รู้จักกับ NIKE ‘AIR’ รองเท้าดีไซน์สวย กับนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดพัฒนา
Share
นอกเหนือไปจากรถ นาฬิกา เกมส์ หรือหนังสือการ์ตูนแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารองเท้าก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ชายอย่างเราให้ความสนใจ โดยเฉพาะรองเท้าสนีกเกอร์ที่ผสมผสานทั้งดีไซน์สวยและใส่สบายด้วยแล้ว กี่คู่ก็ไม่เคยพอ วันนี้ Mover จึงพาคุณมาพบกับรองเท้า ‘Nike’ และนวัตกรรม ‘Air’ สุดยอดรองเท้าในดวงใจใครหลาย ๆ คนกับเทคโนโลยีเคยที่ไม่หยุดพัฒนา
ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของนวัตกรรม แอร์ (Air) เริ่มเมื่อปีค.ศ. 1977 นักประดิษฐ์ แฟรงก์ รูดี้ เสนอแนวความคิดที่แปลกใหม่แนวคิดหนึ่งให้ ฟิล ไนท์ ผู้ก่อตั้งไนกี้ นั่นก็คือการแทรกถุงลมไว้ในรองเท้า ซึ่ง ฟิล ไนท์ ก็ชื่นชอบแนวความคิดนี้มาก และตัดสินใจทำการทดลอง ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ผลักดันให้แบรนด์ ไนกี้ ก้าวสู่ยุคสมัยใหม่อย่างแท้จริง
โดยตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ไม่มีเทคโนโลยีใดที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักของไนกี้เทียบเท่ากับเทคโนโลยีแอร์ โดยมีรองเท้าไนกี้มากมายหลายรุ่นที่ใช้นวัตกรรมนี้ ตั้งแต่รองเท้ารุ่นเทลล์วินด์ (Tailwind) ไปจนถึงรุ่นล่าสุดอย่าง แอร์เวเปอร์แมกซ์ (Air Vapor Max) ซึ่งต่างก็เป็นรองเท้าที่ผสานแนวคิดใหม่ล่าสุด ที่ช่วยยกระดับไนกี้ให้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก
จากสำนักงานใหญ่ของไนกี้ในเมืองบีเวอร์ตัน รัฐโอเรกอน (Beaverton, Oregon) คุณสามารถเดินเท้าเป็นระยะทางสั้น ๆ ไปยังหน่วยงาน 1 ใน 2 แห่งของไนกี้ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดนวัตกรรมแอร์ และยังเป็นสำนักงานที่มีหน้าที่พัฒนาและปรับปรุงนวัตกรรมแอร์โดยตรง
สำนักงานของศูนย์นวัตกรรมการผลิตไนกี้แอร์ (Nike Air Manufacturing Innovation) รวมทั้งสำนักงานย่อยของหน่วยงานนี้ที่เมืองเซนต์ชาร์ลส รัฐมิสซูรี่ (St. Charles, Missouri) เป็นสถานที่ผลิตชิ้นส่วนแอร์แล้วกว่า 3 พัน 5 ร้อยล้านชิ้น และชิ้นส่วนแต่ละชิ้นผลิตโดยช่างฝีมือกว่า 1,300 คนที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และช่างฝีมือเหล่านี้คือส่วนสำคัญในการผลิตและปรับแต่งนวัตกรรมแอร์อย่างละเอียดแม้ในจุดที่เล็กที่สุด เพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุดให้แก่ผู้สวมใส่รองเท้าไนกี้ทุกคน
และคลิปวิดีโอ “Fresh Air from Oregon” นี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ไนกี้จะพาผู้ชมทุกท่านเยี่ยมชมภายในศูนย์นวัตกรรมการผลิตไนกี้แอร์ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าไนกี้ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ตระกูลไนกี้แอร์มากเพียงใด
รองเท้าตระกูลไนกี้แอร์เป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญของโลก เนื่องจากไนกี้พยายามที่จะยกระดับนวัตกรรมแอร์ให้ดีขึ้นกว่าที่เคย ทั้งด้านการใช้วัสดุใหม่ ๆ การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการออกแบบ และเครื่องมือใหม่ ๆ ในกระบวนการผลิตที่ช่วยทลายข้อจำกัดต่างๆ ทางเทคโนโลยี ณ ปัจจุบัน รองเท้าตระกูลไนกี้แอร์นั้นถูกยกระดับให้เป็นมากกว่าการเป็นรองเท้าวิ่ง แต่ยังเป็นรองเท้าที่สร้างกระแสใหม่ๆ ในกลุ่มรองเท้ากีฬาและรองเท้าไลฟ์สไตล์อีกด้วย 
รองเท้ารุ่นเวเปอร์แมกซ์เป็นรองเท้ารุ่นล่าสุดในตระกูลแอร์ ที่เปรียบดั่งการนำโลกอนาคตมาสู่เวลาปัจจุบัน จุดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้คือนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่เหนือกว่าทุกสิ่งที่ผ่านมา เพราะรองเท้ารุ่นเวเปอร์แมกซ์ช่วยให้ผู้สวมใส่ทุกคนรู้สึกสบายราวกับเดินบนอากาศในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และชิ้นส่วนแอร์ทุกชิ้นที่ใช้ในรองเท้ารุ่นเวเปอร์แมกซ์นั้นผลิตที่บ้านของไนกี้ คือเมืองบีเวอร์ตัน รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยคุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารต่าง ๆ ของนวัตกรรม Air ได้ที่เวบไซต์ nike.com
Cr. Nike Innovation Summit 2016
นอกจากนี้สาวกไนกี้ในกรุงเทพมหานครยังมีเฮ เนื่องจาก ไนกี้ เตรียมเผยโฉมรองเท้า แอร์แม็กซ์ วัน แอนนิเวอร์ซารี่ (Nike Air Max 1 Anniversary) เพื่อฟื้นตำนานรองเท้ารุ่นแรกของตระกูล แอร์แม็กซ์ และเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี โดยคงดีไซน์ดั้งเดิมของรูปทรงของแอร์แมกซ์รุ่นแรก แต่เพิ่มการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงขึ้น ตกแต่งด้วยโทนสีขาวแดงสุดคลาสสิคและผสมผสานนวัตกรรมพื้นรองเท้า แอร์ (Air) และยังนำดีไซน์ที่ดูเบาสบาย ลื่นไหล กลับมาอีกครั้ง พร้อมเพิ่มรายละเอียดพิเศษเพื่อเอาใจสาวกแอร์แม็กซ์โดยเฉพาะ โดยไนกี้จะเปิดตัวรองเท้าแอร์แม็กซ์ วัน แอนนิเวอร์ซารี่ ที่ Air Max X Carnival Pop Up ในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2560 ณ งาน Cheeze Market บริเวณทางเข้าโซนบีคอน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
“รองเท้า แอร์แม็กซ์ วัน แอนนิเวอร์ซารี่ จะวางจำหน่ายในประเทศไทยในราคา 5,200 บาท ที่ ร้าน Air Max X Carnival Pop Up ในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 12:00 น.เป็นต้นไป ณ งาน Cheeze Market บริเวณทางเข้าโซนบีคอน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์”
บทความนี้เรียบเรียงโดยทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com
