3 ขั้นตอน ดูแลผิวหน้า ง่ายๆหล่อใสได้ไม่ยุ่งยาก
Share
3 ขั้นตอน ดูแลผิวหน้า ง่ายๆหล่อใสได้ไม่ยุ่งยาก
ตามอย่างที่โบราณว่าไว้ เวลาไม่เคยหยุดเดิน และก็เช่นกันเวลาก็ทำให้อายุเราเพิ่มมากขึ้นสำหรับเพื่อนๆที่ต้องเผชิญกับผิวหน้าที่เริ่มมีปัญหา อากาศก็ร้อนหน้าก็มัน สิวที่ตอนวัยรุ่นยังไม่มีก็ดันมามีเอาตอนจะแก่ รอยเหี่ยวย่นเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนออกกำลังกายมาหน้าใสปึ๊งเดี๋ยวนี้ฝ้าเริ่มขึ้น ไหนจะใต้ตาที่หมองคล้ำ สำหรับคนที่ไม่สันทัดการดูแลผิวที่ยุ่งยาก ยิ่งเห็นพวกสาวๆใช้ไหนจะ โทนเนอร์ รีมูฟเวอร์ โฟมล้างหน้า ครีมบำรุงนั้นนี้ กว่าจะได้นอนก็ง่วงเป็นตายพอดี วันนี้เราจะมาย่นระยะให้รวดเร็วสำหรับเพื่อนๆที่อยากดูแลผิวหน้าด้วย 3 ขั้นตอน ง่ายๆหล่อใสได้ไม่ยุ่งยาก
STEP 1 CLEANSING
การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ถือเป็นส่วนสำคัญในการ ดูแลผิวหน้า เพราะว่าตลอดวันเราเจอฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่เล็กมากจนแทบมองไม่เห็นเกาะติดอยู่ทั่วใบหน้าซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความหมองคล้ำ และ สิว การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดนั้นเรามีเคล็ดลับยังไงมาดูกันเลย
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
โดยส่วนมากผู้ชายอย่างพวกเราจะชินกับโฟมล้างหน้าทั้งหลายที่เขียนว่า For Men ซึ่งจริงๆแล้วคำว่า For Men ไม่ได้มีผลเพื่อผู้ชายเท่าไหร่ อาจจะเป็นเรื่องกลิ่น แพคเกจ หรือ ส่วนผสมบางอย่างที่ให้ดูเหมาะสมกับผู้ชายแต่ทว่าผลิตภัณฑ์บางสูตรนั้นไม่เหมาะกับสภาพผิวของผู้ใช้ซึ่งจะทำให้มีปัญหาตามมาหลายๆอย่าง
สำหรับเพื่อนๆที่มีผิวมัน หลายๆครั้งโฟมที่เราใช้หลังล้างหน้าเสร็จมักจะขจัดความมันบนผิวหน้าอย่างหมดจด จนรู้สึกแห้ง ตึง ซึ่งเราเข้าใจว่ามันสะอาดสดชื่น เพราะความมันที่มีหายไปหมดเกลี้ยงแต่มันเป็นความเชื่อที่ผิดๆ เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึงหลังจากใช้ จะยิ่งทำให้หน้ามันขึ้นเพราะผิวหน้าที่ถูกกำจัดน้ำมันและความชุ่มชื้นไป จะยิ่งสร้างน้ำมันมากขึ้นเพื่อมาทดแทนที่สูญเสียทำให้ผิวหน้ามันขึ้น และเป็นสาเหตุของสิวอุดตัน และสิวอักเสบ ดั่งนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมอาจจะเริ่มจากการสำรวจตัวเองเล็กน้อยว่าเป็นคนผิวหน้าแบบไหน แล้วก็เลือกสูตรที่เหมาะสมซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนมากจะบอกเสมออยู่แล้วว่าสำหรับผิวเช่นไร
สำหรับโฟมล้างหน้าที่มีสครับ หรือ เม็ดบีทเล็กๆไว้ขัดเซลล์ผิวนั้นแน่นอนว่ามันสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนหน้าหรือสิ่งสกปรกต่างๆให้ออกจากรูขุมขนทำให้ผิวหน้าสะอาดสดใสและไม่หมองคล้ำแต่ถึงกระนั้นก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะการล้างหน้าอย่างรุนแรงและบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวหน้าได้รับบาดเจ็บจากการถูกสครับอย่างรุนแรงได้ ทำให้หน้าแห้ง ลอกได้ ดั่งนั้นเวลาใช้ต้องใช้อย่างเบามือ และเลือกใช้แค่สัปดาห์ล่ะ 2 ครั้งก็พอก่อนนอน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย หรือมีสิวอักเสบอยู่แล้วการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไว้รักษาสิวก็เป็นเรื่องจำเป็นแม้ความรู้สึกหลังใช้เพื่อนๆหลายคนอาจจะไม่ชอบเพราะมันรู้สึกลื่นๆ ไม่สะอาด บางอันก็ไม่มีฟองเหมือนล้างไม่หมดแต่มั่นใจเถอะมันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแถมเป็นผลดีต่อตัวเองซะอีก
การล้างหน้าอย่างถูกต้อง
วิธีการล้างหน้าเพื่อผิวสะอาดสดใสวิธีการไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากก็เหมือนล้างหน้าทั่วไป แค่มีข้อควรระวังไม่กี่ข้อให้สังเกตุ
- เวลาบีบโฟมให้บีบลงบนฝ่ามือแล้วถูจนเกิดฟองอย่าให้เหลือเนื้อเจล หรือโฟมก่อนจะชโลมบนหน้า เพราะถ้าหากเหลือเนื้อเจลหรือโฟมที่ไม่ได้ถูจนเกิดฟองอาจจะมีสารเกาะติดสะสมอยู่บนรูขุมขนตอนล้างหน้าได้ทำให้เป็นสิว
- การล้างหน้าอาจจะใช้เวลาถูเบาๆวนเป็นวงกลมตามส่วนต่างๆของใบหน้าซัก 1-2 นาทีและล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- หลังล้างเสร็จอาจจะเลือกใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆให้แห้ง อย่าถูแรงๆเพราะการถูแรงๆอาจจะทำให้ผิวที่บอบบางโดยเฉพาะรอบดวงตาเสียหายกลายเป็นจุดด่างดำ หรือ ริ้วรอยได้
- บางครั้งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว ผ้าขนหนูที่ไว้ซับหน้าอาจจะสะอาดไม่เพียงพอลองเปลี่ยนเป็นกระดาษทิชชู่ซับแทนก็ได้เพื่อความสะอาด
- ล้างหน้าแค่วันล่ะ 2 ครั้งก็พอแต่ก็ยกเว้นไว้หากไปออกกำลังกายมาหรือเจอฝุ่นสิ่งสกปรก นอกเหนือจากนี้แค่ล้างน้ำเปล่าระหว่างวันก็โอเค
- สระผม > อาบน้ำ > ล้างหน้า Step ตามนี้เพราะถ้าล้างหน้าก่อนสระผม อาจจะมีสารตกค้างจากแชมพูติดอยู่บนผิวหน้าได้
STEP 2 MOISETURE
การดูแลผิวหน้านอกจากการทำความสะอาดให้ดีแล้วการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวหน้าก็เป็นส่วนสำคัญ โดยเฉพาะการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวซึ่งเป็นขั้นตอนง่ายๆ ไม่ซับซ้อนและยุ่งยาก ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าผู้ชายผิวแห้งมีโอกาสเกิดริ้วรอยและแก่ไวมากกว่าผู้ชายผิวมัน แต่ผู้ชายผิวมันก็มีโอกาสเป็นสิวอุดตันมากกว่าผู้ชายผิวแห้ง ดั่งนั้นการปรับสมดุลผิวให้มีความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้ลดปัญหาต่างๆของผิวลงได้ ทั้งผิวแห้ง ลอก แพ้ง่าย หรือแม้แต่ ผิวที่ผลิตน้ำมันมากเกินไปจนกลายเป็นคนผิว และซ้ำยิ่งชะลอความแก่และริ้วรอยอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้น
มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆก็จะมีการแบ่งประเภทผิวของผู้ใช้อยู่แล้วซึ่งเพื่อนๆก็ควรสังเกตุ อาจจะดูจากแพคเกจว่ามีบ่งบอกไว้เช่นสูตรสำหรับผิวมัน ( Oily Skin ) ก็อาจจะมีสารควบคุมความมัน ( Oil Control ) หรือ ผู้ที่มีผิวแห้งก็อาจจะเลือกใช้ครีมที่ให้ความชุ่มชื่้นมากเป็นพิเศษ และโดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายการเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่สกัดจากธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งทางออกในการเลือกใช้ครีมบำรุง
สภาพอากาศก็เช่นกัน โดยเฉพาะเมืองไทยครีมบำรุงหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมือนที่เป็นเนื้อครีมหนักก็อาจจะทำให้ลำบากต่อการใช้งานในสภาพอากาศร้อนแรงของประเทศเรา อาจจะเลือกเนื้อครีมที่บางเบาไม่เหนอะหนะ
การเลือกใช้ให้เหมาะกับอายุก็เช่นกันเพราะส่วนผสมบางอย่างในครีมบำรุงผิวนั้นก็ให้ผลแตกต่างกันออกไปอย่างเช่น เพื่อนที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยหรือชะลอความแก่ให้กับผิวหน้าก็มีจะสูตร Anti Aging ก็จะเหมาะกับผู้ใหญ่หน่อยซึ่งถ้าอายุยังน้อยหรือผิวหน้าค่อนข้างมันสูตร Anti Aging จะค่อนข้างมีสารที่ให้ความชุ่มชื้นอยู่สูงอาจจะส่งผลให้หน้ามันและกลายเป็นสิว (คนเขียนเคยลองมาแล้วเห็นคนอื่นใช้ดีเลยใช้ตามสำหรับหน้ามันแผลบเป็นสิวอุดตันอีก ดังนั้นการเลือกใช้สูตรที่เหมาะกับวัยก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเราก็ไม่สามารถใช้สบู่ล้างหน้าเด็กตอนแก่ได้จริงไหม?
ดื่มน้ำสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
นอกเหนือจากครีมบำรุงและมอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นแล้วการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอแก่ร่างกายในแต่ละวันก็เป็นเรื่องสำคัญ เราอาจะเคยได้ยินว่าควรดื่มน้ำวันล่ะ 8-10 แก้ว แต่เรื่องจริงๆแล้วปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ล่ะวันก็แตกต่างกันออกไปในแต่ล่ะบุคคล ซึ่งมีหลักคำณวนไม่ได้ยุ่งยากนักโดยใช้ (น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30) หารด้วย 2 สมมุติ น้ำหนักตัว 60 ก.ก. ( 60 x 2.2 x 30) / 2 = 1980 หน่วยเป็นมิลลิกรัม หรือประมาณ 10 แก้วต่อวัน (แก้วล่ะ 200 มิลลิกรัม) ซึ่งถ้าเราไม่คำณวนให้ดีในการดื่มแล้วดื่มน้ำมากเกินไปแทนที่จะเกิดผลดี จะเป็นผลเสียแก่ร่างกายเสียมากกว่า
ถ้าหากเราดื่มน้ำน้อยกว่าค่าเฉลี่ยที่ตั้งไว้ เลือดซึ่งทำจากน้ำ 90% จะไหลเวียนไม่สะดวกและทำให้การขับถ่ายยากขึ้นทำให้เป็นบ่อเกิดสารพัด และดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดี และที่สำคัญควรเลือกดื่มน้ำอุ่น และหลีกเลี่ยงน้ำเย็นโอเคแหละ เราเข้าใจว่าเมืองร้อนแบบไทยการดื่มน้ำเย็นมันสดชื่นดี แต่เราไม่ได้ออกแดดทั้งวันนิ ดังนั้นถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็เลือกน้ำอุ่นเถอะ เพราะน้ำเย็นจะทำให้กระเพาะเราหยุดทำงานเวลาย่อยอาหาร ทำให้อาหารย่อยยาก ดูดซึมสารอาหารไม่ดี ท้องอืด ท้องเฟ้ออีกต่างหาก เห็นแล้วใช่ไหมล่ะการดื่มน้ำแค่นี้ก็มีเอฟเฟคมากและแน่นอนเมื่อระบบไหลเวียนเลือดและการขับถ่ายดี
ผิวพรรณเราก็จะดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
STEP 3 Sunscreen
แสงแดดคือส่วนสำคัญในการเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และ ปัญหาผิวต่างๆ ของผู้ชายหลายๆคนดังนั้นก็ต้องยอมรับเลยว่าการทาครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นมากๆต่อชีวิตประจำวันเพื่อผิวหน้าที่ดีขึ้นผู้ชายบางคนไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อให้ผิวกระจ่างใสเลยเพียงแค่ใช้กันแดดทุกวันเพื่อนๆก็สามารถขาวขึ้นได้โดยไม่ต้องกินหรือไปฉีดกลูต้า แถมครีมกันแดดยังป้องกันการเป็นมะเร็งผิวหนัง และ ฝ้า ซึ่งรักษายากมากกว่าริ้วรอยและจุดด่างดำเสียอีก
การเลือกซื้อครีมกันแดดมีข้อควรสังเกตุอยู่ไม่กี่ข้อ และไม่ยากเกินกว่าเพื่อนๆจะเข้าใจแต่อาจจะต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่ซักหน่อยจนกว่าจะเจอผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับตัวเอง
- ดู SPF เป็นหลักเพราะ SPF แสดงถึงค่าการป้องกันแสงแดดยิ่งมากยิ่งป้องกันได้ดี เช่นแดดเมืองไทยตอนกลางวันธรรมดาอาจจะซัก 15-35 กำลังดี
แต่ถ้าต้องออกแดดหนักกลางแจ้งนานๆ เช่นออกทริป ไปทะเล เล่นกีฬา ก็ต้อง SPF 50 ขึ้นไป ยิ่งถ้ากัน UVA UVB ได้ก็ยิ่งดี - ครีมกันแดดหน้า และ กันแดดตัวคนล่ะตัวแม้บางผลิตภัณฑ์จะบอกว่าใช้ได้ทั้ง 2 แต่ถ้าเป็นที่หน้าให้เลือกอันที่เฉพาะหน้าก็ดี
- ควรทากันแดดก่อนออกแดดซัก 15-20 นาทีให้ครีมกันแดดเซทตัวเพื่อให้ครีมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- เรียกแบบ Water Proof หรือกันน้ำก็จะสะดวกมาขึ้น
- นอกเหนือจากคุณสมบัติในการกันแดดแล้ว ฟิลลิ่งและสัมผัสตอนใช้ก็อาจจะมีส่วนในการเลือกซื้อเพราะถ้าเพื่อนๆถึงพอใจกับสัมผัสที่ได้ไม่เหนอะหนะ ไม่ไหลเยิ้ม และง่ายต่อการทาเพื่อนๆก็สามารถทาได้ทุกวันแบบไม่ตะขิดตะขวงใจ
- ครีมบำรุงหรือมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์บางสูตรโดยเฉพาะสูตรทากลางวันมักจะมี SPF 15-35 อยู่ใช้ทดแทนกันได้
- กันแดดบางอันมีเนื้อครีม หรือ เนื้อสีที่แตกต่างกันออกไปถ้าเพื่อนๆไม่มั่นใจจะเลือกสีไหนก็หลีกเลี่ยงสีขาว ให้เลือกสีเนื้อ หรือ สีเบจแทน
เพราะกันแดดที่มีสีขาวหากทาไม่ดี หรือไม่เหมาะกับสีผิวหน้าวอกเป็นงิ้วแน่ๆ - และที่สำคัญอย่าลืมล้างหน้าให้สะอาด เพราะถ้าใช้ครีมกันแดดแล้วไม่ล้างหน้าให้สะอาด จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและกลายเป็นสิวได้
ซึ่งจะตามมาดูแผล รอย และจุดด่างดำแทนที่จะหล่อ ใส ขึ้น
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com