รวม Leg Tattoo รอยสักขาสุดเท่! เพิ่มความแมนแสดงเอกลักษณ์ความเป็นตัวตน

“รอยสักมีทั้งหมด 15 ประเภท”

• ในช่วงปี 1961-1997 การสักในนิวยอร์กถือว่าผิดกฎหมาย เพราะการแพร่กระจายของไวรัสตับอักเสบ บี
• ซมัว เอฟ เรลลีเป็นคนแรกที่ประดิษฐ์เครื่องยนต์สำหรับสัก ในปี 1891 จากการดัดแปลงเครื่องพิมพ์ลาย ที่ประดิษฐ์โดย โทมัส อัลวา เอดิสันในปี 1876
• ผิวจะถูกเจาะ 50-3000 ครั้งต่อนาทีขึ้นกับขนาด รูปทรง และสีของรอยสัก

---

รอยสักที่ขา มีชื่ออังกฤษเท่ๆ ว่า Leg Tattoo หรือจะเรียกว่า Leg Band ก็ได้ เพราะรอยสักที่นิยมสักกันที่ขา จะเน้นสักให้มันพันรอบขา ซึ่งถ้ามองดูดีๆ แล้ว มันก็เหมือนกับเป็นปลอกที่หุ้มขาอยู่อย่างไม่ผิดเพี้ยน ทั้งนี้ตำแหน่งที่ขาถือเป็นตำแหน่งที่ดี สำหรับการสักรอยสักเท่ห์ๆ ประดับเอาไว้ เพราะตำแหน่งที่ขา เป็นตำแหน่งที่เราสามารถโชว์รอยสัก ให้คนอื่นเห็นได้ตลอดเวลา โดยคนสักไม่รู้สึกเคอะเขินใดๆ (ประมาณว่าอยู่ด้านล่าง ซึ่งไม่ใช่จุดสำคัญของร่างกาย เช่น ใบหน้า แขน หรือบนศีรษะเป็นต้น)

โดยบทความนี้จะเป็นบทความสุดพิเศษสำหรับหนุ่มๆ ที่สนใจจะมีรอยสักเท่ห์ๆ อยู่ตรงขาโดยเฉพาะ เพราะเราทำการหยิบรอยสัก 3 ประเภทสุดเท่ ที่นิยมสักกันตรงขามาให้รับชม เพื่อให้เป็นไอเดียดีๆ หรือต้นแบบ สำหรับใครที่กำลังเล็งจะหารอยสัก สักไว้ที่ขาสักลวดลาย

---

Tribal tattoo

Tribal tattoo เป็นหนึ่งในรอยสักที่เรามักจะเห็นหนุ่มๆ ส่วนใหญ่นำมาสักไว้ที่ส่วนขา เพราะ Tribal tattoo เป็นรอยสักที่เรียบง่าย เน้นการถมดำเป็นหลัก โดยรอยสักประเภทนี้ เราเรียกกันโดยทั่วไปว่า รอยสักแบบชนเผ่า ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาจากแถบโพนีนิเซีย โดยมีชนเผ่าพื้นเมืองที่นิยมสักกันอยู่ทั้งหมด 4 เผ่าประกอบไปด้วย Polynesian, Maori, Papua New Guinea และ Filipino ซึ่งด้วยความหลากหลายของชนเผ่า ก็ก่อให้เกิดลวดลายที่มีเอกลักษณ์ และความหมายแตกต่างกันออกไป

รอยสักรูปแบบ Tribal tattoo เป็นรอยสักที่นอกจะเน้นสีแบบโมโนโทนแล้ว ตัวรอยสักยังมีเอกลักษณ์ และความหมายที่มีเสน่ห์ เพราะรอยสักเหล่านี้สำหรับแต่ละชนเผ่าแล้ว จะแสดงถึงความแข็งแกร่ง ความอดทน ความสมชาย รวมไปถึงความเชื่อด้านจิตวิญญาณต่างๆ การสัก Tribal tattoo จะมีลักษณะเป็นลวดลายรูปแบบหนึ่ง ที่แสดงออกถึงความเรียบง่าย สม่ำเสมอ ซึ่งพอสานรวมกันแล้วก็ก่อให้เกิดลวดลายที่สลับซับซ้อนออกมาได้อย่างน่าสนใจ

---

Japanese tattoo

Japanese tattoo เป็นรอยสักที่แสดงออกถึงความงดงามด้านศิลปะอย่างแท้จริง ในยุคก่อน รอยสักแบบ Japanese tattoo มักสักกันเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ ซึ่งถูกเรียกว่า Irezumi แต่หลังจากยุคเอโดะมา Japanese tattoo ก็ถูกเปลี่ยนค่านิยมให้กลายเป็นลวดลายศิลป์ ที่แสดงออกถึงความงดงามแทน

จุดเด่นของ Japanese tattoo คือความน่าเกรงขาม ที่ผสมผสานไปความอ่อนช้อย คลุกเคล้าไปกับมนต์เสน่ห์ของตำนานเทพเจ้า และนิยายต่างๆ ในรอยสัก เรามักจะพบรูปพวกเทพเจ้า ใบหน้าอสูรที่ดุดัน มังกร หรือปลาคาร์ฟ ผสมไปกับดอกไม้และสายน้ำเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งช่วยขับความอ่อนช้อยออกมาได้อย่างน่าทึ่ง

สำหรับ Japanese tattoo จะแตกต่างจากรอยสักอย่าง Tribal tattoo ค่อนข้างมาก เพราะ Japanese tattoo จะนำเสนองานศิลป์ที่แสดงออกถึงความงดงาม มากกว่าความหมายเชิงลึกที่จะสักลงไป ช่างที่สัก Japanese tattoo จึงจำเป็นต้องมีความชำนาญที่มาก เพราะตัวลวดลายจะไม่ได้เป็นรูปทรงที่เรียบง่ายเหมือนกับ Tribal tattoo อีกต่อไป แต่จะเป็นลวดลายที่แสดงออกถึงอารมณ์ สีสัน และความซับซ้อนด้านวิจิตรศิลป์เป็นหลัก

---

Realistic tattoo

Realistic tattoo จะแตกต่างไปจาก Tribal tattoo หรือ Japanese tattoo ทั้งในแง่ความเป็นมา และความยากในการสักแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเทียบกับ 2 รอยสักก่อนหน้า เพราะในบทความนี้ผมได้ไล่ระดับลวดลายของรอยสักที่สักได้ง่าย มาจนถึงยากที่สุด และแน่นอนว่า Realistic tattoo เป็นรอยสักที่ยากที่สุด ช่างสักจำเป็นต้องมีความชำนาญ และความสามารถที่สูงจริงๆ เท่านั้น ถึงจะสักแบบ Realistic tattooให้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์

Realistic tattoo ไม่ได้มีความหมาย หรือความเป็นมาเหมือนกับสองรอยสักประเภทก่อนหน้า เพราะ Realistic tattoo เป็นรอยสักที่เกิดขึ้นตามความต้องการของตัวผู้ต้องการจะสักเองโดยเฉพาะ ว่าจะสร้างความหมายอะไรให้กับลวดลายของรอยสักนั้นๆ เช่น ชอบหนังเรื่องนี้ ชอบสัตว์นั้นๆ ชอบบุคคลคนนี้มากๆ อยากให้เขาประทับอยู่บนร่างกาย เป็นต้น

รูปแบบการสักแบบ Realistic tattoo จะเน้นรายละเอียดเป็นหลัก และจะต้องออกมาสมจริงเท่านั้น ถึงจะเป็น Realistic tattoo ที่สมบูรณ์ได้ ส่วนใหญ่นิยมนำคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เทพเจ้า และภาพยนตร์มาสักเป็นลวดลาย รอยสักประเภทนี้จะเป็นรอยสักที่สื่อความหมาย และอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งจะแสดงถึงความชอบ ความทรงจำ เอกลักษณ์ หรืออารมณ์ของคนที่สักออกมาได้อย่างชัดเจนที่สุด

ยังมีรอยสักตรงขาอีกหลายประเภทที่หนุ่มๆ ส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้สักกัน โดยทั้ง 3 ประเภทที่ผมนำมาเสนอไปนี้ ถือเป็นรอยสักยอดนิยม ที่เรามักพบเจอกันอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาสักตามกันนะครับ แต่เพราะรอยสักเหล่านี้ล้วนมีเอกลักษณ์ มีเรื่องราว มีความหมาย และมีความโดดเด่นอย่างชัดเจน ซึ่งช่วยเสริมเสน่ห์ และเอกลักษณ์ความเป็นชายของเราให้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์

---

บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com