานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้เคยได้รับการคัดเลือกจากช่างภาพมืออาชีพให้นำไปเผยแพร่ที่ต่างประเทศมาแล้ว และผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซของงานนี้มีชื่อว่า FREEDOM TO EXPRESS ‘สไตล์ที่เห็นชัดเจนในงานของผมคือ แสง เงา และอารมณ์ ผมจะเน้น 3 สิ่งนี้เป็นหลักในการ นำเสนอภาพออกมา และทุกภาพจะมีรายละเอียดของอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ และภาพที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้เป็นภาพไฟน์อาร์ตนู้ด (Fine Art Nude) ทั้งหมด ซึ่งสำหรับผมภาพนู้ดถ้าเรามองให้เป็นศิลปะ มองเห็นเป็นเส้นสายโครงร่างของมนุษย์ เห็นความอ้วน ผอม หรือรูปร่างอื่นๆ มองและจับความงามของมันให้ได้ คุณก็จะเห็นแง่มุมดีๆ ของมัน’

และปิดท้ายด้วยภาพมุมมองศิลป์ของ แพทย์หญิงอรอินทร์ เรืองวัฒนสุข กรรมการบริหารบริษัท เอส.เอส.แมนูแฟคเจอริ่งจำกัด และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ ดร.สมชาย ‘เริ่มสนใจการถ่ายภาพตอนที่ไปเรียนที่ปารีส แล้วมีโอกาสได้เห็นงานของ Henri Cartier-Bresson เป็นภาพขาวดำที่สวยมาก เราไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนถูกหยุดเวลาเอาไว้ เราก็เลยเริ่มถ่ายภาพตั้งแต่ตอนนั้นซึ่งมันทำให้เราได้หลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง เราชอบถ่ายภาพชีวิตคน ชอบมองผู้คนที่กำลังมีความสุข แต่จะไม่เข้าไปรบกวนเขา เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลาที่ดีมีแค่ครั้งเดียว ถ้าผ่านเลยไปก็จะไม่กลับมาอีกแล้ว’

โดยงานครั้งนี้ได้รับการตอบจากเหล่าคนเมืองผู้มีไลฟ์สไตล์ที่ดีเป็นอย่างดี ซึ่งแต่ละคนจะมาร่วมเผยถึงมุมมองทางด้านผลงานศิลปะที่ชื่นชอบแบบเฉพาะตัวและแนะนำพิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลปะทุกคนควรไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต เริ่มจากเซเลบริตี้สาว ระริน ธรรมวัฒนะ ‘เราว่าศิลปะมันเป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็แล้วแต่มันคือการสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ทั้งการแต่งตัว การทำอาหาร หรือแม้แต่การดำเนินชีวิต ซึ่งโดยส่วนตัวเราจะเป็นคนที่ชอบผลงานที่มีเรื่องราว ชอบที่จะได้ฟังเจ้าของผลงานเขาอธิบายว่างานชิ้นนี้มีที่มาที่ไปยังไง ถ้าพูดถึงมิวเซี่ยมที่ชื่นชอบก็จะเป็นที่ Isabella Stewart Gardner อยู่ที่บอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เจ้าของเขาจะชอบเอาคอลเลกชั่นงานศิลปะของตัวเองมาจัดแสดง แล้วก็จะมีโซนให้คนได้มานั่งวาดภาพเล่นตรงสวนกลางมิวเซียม’

ถัดมาที่ดีไซน์เนอร์สาวสวย ตะวันนา ธารา เผยว่า ‘จริงๆ เป็นคนที่ชอบชมนิทรรศการศิลปะมาก เพราะสิ่งที่เราได้เห็นมักจะมาเป็นส่วนหนึ่งในแรงบันดาลใจของการใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องทำงานอย่างเดียวแต่มันทำให้เราอยากจะมองโลกให้กว้างกว่านี้ เพราะส่วนใหญ่งานศิลปะมันมักจะมาจากประสบการณ์ชีวิตของใครบางคนที่ถ่ายทอดออกมาให้เราได้เรียนรู้ ส่วนมิวเซี่ยมที่เคยไปชมงานแล้วชอบมากคือที่ The Museum of Modern Art (MoMA) นิวยอร์ก เพราะมันจะมีศิลปินหน้าใหม่และงานอาร์ตร่วมสมัยมาจัดแสดงบ่อยซึ่งคนรุ่นใหม่จะเข้าใจง่าย’

ปิดท้ายที่เซเลบริตี้สาวสังคมที่น่าจับตามอง พิชามญช์ ชมะนันทน์ เล่าว่า ‘สำหรับเราแล้วงานศิลปะมันเหมือนสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งที่ต้องการสื่อสารบางอย่างให้เราได้เข้าใจ ทำให้เราได้หลุดพ้นจากความวุ่นวายที่พบเจอในแต่ละวันและได้ไอเดียใหม่ๆ มันปรับใช้ในการดำเนินชีวิตเสมอ ส่วนสถานที่ที่เรามักจะไปชมผลงานบ่อยๆ ก็คือ Saatchi Gallery ที่ลอนดอน เป็นแกลลอรี่ที่มีผลงานหลากหลายสไตล์และมีความยูนีคไม่เหมือนใคร’

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้โดยการสั่งซื้อภาพและหนังสือภาพผ่านช่องทางการสั่งซื้อภาพและหนังสือภาพ Line ID : @8thonglor (มี@)