Warning! -หน้าแก่ก่อนวัย- ด้วยพฤติกรรมที่คุณมองข้าม
Share
“หน้าแก่ก่อนวัย”
เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณเผลอมองข้าม รวมไปถึงพฤติกรรมที่คุณทำเป็นประจำอย่างไม่ใส่ใจ นั่นอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณถูกคนรอบตัวทักอยู่บ่อย ๆ ว่า “หน้าแก่” ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่เวิร์คแน่ ๆ อายุเท่านี้แต่โดนเรียกคุณลุง! วันนี้ Mover จึงขออาสาพาคุณไปทวงคืนความสดใส เอาความอ่อนเยาว์ของคุณกลับมา โบกมือลาปัญหา “หน้าแก่ก่อนวัย” ด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่อไปนี้ !
1 ไม่ทากันแดด
ย้ำกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน จะทำอะไรก็ตามต้อง ทาครีมกันแดด! เพราะทุกที่ล้วนมีรังสียูวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองร้อนแบบประเทศไทย ยิ่งต้องใส่ใจในเรื่องนี้ให้เป็นนิสัย เนื่องจากยูวีตัวร้ายนี่แหละที่เป็นสาเหตุของปัญหาผิวมากมาย เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวคล้ำเสีย รวมไปถึงทำให้เกิดริ้วรอยหย่อนคล้อย ผิวสูญเสียความแข็งแรงเพราะไร้เกราะป้องกัน ผลลัพธ์สุดท้ายคือ “หน้าแก่ก่อนวัย” หรือหนักที่สุดก็คือ “มะเร็งผิวหนัง”
.
2 เครียดเกินไป
“ความเครียด” ในระดับที่พอดี ๆ มีส่วนช่วยทำให้เรามีสมาธิจดจ่อกับสิ่งตรงหน้า เป็นแรงผลักดันในการทำเป้าหมายให้สำเร็จได้ แต่ถ้าเครียดมากจนเกินไป เครียดบ่อย ๆ เป็นประจำแบบนี้ผลเสียย่อมตามมา ทำให้ “หน้าแก่” จากการที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายอย่างระดับฮอร์โมน และสภาพจิตใจผิดปกติ รวมถึงการแสดงอารมณ์บนใบหน้า เช่น การทำหน้าบึ้ง คิ้วขมวด ก็มีส่วนทำให้เกิดเป็นริ้วรอยลึกบนใบหน้าได้โดยไม่รู้ตัว
.
3 นอนผิดวิธี / นอนผิดท่า
“การนอนหลับ” เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมฟื้นฟูตัวเอง หากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอหรือนอนดึกเป็นประจำ ย่อมส่งผลเสียกับร่างกาย ทำให้อ่อนเพลีย เกิดรอยหมองคล้ำ ผิวหยาบกร้านและหย่อนคล้อย ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยอันควร รวมไปถึงการนอนในท่าที่ไม่เหมาะสม เช่น การนอนคว่ำ เพราะจะให้เกิดรอยกดทับบนใบหน้าจากหมอน หากนอนแบบนี้เป็นประจำจะทำให้เกิดร้ิวรอยได้ ทางที่ดีคุณควรนอนแต่หัวค่ำตั้งแต่เวลาสี่ทุ่ม ไม่ควรเกินเที่ยงคืน และท่านอนที่ถูกต้องและดีต่อสุขภาพที่สุดนั่นก็คือ ‘การนอนหงาย’
.
4 กินแป้งและน้ำตาลมากไป
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไปนั้น มีส่วนทำให้ “หน้าแก่” เนื่องจากอาหารประเภทนี้ ร่างกายต้องใช้พลังงานในการเผาผลาญมาก ก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกายมากขึ้น รวมถึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูง เกิดกระบวนการที่เรียกว่า “ไกลเคชั่น (Glycation)” หรือการที่น้ำตาลไปเกาะกับโปรตีนในผิว มีส่วนทำร้ายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ ได้ง่าย
.
5 ดื่มน้ำน้อยเกินไป
“น้ำคือชีวิต” เพราะร่างกายของคนเรานั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 70% ถ้าร่างการขาดน้ำย่อมส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมไปถึงผิวพรรณ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วเมื่อคนเราอายุมากขึ้นผิวจะเริ่มสูญเสียความสามารถในกักเก็บน้ำลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ดูหย่อนคล้อยเกิดเป็นริ้วร้อยต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้น หากเราดื่มน้ำน้อย อาการหน้าแก่ก่อนวัยก็จะยิ่งมาถามหาเร็วขึ้น
.
6 ออกกำลังกายหนักเกินไป
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีที่ทุกคนควรทำ แต่ทุกอย่างควรเดินสายกลาง ไม่น้อยเกินไปและต้องไม่ไปหนักจนเกินไป เพราะหากคุณหักโหม อาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดีและอาจทำให้คุณดูหน้าแก่ก่อนวัยได้ จากสภาวะที่เรียกว่า Runner’s face ที่เกิดจากการออกกำลังอย่างหนักหน่วงจนร่างกายเบิร์นไขมันใต้ผิวหนังมากเกินไป ส่งผลให้ความเต่งตึงของผิวลดลง ผิวดูแห้งเหี่ยวย่น
.
7 ดื่มและสูบ
ข้อสุดท้ายไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เพราะทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว สำหรับผลเสียของการเป็นสิงห์อมควันและสายดริ๊งค์ตัวพ่อ การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เป็นปัจจัยที่หลายคนรู้ดีว่ามีส่วนทำให้ “หน้าแก่” ส่วนการสูบบุหรี่ นอกจากจะมีสารพิษที่ส่งผลเสียกับผิวพรรณและเป็นอันตรายต่อปอดแล้ว ขณะที่สูบยังทำให้กล้ามเนื้อหดตัว บริเวณหน้าผาก ดวงตา และรอบปาก ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย
ไม่อยากหน้าแก่อย่าลืมเตือนตัวเองบ่อย ๆ ห้ามทำพฤติกรรมเหล่านี้! ที่สำคัญนอกจากจะหลีกเลี่ยงแล้วยังต้องไม่ลืมบำรุง ทั้งป้องการและฟื้นฟูดูแลผิวไปพร้อม ๆ กันแบบนี้ รับรองจะผ่านไปกี่ปีใบหน้าก็ยังอ่อนเยาว์ ไม่มีใครเรียกลุงแน่นอน!
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com