Businessman Off Duty! แนะนำ 5 ลุคคูลๆ สำหรับ 5 อาชีพยุคใหม่ ใส่ไปทำงานก็ได้ ใส่ไปเที่ยวก็ดี
Share
เดี๋ยวนี้การทำงานในออฟฟิศยุคใหม่ต่างก็มีความยืดหยุ่นในการทำงานค่อนข้างสูง โดยเฉพาะกับสายอาชีพยุคใหม่ ๆ ที่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าให้มีความแฟชั่นและดูดีไปพร้อม ๆ กันได้ ดังนั้นเทรนด์การแต่งกายแบบ Businessman Off Duty จึงเกิดขึ้นมา เพราะสไตล์ที่เราว่ามานี้มีทั้งความดูดีเหมาะสำหรับเวลาทำงาน และมีความเท่มากพอที่จะใส่ต่อไปแฮงก์เอ้าท์หลังเลิกงานต่อได้อีก วันนี้ MOVER จึงขออาสามาแนะนำ 5 ลุคคูลๆ สำหรับ 5 อาชีพยุคใหม่ที่น่าจับตามองในขณะนี้ โดยการนำไอเท็มจากคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์ G2000 มาครีเอทลุค รับรองว่าจะใส่ไปทำงานก็ได้ ใส่ไปเที่ยวก็ยังดูดีแน่นอน!
1 | MARKETER
เริ่มต้นกันที่อาชีพแรกอย่าง Marketer หรือ นักการตลาด อาชีพยอดฮิตของคนยุคใหม่ ยิ่งเดี๋ยวนี้งานของมาร์เก็ตติ้งก็ไม่ได้มีแค่ออฟไลน์อย่างที่ผ่าน ๆ มา แต่ปัจจุบันยังเติบโตไปยังโลกออนไลน์อีกด้วย นี่จึงเป็นจุดที่ทำให้คนที่ประกอบอาชีพนี้ต้องคีพลุคของตัวเองให้ดูดี เพราะนอกจากจะต้องเป็นหน้าเป็นตาให้กับแบรนด์หรือองค์กรแล้ว ก็ยังต้องคอยอัพเดตเทรนด์หรือแฟชั่นให้ทันด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการพรีเซ้นต์ถึงความใส่ใจในสิ่งที่อยู่รอบตัว
แต่จะทำอย่างไรให้ทั้งดูดีแบบสุภาพควบคู่ไปกับความเป็นผู้นำเทรนด์ไปด้วยนั้น เราขอเสนอวิธีการแมตช์คู่สีต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความดึงดูดและน่ามอง เช่นลุคที่เป็นชุดสูทที่มีความเป็นทางการสูงนั้น เราก็อาจจะเลือกโทนสีที่ดูสะดุดตาขึ้นมาอีกสักหน่อยเช่น สีน้ำเงิน แทนที่จะเป็นสีดำทั่ว ๆ ไป ส่วนเสื้อตัวในนั้นอาจจะเลือกเป็นสีที่สดใสและดูสนุกสนานขึ้นมาอีกระดับอย่างสีแดงเลือดหมูก็ดูเข้ากันได้ดีและมีสไตล์มากยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วยการเลือกเนคไทเท่ ๆ สักเส้นเพื่อคอมพลีทลุคนี้ โดยอาจจะมีลวดลายเล็ก ๆ อย่างลายจุด ก็เพียงพอสำหรับการใส่ไปพรีเซ็นต์งานแบบ Professional ไม่มีหลุดมาดอย่างแน่นอน หลังจากนั้นหากคุณต้องไปแฮงก์เอ้าท์หลังเลิกงานต่อ ก็ทำได้ง่าย ๆ แค่เพียงถอดสูทตัวออก เท่านี้คุณก็ได้ลุคคูล ๆ พร้อมไปฉลองกับเพื่อนฝูงหรือคนรู้ใจให้สุดเหวี่ยงแล้ว
2 | FREELANCER
อาชีพที่สองนี้ เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ไฟแรงหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยและผ่านประสบการณ์นี้มาบ้างแล้ว นั่นก็คืออาชีพ ฟรีแลนซ์ งานนี้เหมือนจะง่าย ใคร ๆ ก็ทำได้เพราะไม่จำเป็นจะต้องเข้าออฟฟิศเป็นหลักเป็นแหล่ง มีความอิสระสูง แต่จริง ๆ แล้วอาชีพทุกอาชีพก็มีบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบไม่ต่างกัน และแน่นอนว่าภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือนั้นก็เป็นสิ่งที่ชาวฟรีแลนซ์ทุกคนต้องมีติดตัวไว้เช่นกัน เริ่มต้นง่าย ๆ ที่การแต่งตัว
ในจุดนี้หลาย ๆ คนอาจจะติดภาพว่าฟรีแลนซ์ทุกคนจะต้องแต่งตัวเซอร์ ๆ ผมยุ่ง ๆ แต่ที่จริงแล้วเวลาที่ต้องคุยงานหรือจริงจังนั้น เหล่าฟรีแลนซ์ทุกคนก็สามารถอัพลุคตัวเองให้ดูมีมาดน่าเชื่อถือขึ้นมาได้อย่างที่หลาย ๆ คนไม่คาดคิด โดยที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเท่และมีสไตล์ไว้ได้อย่างลงตัว เริ่มต้นจากการสวมเสื้อยืดสีพื้นง่าย ๆ อาจจะมีลูกเล่นที่เท็กเจอร์ของเนื้อผ้าสักเล็กน้อยเอาไว้ด้านใน แล้วหาเสื้อสูทเท่ ๆ สักตัวมาสวมทับ ซึ่งในจุดนี้ชาวฟรีแลนซ์ก็อาจจะมองว่า เสื้อสูทแบบนี้จะดูแลยากหรือเปล่า แต่จริง ๆ แล้วสมัยนี้เทคโนโลยีสมัยนี้ก็ได้พัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกของเรา ๆ ในหลายด้าน เช่น สูทตัวนี้จากแบรนด์ G2000 คอลเลคชั่น Japan Technology ตัวนี้ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ไม่ยับหรือเสียทรงง่าย ๆ พกพาไปไหนก็สะดวก ที่สำคัญคือสามารถทำความสะอาดด้วยเครื่องสักผ้าได้เลยโดยไม่ต้องส่งร้านให้เปลืองเวลา ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชาวฟรีแลนซ์อย่างลงตัว แถมดีไซน์ก็ดูทันสมัย สามารถแมตช์กับกางเกงชิโน่และรองเท้าผ้าใบได้แบบไม่มีสะดุด ทำให้สามารถใส่ไปคุยงานแล้วพ่วงด้วยปาร์ตี้ต่อตอนกลางคืนได้เลย
3 | PROGRAMMER
อีกหนึ่งอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบันก็คือ โปรแกรมเมอร์ หรือสายงานที่เกี่ยวเรื่องไอทีต่าง ๆ นั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงสายงานนี้ คนนอกก็คงจะมองว่าจะต้องเนิร์ดและดูไม่ค่อยมีสไตล์ แต่จริง ๆ แล้วถ้าเราลองสังเกตุโปรแกรมเมอร์หรือนักพัฒนาซอร์ฟแวร์ทั่วโลกนั้น คุณจะเห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้ก็มีสไตล์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
และลุคที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันดีก็คือการสวมเสื้อสเว็ตเตอร์ทับเสื้อเชิ้ตที่อยู่ด้านใน หรือจะเรียกว่าเป็น Preppy Style แบบคนอเมริกันก็ได้ ซึ่งสไตล์แบบนี้ก็ถือว่ามีความเรียบร้อยและเป็นทางการระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพียงแต่คราวนี้เราจะเปลี่ยนจากเสื้อสเว็ตเตอร์สีพื้นเรียบ ๆ ให้ดูมีลวดลายเพิ่มเติมขึ้นมาสักหน่อย ส่วนใครที่กลัวว่าสไตล์แบบนี้จะไม่เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยนั้น เราขอแนะนำให้เลือกแบรนด์ที่มีเทคโนโลยีเนื้อผ้าแบบระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่ร้อนและไม่เกิดความอับชื้นระหว่างวัน แบบนี้จึงทำให้คุณพร้อมที่จะทำงานในตอนเช้าและนัดเดตหรือทานข่าวต่อตอนกลางคืนได้แบบไม่มีสะดุด
4 | CREATIVE MAN
ลุคที่ 4 นี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากสายงาน Creative ซึ่งต้องมีบุคลิกที่โดดเด่นและชัดเจน สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ที่เปี่ยมล้นอยู่ภายใน แต่แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือและความเป็นทางการก็ต้องมาควบคู่กันด้วย จึงจะสามารถจบงานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เพราะจะให้ใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นกับรองเท้าแตะเฉย ๆ ก็คงจะดูชิลและปล่อยตัวจนเกินไป
MOVER จึงขอนำเสนอลุคที่ดูครีเอทีฟและเป็นทางการควบคู่กัน โดยเริ่มจากการแมตช์เสื้อยืดลายกราฟฟิกเท่ ๆ สักตัวกับกางเกงชิโน่พับขาเพื่อเพิ่มความเป็นสตรีทสไตล์ จากนั้นอาจจะเพิ่มความครีเอทและมีสไตล์ด้วย Trench Coat สักตัว ซึ่ง Trench Coat ตัวนี้มีเนื้อผ้าบางเบา ระบายอากาศได้ดี แทนที่จะเป็นเสื้อสูทแบบทั่ว ๆ ไปเพื่อให้เห็นถึงสกิลการประยุกต์ไอเท็มต่าง ๆ มาแมตช์ให้ดูลงตัว และโดดเด่น สื่อถึงอาชีพครีเอทีฟได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายด้วยรองเท้าผ้าใบคู่เก่งสักคู่หนึ่ง เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเอาอยู่แล้ว ที่สำคัญคือดูดีและเหมาะสมสำหรับทั้งการไปคุยงาน พบปะลูกค้า รวมถึงสวมใส่ในวันธรรมดาทั่วไปก็ยังได้เช่นกัน
5 | ENGINEER
สุดท้ายนี้เป็นลุคเท่ ๆ สำหรับหนุ่มสายงานวิศวะที่หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าจะต้องลุย ๆ เลอะ ๆ หรือเปล่า แต่ในความเป็นจริงแล้วสายงานวิศวะแบบนี้ก็สามารถอัพลุคขึ้นมาให้ดูเท่และมีมาดไม่แพ้อาชีพอื่น ๆ ที่ทำงานในห้องแอร์เลย
โดยลุคที่เหมาะกับหนุ่มวิศวะแบบนี้ก็คือเสื้อแจ็คเก็ตหนังเท่ ๆ สักตัว แต่ต้องไม่ลืมว่าจะต้องเป็นตัวที่มีเนื้อผ้าเบาสบายไม่หนาไม่บางจนเกินไป จึงจะเหมาะกับอากาศแบบประเทศไทย สวมทับกับเสื้อยืดตัวเก่งเพื่อความคล่องตัวในการทำงานทั้งในออฟฟิศและไซต์งาน ส่วนท่อนล่างอาจจะเลือกเปลี่ยนจากกางเกงยีนส์แบบทั่ว ๆ ไปเป็นกางเกงชิโน่สีโทนเรียบง่าย เพื่อความคลีนและสบายตา เสริมให้ลุคนี้ดูน่ามองมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือแมตช์กับสนีกเกอร์ได้ดีทำให้คุณพร้อมลุยได้ทั้งในและนอกเวลางาน