อัปเดต เทรนด์ผมชาย ครึ่งปีหลัง 2017-2018 กับ ‘Never Say Cutz’ พร้อมทริคตัด Undercut และ Grooming
Share
นอกจากเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับต่าง ๆ แล้ว ก็มี “ทรงผม” นี่แหละที่จะสื่อถึงไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวและยังเป็นเครื่องมือช่วยเสริมหล่อชั้นดีให้กับผู้ชายอย่างเราด้วย ซึ่งทรงผมนั้นก็เปรียบเหมือนแฟชั่นที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามสมัยนิยม หลายคนอาจจะตามเทรนด์ผมใหม่มาแรงรับต้นปี 2017 กันไปบ้างแล้ว ถึงเวลามาอัพเดททรงผมช่วงครึ่งปีหลังของ 2017 และต้นปี 2018 กันบ้าง!
วันนี้ Mover เลยขอเข้ามาพูดคุย อัพเดทเทรนด์ทรงผมกับมืออาชีพ “ช่างแบงค์” ที่ร้านบาร์เบอร์สไตล์อเมริกันชื่อดัง “Never Say Cutz” สาขารามคำแหง
ก่อนอื่นเลยหลายคนอาจคุ้นเคยกับคำพูดที่ว่า “ถ้าอยากตัดทรง Undercut ต้องไป Never Say Cutz” ซึ่งก็เป็นเพราะมาตรฐานและจุดเด่นของที่นี่เลย ที่เป็นเจ้าแรก ๆ ในวงการบาร์เบอร์ไทยที่เอาทรงผมสกินเฮดกันขอบคม ๆ และทรงวินเทจที่ทำไล่เฟดเข้ามา ซึ่งก็มีต้นกำเนิดมาจากความเป็นอเมริกันนี่แหละ ซึ่งสไตล์หลักของเค้าก็คือ “งานต้องไวสวยเนี้ยบ ละเอียด 100%และเวลาก็ต้องได้” ซึ่งทางร้านก็จะใช้เวลาตัดผมประมาณ 45-50 นาที เรียกว่ากำลังดีสำหรับงานบาร์เบอร์ แล้วถ้ารวม grooming หนวดเคราแล้ว ก็จะรักษาเวลาไม่ให้เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ลูกค้าเสียเวลาในร้านมากจนเกินไป
ช่างแบงค์บอกกับเราว่าเทรนด์หลัก ๆ ในครึ่งปีหลังของ 2017 ก็ยังเป็นเหมือนต้นปีและปีที่ผ่านมาคือทรง “Vintage Undercut” หรือทรงไถข้างเนี้ยบ ๆ กรอบชัด ด้านบนยาว จะเลือกเซ็ทแบบหวีเรียบ หรือจะปล่อยเซอร์ก็ได้ ซึ่งทรงนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของ Never Say Cutz เลย
ในส่วนของปี 2018 นี้ ช่างแบงค์บอกกับเราว่าทรงผมก็เหมือนกันกับช่วงเปลี่ยนผ่านของแฟชั่น ผมทรงวินเทจเข้ามาได้พักใหญ่ ๆ แล้ว และกลายเป็นกระแสที่มาแรงมากในช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา จนเทรนด์นี้อาจจะเรียกได้ว่ามาถึงช่วงอิ่มตัว ซึ่งทรงผมก็เหมือนแฟชั่นที่มีช่วงเลิกฮิตและกลับมาฮิตใหม่วนกันไป ปี 2018 เลยน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ เริ่มมีงานกึ่งซอยและงานเกาหลีเข้ามามากขึ้น เซ็ทผมแบบแสกกลาง มีการดัดผม ย้อมผม แต่ถึงจะมีงานเกาหลีเข้ามา แต่ก็เชื่อว่าคนไทยก็ยังไม่ทิ้งงานไถแน่นอน
และถึงกระแสปีหน้าจะเปลี่ยน แต่กระแสหลัก ๆ ของงาน Vintage Undercut ที่ทำอยู่นี้ก็ยังอยู่ได้เรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ในช่วง 1-2 ปีนี้ แต่ถึงยังไงกลุ่มคนที่ชอบแต่งตัวสไตล์วินเทจก็จะไม่ทิ้งคาแรคเตอร์ของตัวเอง แต่กลุ่มลูกค้าที่ตามเทรนด์ผมใหม่ ๆ ก็จะเปลี่ยนทรงผมไปเรื่อย ๆ แล้วแต่ไลฟ์สไตล์และเทรนด์ขณะนั้น แต่ซึ่งในปัจจุบันคนที่เข้ามาตัดผมที่ร้านจะแบ่งเป็น Vintage Undercut ถึง 90% สกินเฮด 5% และซอยสั้นอีก 5% ซึ่ง Vintage Undercut นี่ก็ครองความนิยมได้อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว
พูดถึงทรงผมยอดนิยมของ Never Say Cutz กันอีกสักหน่อยกับการเซ็ทผมทรง “Vintage Undercut” ที่ช่างแบงค์บอกกับเราว่าต้องระวังตรงที่ทรงวินเทจบางทรง ผมด้านบนมันจะบานเพราะเราไถข้างออกหมด เหลือข้างบนอย่างเดียว ซึ่งถ้าเป็นคนผมกลาง ๆ ตั้ง ๆ มันก็จะไม่สวย ก่อนออกจากบ้านก็ควรเซ็ทผมหน่อย แต่ถ้าเป็นคนหยักศกนิด ๆ ทำทรงนี้กำลังสวยเลย แต่ถึงจุดนี้คนผมตรงไม่ต้องเสียใจไป ถึงทางร้านจะไม่มีบริการดัดผมให้ แต่ช่างที่นี่ทุกคนจะตัดผมเข้าทรงให้เรียบร้อย จะเซ็ทหรือปล่อยเซอร์ก็ได้ และพร้อมให้ลูกค้าไปดัดต่อได้เลย
จะพูดถึงเทรนด์ทรงผมอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะสำหรับผู้ชายแล้ว การ Grooming หนวดเคราก็คือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเสริมหล่อ อัพลุคสร้างคาร์แรคเตอร์อยู่เหมือนกัน ซึ่งช่างแบงค์ก็บอกกับเราว่าโดยส่วนมากจะตัดเล็มหรือโกนหนวดเคราให้เข้าทรงเฉย ๆ แต่จริง ๆ แล้วการ grooming นี่ปัจเจกมา ขึ้นอยู่กับหน้าตา บุคลิค การแต่งตัว และสไตล์ของลูกค้าแต่ละคนจริง ๆ แต่ในฐานะช่างตัดผม ก็ต้องทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าออกมาดูดีที่สุด บางทีลูกค้ามีหนวดมาแล้วอาจจะดูไม่ดีเท่าไหร่ หรือถ้าทรงผมที่จะตัดไม่เข้ากับหนวด ก็จะแนะนำให้โกน หรือถ้าลูกค้าจะทำทรงวินเทจเซอร์ ๆ ก็จะแนะนำให้ไว้หนวดเคราเยอะ ๆ จะดูดีกว่า แล้วค่อยเล็มให้เป็นทรง พูดง่าย ๆ คือจะเน้นให้คำแนะนำให้การ grooming ให้เหมาะกับลูกค้ามากกว่า
แต่สำหรับการ Grooming หนวดเครานี้ชาวต่างชาติและคนผิวสีจะเป็นลูกค้าหลักของร้านเรา เพราะหนวดเคราเค้าเยอะและมีลักษณะฟูเป็นพุ่ม จะตัดหรือเล็มเป็นทรงอะไรก็ออกมาดูดี แต่สำหรับคนไทยที่เคราเราขึ้นไม่หนาเท่านั้นและสภาพเล้นขนก็ต่างกันจึงทำทรงได้น้อยกว่านั่นเอง
ก่อนจะจบการพูดคุยในวันนี้ ช่างแบงค์ยังแนะนำทริคดี ๆ สำหรับคนโครงหน้าใหญ่ที่ใจอยากจะทำทรง Undercut กับเขาบ้าง
1. เริ่มต้นเลยคือเปิดใจก่อน คนเราจะตัดทรงไหนมันอยู่ที่ใจเราก่อน ถ้าเราคิดว่าตัดแล้วโอเค ตัดยังไงมันก็โอเค ต้องมั่นใจใจตัวเอง
2. ถ้าคนแก้มเยอะเราจะไถให้เบอร์ยาวหน่อย ไม่ต้องขาว การที่เราไถเบอร์น้อยแล้วจอนออกมาขาวเลย มันจะทำให้เห็นส่วนของหน้ากว้างขึ้น เหมือนไปเน้นให้หน้ายิ่งดูใหญ่ แต่ถ้าไถโดยใช้เบอร์ยาวมากขึ้น ก็จะเห็นเป็นสีผมที่จอน เป็นการช่วยบีบกรอบหน้าให้ดูเล็กลง
3. อย่าทำจอนเล็ก ถ้าเรายิ่งไปคว้านให้จอนมันเล็ก ก็เหมือนสร้างกรอบที่กว้างขึ้นให้กับใบหน้า พื้นที่หน้าก็จะดูใหญ่ขึ้น
4. ถ้าอยากให้หน้าเรียวก็ไม่ควรเซ็ทล้ม หวีปาดแป้ไป มันยิ่งเน้นโครงหน้าให้หน้าเราดูกลม ถ้าคนอ้วนเซ็ทตั้งสวย โมฮอก โฟฮอก(แหลม) ผมพุ่งๆ เหมือนการเปลี่ยนรูปหน้าใหม่ด้วยทรงผม ให้หน้าดูยาวขึ้น
5. ปล่อยเซอร์ก็ได้ แต่ควรดัดหน่อยเพื่อดึงความสนใจไปอยู่ที่ผม แต่ทางร้านจะตัดเข้าบล็อคให้ แนะนำทรงผม แล้วลูกค้าไปดัดเอง
รับไปเต็ม ๆ ทั้งความรู้เรื่อง เทรนด์ผมชาย ครึ่งปีหลัง 2017 และปี 2018 ทริคดี ๆ สำหรับการเซ็ทผม กรูมมิ่งหนวดเคราให้เข้ากับทรงผม และยังได้วิธีการตัดผมทรง Undercut Vintage สำหรับคนโครงหน้าใหญ่และเจ้าเนื้ออีกด้วย เรียกว่าทุกอย่างครบจบที่ Never Say Cutz เลยทีเดียว!
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com