10 หนุ่มใหญ่เจ้าพ่อแห่งความมีสไตล์ ขวัญใจหนุ่มสาวทั่วโลก

ในยุคที่เราสามารถมองเห็นคนทั่วโลกได้ง่ายจากการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ดังนั้นใคร ๆ ก็สามารถเป็นไอดอลได้ หรือที่คนทั่วไปเรียกกันอย่างติดปากว่า ‘เน็ตไอดอล’ จนตอนนี้มีจำนวนทั้มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้คำว่า ‘ไอดอล’ หมดความขลังลงไปเยอะ เพราะใคร ๆ ก็สามารถเป็นไอดอลได้

หากเน็ตไอดอลคนไหนที่สามารถอยู่ยงคงกระพัน ไม่ล้มหายตายจากไปพร้อมกับข่าวแย่ ๆ จนสามารถพัฒนาจาก ‘ IDOL ‘ กลายเป็น ‘ ICON ‘ ได้นี่แหละถึงจะเรียกว่าตัวจริง! เพราะถึงแม้จะต้องเผชิญกับเรื่องราวร้าย ๆ จากข่าวหรือปัญหาชีวิต แต่ด้วยผลงานที่ทำกับพฤติกรรมที่คงเส้นคงวา ทำให้บุลคลผู้นั้นกลายเป็นบุคคลตัวอย่างที่ควรค่าแก่การเชิดชู รวมถึงความมีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ลักษณะนิสัย ไลฟ์สไตล์และการแต่วตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้ทั้งนั้น

วันนี้เราจึงขอหยิบยก นักแสดงรุ่นเก๋าจากฝั่งฮอลลีวู้ดทั้ง 7 คน มาให้หนุ่มๆได้เห็นกันว่า สไตล์ไอคอนรุ่นใหญ่ที่เก๋ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาจะมีความโดดเด่นในเรื่องของสไตล์อย่างไรกันบ้าง ลองมาดูกันครับ

 1. Johnny Depp 

 

‘จอห์นนี เดปป์’ นักแสดงสุดคูลวัย 56 ปี ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดพักงานการแสดง ขวัญใจผู้ชายทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กยันโต เขาถือเป็น ICON ด้านแฟชั่นและการแสดงที่โดดเด่นมาก ด้วยสามารถของเดปป์ที่เข้าถึงตัวละครที่มีคาแรคเตอร์จัดได้ชัดทุกตัว แถมยังถ่ายทอดด้วยจิตวิญญาณที่เขาพยายามเข้าถึงตัวละครนั้นอย่างถ่องแท้ทำให้โลกแฟนตาซีสามารถเกิดขึ้นจริงได้ ผลงานที่ท็อปฟอร์มและเป็นที่จดจำ คงต้องเป็นการรับบท ‘กัปตันแจ๊ค สแปร์โรว’ จากภาพยนตร์แฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Pirate of The Caribbean และงานการแสดงภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง Finding Neverland ที่ในส่วนของความเข้มข้นทางอารมณ์เดปป์ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน

• แต่รู้หรือไม่ ว่านอกจากงานแสดงที่เป็นเลิศแล้ว อารมณ์ศิลปินยังรวมไปถึงดนตรี เดปป์เคยให้สัมภาษณ์ว่าถ้าไม่ได้เป็นนักแสดงเขาคงจะเป็นนักดนตรีแน่นอน เดปป์ของใช้กีต้าร์เป็นเครื่องดนตรีแสดงอารมณ์สุนทรีย์ของเขา ซึ่งเดปป์เคยเล่นดนตรีเพื่อประกอบภาพยนตร์ที่เขาแสดงอย่าง Chocolate และ Once Upon A Time in Mexico

• ความเป็นมืออาชีพของคนที่รักว่าเป็น ‘นักแสดง’ ที่แท้จริงคือต้องก้าวข้ามความกลัวและขีดจำกัดของตัวเองไปให้ได้ เพราะการแสดงภาพยนตร์เรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ในบทบาท ‘วิลลี่ วองก้า’ จริง ๆ แล้ว เดปป์ กับช็อคโกแลต นั้นไม่ถูกกัน ในสมัยเด็กเดปป์เคยทรมาณกับการแพ้ช็อคโกแลตเป็นอย่างมาก ถึงแม้อาการจะหายแล้วตั้งแต่ 7 ขวบ แต่เขาไม่อภิรมย์กับช็อคโกแลตอีกเลย จนมาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ อีกทั้งการรับบทใน Alice in Wonderland บทบาท Mad Hatter ที่เหมือนตัวตลกในละครสัตว์นั้น จริงๆ แล้วเดปป์ กลัวเจ้าโบโซ่นี้มาก กลัวและเกลียดพอ ๆ กับผีและแมงมุม
• ถึงจะเป็นซุปตาร์ชื่อดัง แต่ของสะสมของเดปป์ในวันว่าง ๆ คือแมลง…. หนวดปลอมและปืน….. ในส่วนของการโฟกัสไปที่แมลง ในวัยเด็ก เดปป์ชอบเล่นกับจิ้งจกและกิ้งก่ามาก ตอนโตความฝันของเดปป์ได้เป็นจริงเมื่อเขาได้พากย์เสียงตัวละครกิ้งก่าเรื่อง Rango
• เหตุการณ์ที่แสนประทับใจแฟนคลับและเพื่อนในวงการด้วยกัน คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ที่ เดปป์ จ่ายค่าภาษีที่ ‘นิโคลัส เคจ’ โดนเรียกเก็บให้ทั้งหมดเป็นเงินกว่า 3.5 ล้านปอนด์ เพราะว่า นิโคลัส เคจ เนี่ยเป็นป๋าดันที่แท้จริงที่ทำให้เดปป์ได้แจ้งเกิดในวงการถึงแม้ว่าในตอนนั้นชื่อเสียงของเดปป์จะมีความเป็นแบดบอยมาก ๆ

“My body is journal”

เดปป์ ไม่ได้หมายถึงรอยสักของเขาเอง แต่หมายถึงร่างกายที่ผ่านเรื่องราวมาหลายรูปแบบ ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็กที่ต้องเผชิญปัญหาครอบครัว เป็นวัยรุ่นแบดบอยเสพยา จนมาถึงการยุติความสัมพันธ์กับอดีตภรรยาที่ครองรักกันมานาน

 STYLE 

เดปป์ยังคงขึ้นชื่อว่าหนุ่มรุ่นใหญ่สุดคูลถึงแม้ว่าอายุมากแล้วแต่ยังเก๋าอยู่เสมอ อย่างแรกที่เรานึกถึงเดปป์คงหนีไม่พ้นแว่น ที่เป็นเอกลักษณ์สุดๆกับแว่นทรงหยดน้ำ ที่เดปป์ไว้ใจ Moscot รุ่น Lemtosh ให้เสริมลุคของเขาให้เท่ไปอีกด้วยเลนส์สีฟ้า แถมยังมาพร้อมกับทรงผมแสนเซอร์ ปัดเป๋ยุ่งไปตามธรรมชาติ แต่หากวันไหนรู้สึกว่าไม่เป็นทรง ป๋าก็จะมาพร้อมกับหมวกฟีโดร่คู่ใจ

ใครบอกว่าผู้ชายแต่งตัวไม่จัด ให้มาดูป๋าเดปป์ได้เลย ไม่จัดแอคเซอเซอร์รี่มาเต็ม ไม่ปล่อยให้คอว่าง ถ้าไม่ผ้าพันคอก็ต้องใส่สร้อยคอเข้าไปอีก

จริงๆต้องยกตำแหน่งเจ้าพ่อเครื่องประดับควรให้ป๋าจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะแหวน กำไลข้อมือ สร้อยข้อมือ และเชือกต่าง ๆ พันมือ แต่ป๋าก็เอาอยู่ และดูเสริมลุคให้ทวีความเก๋าขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว หนุ่มๆสายเซอร์คนไหน อยากมาสายแฟชั่นก็สามารถดูป๋าเป็นเรเฟอร์เรนซ์ได้เลย

---

 2. Idris Elba 

‘ไอดริส เอลบ้า’ นักแสดงหนุ่มผิวสีวัย 47 ปี ลูกครึ่งกาน่า (เชื้อสายจากแม่) ที่ยิ่งแก่ก็ยิ่งเก๋าขึ้นเรื่อยๆ ไอดริสเริ่มมีชื่อเสียงจากการแสดงทีวีซีรีย์ เรื่อง The Wire แต่ในบ้านเราจะเริ่มรู้จักเขาจากภาพยนตร์เรื่อง Thor รับบท ‘ไฮม์ดาลล์’ ผู้คุมสะพานสายรุ้งสู่แอสการ์ท และ Pacifim Rim ภาพยนตร์ไซไฟวิชวลเอฟเฟกต์สุดมันส์

แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากจะเป็นนักแสดงมากฝีมือแล้ว ไอดริสยังมีกิจกรรมที่รักและชอบทำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังอย่างการเขียนบทและเป็นผู้กำกับ เป็นนักร้องสายแร็พแบบไฟแล่บ แถมยังชอบเป็นดีเจเปิดแผ่นในงานปาร์ตี้อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเขายังเป็นคนชอบความเร็วอีกด้วย

ถึงผลงานเพลงของไอดริส จะไม่ได้โด่งดัง แต่เพลงของไอดริส ทั้งซาวด์ จังหวะการแร็พ รวมถึงมิวสิควิดิโอก็เท่มาก เหมือนทุกอย่างออกมาจากตัวตนของไอดริสจริงๆ ทุกอย่างมีจุดเริ่มจากตอนที่เขาอายุ 14 และได้รับมอบหมายให้เปิดเพลงในงานแต่งของคุณลุง หลังจากนั้นมาไอดริสได้มีเปิดแผ่นตามงานปาร์ตี้บ้าง ตามคลื่นวิทยุบ้างโดยใช้นามแฝงว่า มิสเตอร์คีปลิงก์ (Mr.Kipling)

ความคูลและเท่นั้นมันเฉิดฉายมาก จนไอดริสได้มีคอลเลคชั่นเสื้อผ้าร่วมกลับแบรนด์ดังจากประเทศบ้านเกิดอย่าง Superdry ในโปรเจกต์  ‘Idris Elba X Superdry’ ในเสื้อผ้าสไตล์ Sport Luxe อาจเป็นเพราะว่าไอดริสนั้นให้การสนับสนุนกลุ่มแฟนคลับของทีมฟุตบอลอาร์เซนอลอีกด้วย

แต่บางครั้งเรื่องราวชีวิตจริงก็ไม่ได้สวยงามแบบเบื้องหน้าที่ถูกฉาบไว้ ไอดริสได้ให้สัมภาษณ์กับ DailyMail ไว้ว่า สิ่งที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุดนั่นคือเรื่องอาชีพ ที่ตอนนี้เขากำลังเป็นที่จับตามองและมีผลงานมากมายทั้งแอคชั่น ดราม่าและการพากย์แอนนิเมชั่น และลูกคือความสุขที่สุดที่เขามี แต่ในขณะเดียวกัน เรื่องชีวิตคู่ของเขา กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายตัวเองมากที่สุด เพราะเขาเป็นนักแสดง เวลาที่อยู่ด้วยกันค่อนข้างน้อย แถมยังต้องเจอกับข่าว และความไม่เป็นส่วนตัวอีกด้วย

“What really excites me in a project is when it goes in a way you haven’t been before.”

คำกล่าวของไอดริสทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงสามารถรับบทบาทได้หลายหลาย

 

 STYLE  

ไอดริส รูปร่างใหญ่ สมส่วน ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูเต็ม ดูดีไปหมด และแม้จะเป็นดารา ‘ผิวสี’ ก็ไม่ได้ทำให้ไอดริสต้องคิดมากใดๆ เพราะหากวันไหน เขาอยากจะใส่ดำล้วน ก็ไม่กลัวคำวิจารณ์ที่จะบอกว่าดูมืดและทึมเกินไป  หรือเการที่เขาใส่โค้ตสีแจ่มออกงาน เพราะไม่สนว่าผิวคล้ำแล้วจะใส่สีสดๆไม่ได้ซะเมื่อไหร่  เป็นตัวอย่างของสไตล์ในคอนที่ทำให้เราได้เห็นว่าเรื่องของสไตล์ไม่มีกฎเกณฑ์ เพียงแค่ถูกกาลเทศะ และใส่ความมั่นใจเข้าไปก็ทำให้ความเท่เฉิดฉายกว่าใครแล้ว

---

 3. Josh Brolin 

 

 

‘จอช เจ โบรลิน’ นักแสดงวัย 51 ที่หลายคนรู้จักจากบทตัวร้านแห่งจักรวาลมาร์เวลอย่าง ‘ธานอส’ แต่ก่อนจะมาได้บทตัวร้ายระดับพระกาฬขนาดนี้ เขาก็เคยรับบทตำรวจ ผู้พิทักษ์ความยุติธรรมให้กับประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช มาแล้วนะครับ แต่ดูเหมือนว่าหน้าตาสไตล์แบดๆนี่กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้จอช เป็นที่รู้จักมากขึ้น จากภาพยนตร์เรื่อง No Country For Old Men  และด้วยบุุคลิกหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ถึงขนาดที่จอช เคยได้รับตำแหน่ง GQ Man of The Year มาแล้ว

ในชีวิตจริง จอชก็มีความแบดบอย ไม่แพ้กับใบหน้าของเขาเลย เพราะเขามีชีวิตด้านมืดทั้งการใช้ยาเสพย์ติด ติดเหล้า ซึ่งเขาก็ยอมรับว่ามันทำลายชีวิตเขาอย่างมาก แต่ในที่สุดเขาก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้

ในเรื่องการทำงานจอชให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การทำงานกับเพื่อนสนิท กับคนที่ตั้งใจทำงานมาก มันเป็นแรงผลักดันให้เขายังอยากทำงานอยู่ทุกๆ วันนี้ ไม่ว่าจะ ชอน เพนน์, เดนเซล วอชิงตัน และ รัซเซลล์ โคร์ว จนถีงตอนนี้จอชมีผลงานให้เราได้ติดตามมากมาย จนเขาเข้าร่วมจักรวาลของมาร์เวลล์ ในบทวายร้ายตัวเป้งอย่าง ‘ธานอส’ การที่นักแสดงคนไหนได้เข้าร่วมจักรวาลอันยิ่งใหญ่นี้เป็นอีกเครื่องการันตีว่า นักแสดงผู้นั้นเป็นที่ยอมรับจากผู้ชม

 “I don’t care what people think”

จอช โบรลิน เป็นอีกนักแสดงที่โนแคร์โนสนกับข่าวและการถูกนินทาว่าร้าย จอชบอกว่า เขาไม่สนใจเลย เขาแค่ทำหน้าที่คือการเป็นนักแสดง เขารักศิลปะการเล่าเรื่องและรักผู้คนที่สามารถเข้าถึงศิลปะนี้ได้  ตอนนี้จอชจะเริ่มรับงานน้อยลง เพราะเขารู้สึกว่าที่ผ่านมาเขาแสดงหนังเยอะมาก จนถึงเวลาแล้วที่ต้องให้เวลากับตัวเอง เขากำลังมีความสุขกับความเป็นส่วนตัวที่ทำให้เขาได้พักผ่อนจริงๆ

STYLE 

ถึงจะเป็นแบดบอยรุ่นใหญ่ก็ตาม แต่ในวันสบายๆ จอชมักสวมเสื้อคอกลมสีดำหรือเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กับกางเกงยีนส์หรือรองเท้าผ้าใบสีเข้มกับแว่นกันแดดสีดำ ทรงผมก็เสยขึ้นไม่ปล่อยรุงรัง ดูผ่อนคลายและสบายมาก หากวันไหนอยากเท่ อวดสาว ก็จะมีไอเท็มอย่างแจ็คเก็ตหนังไปด้วยเสริมความเท่ไปอีกนั่นเองครับ

---

4. Daniel Day-Lewis

นักแสดงวัย 62 ดีกรี 3 รางวัลออสการ์ ‘แดเนียล เดย์ ลิวอิส’ แค่ได้ยินชื่อก็ต้องขนลุกเพราะการแสดงในแบบ Method อันน่าสะพรึงกลัว และแข็งแรงจนนักแสดงอื่นต้องยกนิ้วให้ ถึงแม้ในยุคนี้เราจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าของแดเนียลมากเหมือนสมัยก่อน แต่ผลงานแต่ละงานในยุคของเขาก็น่าจดจำมาก โดยเฉพาะการรับบทเศรษฐีใจอำมหิตในภาพยนตร์ในเรื่อง There Will Be Blood

การแสดงแบบ Method หากให้อธิบายแบบเข้าใจง่าย หมายถึง การเป็น การรู้สึกแบบตัวละคร ไม่ใช่การแสดง หากเจ็บ ต้องเจ็บจริง เล่นจากอินเนอร์ล้วนๆ ไม่ใช่เทคนิค ซึ่งแดเนียลเป็นนักแสดงประเภทนี้ ซึ่งมีแต่ทีมงานเบื้องหลังเท่านั้นที่เห็นถึงความพยายาม และความเป็นนักแสดงตัวจริง จริงๆ เช่น My Left Foot แดเนียลรับบท ‘คริสตี้ บราวน์’ จิตรกรผู้พิการทางสมองแต่มีความสามารถทางด้านศิลปะและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคโดยการใช้เท้าซ้ายวาดรูป เบื้องหน้าการแสดงที่สามารถคว้าออสการ์ตัวแรกมาได้นั้น เบื้องหลังแดเนียลลงทุนโดยการไม่ยอมเคลื่อนไหวตัวเอง ต้องให้ทีมงานช่วยเหลือ ช่วยพานั่งวีลแชร์เพื่อให้เขารู้สึกถึงความพิการจริงๆ โดยก่อนรับบท แดเนียลเข้าไปศึกษาท่าทางและอาการของคนพิการ แถมยังฝึกวาดรูปด้วยเท้าอีกด้วย!

นอกเหนือเวลาการเป็นนักแสดง อาจเรียกได้ว่าแดเนียลเป็นผู้ชายที่ติสท์ โลกส่วนตัวสูงคนหนึ่ง นอกจากเขาจะมอบเวลาให้กับครอบครัวอย่างเต็มที่แล้ว แดเนียลไม่ลืมที่จะทำตามหัวใจตัวเองเรียกร้องว่าตัวเองสนใจอะไรบ้าง เช่น เมื่อเขาสนใจเรื่องการทำรองเท้ามาก ก็บินไปเข้าคอร์สอย่างจริงจังที่ประเทศอิตาลี ณ เมืองฟลอเรนซ์ เมืองแห่งศิลปะและเมืองที่ขึ้นชื่อว่าผลิตรองเท้าได้ดีที่สุดในโลก แดเนียลยังเผยอีกว่าหากไม่ได้เป็นนักแสดงเขาคงไปเป็นช่างไม้ไปแล้ว

zimbio

เวลาเกือบ 20 ที่ผ่านมาจะเห็นว่าจำนวนภาพยนตร์ที่แดเนียลแสดง มีน้อยมาก เพียงแค่ 5 เรื่องเท่านั้น (แต่สามารถเข้าชิงและรับรางวัลออสการ์มาได้จาก 2 เรื่อง) เพราะแดเนียลขอทำหน้าที่สามีและคุณพ่อที่ดีให้กับครอบครัว โดย ‘แดเนียล’ และ ‘รีเบคก้า มิลเลอร์’ ภรรยา มีโซ่ทองคล้องใเป็นลูกชาย 2 คน ชื่อว่า ‘โรแนน’ และ ‘คาเชล’ (ส่วน เกเบรียล เดย์ ลิวอิส คือลูกที่ติดมาจากดาราสาวชาวฝรั่งเศสที่แดเนียลเคยคบ แต่เดเนียลก็ให้ความสนใจและดูแลไม่แพ้โรแนนและคาเชลเลย) ปัจจุบันครอบครัวนี้พักอยู่ที่ไอร์แลนด์ ทั้งที่จริงๆ แล้วแดเนียลเป็นคนอังกฤษ เขายังคงคิดถึงลอนดอน เพียงแต่ไอร์แลนด์ มอบความสงบให้กับชีวิตส่วนตัวของเขามาก เขารู้สึกอบอุ่นและสุขกายสบายใจที่ได้อยู่ในที่ที่เขาและลูกๆ โตขึ้นมาพร้อมกัน

“Everybody has to know for themselves what they’re capable of.”

 STYLE  

ในวันสบายๆ ไอเท็มประจำตัวของแดเนียลคือกางเกงยีนส์ และต่างหูห่วง เป็นสไตล์ง่ายๆแต่บอกเลยว่าเครื่องประดับเพียงชิ้นเดียว ก็เอาอยู่

แต่หากเมื่อออกงานเป็นทางการ แดเนียลมักใช้โบว์ไทด์ มากกว่าเนคไทด์ ถึงแม้ว่าลุคของตัวเองจะดูเท่ แต่การใช้โบว์ไทด์ก็ช่วยเพิ่มความขี้เล่นให้ดูสนุกสนานได้มากขึ้น

---

 5. Kurt Russell 

ป๋า หรือปู่ ‘เคิร์ต รัซเชล’ นักแสดงวัย 68 ปี ที่คัมแบควงการด้วยมาดเท่ที่ยังไม่ทิ้งไปตั้งแต่สมัยหนุ่ม จะมีใครบ้างที่รู้ว่าเห็นป๋าเก๋าขนาดนี้ สมัยตอนเข้าวงการป๋าฮอตมาก ตั้งแต่มีชื่อเสียงเพราะได้เซ็นต์สัญญากับ ‘วอล์ท ดิสนีย์’ ซึ่งนอกจากความสัมพันธ์แบบนักแสดงและค่ายหนังแล้ว ความสนิทของเคิร์ต และ คุณวอล์ท ดิสนีย์ ยังสนิทกันมากจนถึงขนาดว่าชอบตีปิงปองกันในยามว่างเพื่อผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย

หากต้องยกผลงานชิ้นเด่นของป๋าเคิร์ต คงต้องเริ่มจากการแสดงเป็น ‘เอลวิส เพรสลี’ย์ นักร้องระดับตำนาน (เป็นภาพยนตร์เพื่อฉายทางทีวี) และดังพลุแตกสุดๆ จากเรื่อง Escape From New York (1981)

ชีวิตหลังกล้องของป๋าเคิร์ต ครองรักกับภรรยา ‘โกลดี้ ฮอว์น’ โดยมีลูกด้วยกัน 1 คน และลูกติด 2 คน ของโกลดี้และสามีเก่า เมื่อเริ่มอายุมาก เคิร์ตเริ่มรู้สึกถึงเวลาความเป็นส่วนตัว ต้องการพักผ่อนมากขึ้น เคิร์ตตัดสินใจรับงานน้อยลง ตั้งแต่ปี 2007-2014 โดยเขาไม่กังวลกับอาชีพนักแสดงว่าจะยังมีพื้นที่ให้เขาอยู่หรือไม่ เหตุเพราะว่าเคิร์ตไม่เคยรู้สึกว่าอยากเป็นนักแสดง เพราะพ่อของเคิร์ตก็เป็นนักแสดง ศิลปะแขนงนี้จึงซึมซับตัวเคิร์ตมาตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าอยู่ในสายเลือด

เคิร์ตย้ายไปอยู่ที่รัฐโคโรราโด เพื่อทำฟาร์ม สอนเด็กๆ ล่าสัตว์บ้าง เล่นสกีบ้าง และก็เลี้ยงม้าในยามว่าง เคิร์ตยังให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร GQ ว่า ในการสัมภาษณ์แต่ละครั้ง เขาเป็นคนที่ตอบคำถามได้ห่วยมาก ไม่แคร์ว่าจะดีหรือแย่ มันไม่สำคัญสำหรับเขา ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต การเห็นโกลดี้เมื่อลืมตาตื่นเช้าเป็นครั้งแรกอยู่ข้างๆ เธอเป็นคำตอบว่าผมจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร

แต่เมื่อชาร์จแบตเต็มที่แล้ว เคิร์ตยอมรับว่าต้องกลับมารับงานแสดง เพราะเขายังคงต้องใช้ชีวิต (ต้องการเงินนั่นเอง) กลับมาแบบให้ทุกคนได้หายคิดถึงมากใน Furious 7 ในบท มิสเตอร์โนบอดี้ ยิ่งฉากที่ใส่แว่นดำยิงปืน นี่โคตรเท่สุดไปเลย และแน่นอน ป๋ากลับมาภาค 8 ในปี 2017 ยังไม่พอ ป๋าไปรับบทพ่อของฮีโร่สุดเกรียน สตาร์ลอด ใน Guardians of  The Galaxy 2 ด้วย

 “If I see one side of somebody, I want to see the other side.” นอกจากการมองคนในชีวิตจริงว่ามนุษย์เราไม่ได้มีแค่ด้านเดียว ป๋าเลยสามารถแสดงแต่ละบทบาทได้อย่างมีมิติ

 STYLE  

เมื่อป๋าขอเวลาไปทำฟาร์ม ลุคคาวบอย กลิ่นอายแบบยุค 80 ก็กลับมา พร้อมการแต่งตัวที่มีการเกงยีนส์สุดเซอร์ใส่คู่กับเสื้อยืดสีพื้นเสื้อเชิ้ตลายสก็อต แจ็กเก็ตหนัง และต้องห้ามลืม หมวกทรงความบอยของป๋าด้วย

 

---

 

6. Al Pacino

ถึงแม้จะวัยล่วงเลยมาถึง 75 ปีแล้ว แต่ ‘อัล ปาชิโน’ ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดอาชีพเป็นนักแสดง ยังคงทำงานให้รุ่นเด็กดูไว้บูชาต่อไป ย้อนเวลาไปหลายสิบปี สมัยเข้าวงการใหม่ๆก็ต้องยอมรับว่าป๋าอัลนั้นหล่อและเท่มากๆ ยิ่งการแสดงในภาพยนตร์สุดคลาสิคอย่าง The Godfather แล้ว ยิ่งดูเท่ สุขุม เข้าไปอีก ทุกอย่างในภาพยนตร์ส่งให้เข้าได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นตัวแรก (หลังจากแสดงภาพยนตร์เพียงแค่ 3 เรื่อง) หลังจากนั้น ป๋าอัลก็ยังคงเป็นนักแสดงรูปหล่อขายที่ฝีมือต่อไป จนได้รับออสการ์จากบทที่ป๋าตีแตกกระจุยใน Scent of Woman ตำรวจตาบอดแถมยังอารมณ์แปรปรวน

อัล ปาชิโน นักแสดงรูปหล่อ แถมติสท์แตก หรืออาจจะเรียกว่า เยอะ ก็เป็นได้ เพราะเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เลือกบทมากที่สุด ปฏิเสธหลายบทมาก เช่น บท ฮาน โซโล ในมหากาพย์สตาร์วอร์ส โดยป๋าจะมักเลือกบทบาท ตัวละครที่หน้าตาหล่อ ( แต่เข้าใจ เพราะหล่อจริงๆ) มีเสน่ห์ น่าหลงใหล แต่เนื้อแท้แล้วเลวร้าย ซึ่งขัดแย้งกับตัวตนจริง เพราะลึกๆ แล้ว อัล ปาชิโน เป็นคนที่ขี้อายและชอบเก็บตัวมาก! ด้วยเหตุนี้ เมื่ออายุมากขึ้น การแสดงของเขาถึงน้อยลง เขาไม่เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กเลย ถึงแม้จะมีแฟนเพจที่ติดตามผลงานเขาอยู่มาก แต่เขาตอบกลับว่า “แล้วไง”

 

แต่ถึงแม้จะใกล้แตะเลข 8 แล้ว และรับงานแสดงน้อยลง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ อัล ปาชิโน ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการนี้คือ เพื่อน เพื่อนที่เป็นเหมือนแรงผลักดัน กำลังกายและใจให้เข้ายังคงแสดง นั่นคือ Robert De Niro เพื่อนนักแสดงรุ่นเก๋าอีกคนที่ยังคงแสดงได้เยี่ยมยอดไม่แพ้กัน คบกันนานมาก ตั้งแต่ The Godfather เขายังคงทำงาน สร้างงานศิลปะด้วยอีกผลที่ว่า ‘อายุมันไล่ตามคุณอยู่นะ’ ด้านชีวิตส่วนตัว อัล ปาชิโน ไม่เคยแต่งงาน แต่มีลูกถึง 3 คน (อ้าว) เขายอมรับแบบแมนๆ เลย ว่าลูกทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป จากที่เคยสนใจแต่ตัวเอง ให้มาสนใจคนรอบข้างมากขึ้น

” For me it’s always been the character ‘the play’s the thing’ not my personality. when one overshadows the other, you become more a celebrity than actor. i hope the perception is that i’m an act”

อัล ปาชิโน เคยได้บอกกับ Entertainment Weekly ไว้ ว่าเขาแสดง ตัวละครไม่ใช่ตัวเขา และเขาไม่ได้อยากเป็นเซเลบริตี้ ถ้าเขารู้สึกเช่นนั้น เขาหวังว่าเขาแสดงมันอยู่

 STYLE 

ตั้งแต่หนุ่มจนอายุมากแล้ว อัล ปาชิโน มักสวมเสื้อสีเทาเข้ม และดำเป็นหลัก ไอเท็มที่ไม่เคยขาดคือชิ้นคลุม ไม่ว่าจะเป็นเบลเซอร์ โค้ต หรือแจ็คเก็ตก็ตาม แต่จะไม่เน้นลวดลาย สีต้องอยู่ในโทนเดียวกัน ทำให้ลุคยังคงดูขรึม เท่ แบบไม่ตกยุคตกสมัย

---

 7. Gary Oldman 

‘แกรี่ โอลด์แมน’ นักแสดงที่จับตัวได้ยากมาก วัย 61 ปี เพราะชีวิตและนิสัยส่วนตัวนั้นคนละเรื่องกับจำนวนภาพยนตร์ที่รับเล่น เพราะป๋าแกรี่ เป็นคนที่ระวังอย่างมากในการให้สัมภาษณ์ทุกสื่อ หลายครั้งผู้จัดการส่วนตัวจะเป็นผู้ตอบแทน แถมก่อนจะตีพิมพ์หรือเผยแพร่ออกสู่สาธารณะต้องส่งให้ผู้จัดการและตัวของแกรี่เองได้อ่านก่อน เพราะเนื้อแท้ของแกรี่ โอลด์แมนเป็นคนอ่อนไหวง่ายมาก ซึ่งขัดแย้งกับบทบาทหนักๆ ที่เขาได้รับ ตั้งแต่ภาพยนตร์แจ้งเกิดอย่าง Sid & Nancy, ซีเรียส แบลค ใน Harry Potter และหมวดจิม กอร์ดอน ในซีรีส์ Batman เวอร์ชั่นของ คริสโตเฟอร์ โนแลน

 

แม้จะฝากฝีมือการแสดงไว้ในภาพยนตร์หลายเรื่อง แต่บทบาทที่โดดเด่นที่สุดที่เขาเคยรับมาก็คือบท จอร์จ สไมลีย์ สายลับวัยเกษียณจากภาพยนตร์เรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy ที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมออสการ์เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเมื่อปี 2011 ก่อนคว้ารางวัลอันทรงเกียรติเป็นครั้งแรกด้วยบท วินสตัน เชอร์ชิล จาก Darkest Hour ในปี 2018

ในวัยเด็กแกรี่หาเงินเลี้ยงชีพตัวเอง ทำงานแบบไม่เลือก ตั้งแต่ขายรองเท้า ทำงานในโรงละคร ด้วยความขยันจนสามารถสอบชิงทุนเพื่อเรียนการแสดงได้สำเร็จ แต่ในแง่วงการบันเทิง นอกจากจากรับงานแสดงอย่างต่อเนื่อง แกรี่ โอลด์แมน ก็ชอบร้องเพลงอีกด้วย เขาเคยไปแจมกับศิลปินไอคอนตลอดกาล ตำนานเพลงร็อค เดวิด โบวี่ (David Bowie) และมือกีตาร์ชื่อดัง รีฟส์ แกเบรลส์ (Reeves Gabrels) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานเพลงจากอัลบั้ม The Sacred Squall of Now เมื่อปี 1995 อีกทั้งเขายังสามารถเล่นเปียโนได้ และยังแอบเกี่ยวข้อกับวงการกีฬาด้วยการเป็นผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล Millwall อีกด้วย

 “What other people think of me is none of my business.”

ไม่สนคำนินทาต่างๆ เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องใส่ใจ

 STYLE  

ไอเท็มที่เป็นสิ่งที่ห้ามขาดคือนั่นคือแว่นตา กรอบแว่นสายตาที่แกรี่มักเลือกใส่ จะเป็นทรงเหลี่ยมค่อนข้างใหญ่ สวมเสื้อยืดกับเบลเซอร์ สีสันไม่ฉูดฉาด ที่ดูนิ่งแต่คูล c]t เนื่องจากว่าลูกชายของป๋าเป็นถึงแฟชั่นไอคอนในหมู่วันรุ่น ป๋าก็ต้องไม่ยอมน้อยหน้า ยังแวบไปเดินแบบให้ Prada ด้วย

กว่าจะมีวันนี้ของหล่าไอคอนทั้งหลายที่ดูเท่ ดูเจ๋ง ทุกคนต่างผ่านเรื่องราวมานับไม่ถ้วนกว่าจะพบเจอสไตล์และแนวทางที่ใช่ของตัวเอง แต่สิ่งสำคัญที่เห็นได้ชัดที่สุดคือทุกคนล้วนมีความมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองทั้งสิ้น

หวังว่าหนุ่ม MOVER จะได้แรงบันดาลใจจากทั้งเรื่องราวและสไตล์ของไอคอนทั้ง 7 คนไปบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

---

บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com

 

---

บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com