‘แฮงก์เอาท์สไตล์ญี่ปุ่น’ ในบรรยากาศแบบต้นตำรับกับ 6 ร้านอิซากายะ
Share
ร้าน Izakaya อิซากายะ คือร้านที่ผ่อนคลายหลังเลิกงานอันเหน็ดเหนื่อยหนุ่มสาวออฟฟิศชาวญี่ปุ่น มักจะไปสังสรรค์ผ่อนคลายกันที่ร้านอิซากายะ เน้นขายเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้ม จนแพร่หลายมาถึงเมืองไทย วันนี้ Mover เลยรวบรวมร้านอิซากายะในสไตล์ต้นตำรับแท้จนคิดว่าอยู่ญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่แล้ว
1. Kenshin Izakaya (อโศก)
เริ่มที่ย่านชุมชนชาว Office อันดับต้น ๆ ของเมืองไทยอย่าง อโศก ขึ้นชื่อว่าถนนเส้นนี้แล้ว เลิกงานทีรถติดแหง็กแน่ ๆ งั้นลองแวะดินเนอร์แฮงเอ้าท์เบา ๆ กันที่ร้านนี้กันเลย ด้านหน้าร้านตกแต่งเหมือนเดินอยู่ย่านกินซ่า ภายในตกแต่งเหมือนเป็นบ้านคนญี่ปุ่นเต็มไปด้วยโคมแดง มี 2 ชั้น แถมยังมีห้องส่วนตัวให้ได้จับจองกันด้วย บรรยากาศครึกครื้นเฮฮาร่าเริงกันทั้งร้าน คนญี่ปุ่นแท้ ๆ ยังมานั่งดื่มเพียบ ส่วนตัวเครื่องดื่มมีทั้ง เหล้า สาเก เบียร์สด เบียร์นอก ให้ได้ละเลียดหลากยี่ห้อ
กับแกล้มแนะนำ : ปลาซาบะดองเผาไฟ หอยนางรมสด และ หม้อไฟนาเบะ
ร้าน Kenshin Izakaya
หัวมุมอโศกแยก 1 ตรงข้ามตึก Sino Thai Tower
Kenshin Izakaya’s Facebook
2.Hattori Izakaya (ทาวน์อินทาวน์)
ร้านนี้โอ่โถงกว้างขวาง มีที่นั่งรับรองเพียบ! ของตกแต่งภายในร้านส่วนใหญ่ดูเก๋าและขลังผ่านการ reuse มาแล้ว อย่างเช่นโต๊ะกลมกลางร้านก็ทำมาจากแกนไม้ม้วนสายไฟ เก้าอี้ก็เป็นลังเบียร์มัดซ้อนกัน แบบนี้ซิที่เรียกว่าอิซากายะของจริง
กับแกล้มแนะนำ : ข้าวแกงกะหรี่ชีส ไก่ย่างวาซาบิ
ร้าน Hattori Izakaya
ริมถนนศรีวรา หรือเส้นทาวน์อินทาวน์ อยู่ข้างร้านข้าวต้มเม้งปูดอง
Hattori Izakaya’s Facebook
3.Izakaya Ryoma (อารีย์)
ร้านนี้จะเป็นสไตล์คันไซญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยสีอบอุ่น มีลูกเล่นและดีไซน์ให้เราได้ทั้งสังเกตได้ไม่หมด ร้านมีขนาดเล็กเลยยิ่งทำให้ดูเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ โต๊ะตั้งแน่น เก้าอี้ก็ทำมาจากลังเบียร์ซ้อนกันแต่บุด้วยนวมนุ่ม ๆ ให้นั่งสบาย ร้านนี้จะโดดเด่นเรื่องปิ้งย่างเป็นพิเศษ ถึงขนาดจัดโซนด้านนอกเพื่อคนทานปิ้งย่างโดยเฉพาะ
กับแกล้มแนะนำ : สไปซี่คาราเกะ ไก่ดิบวาซาบิ ไส้กรอกญี่ปุ่น
ร้าน Izakaya Ryoma
เข้าได้ 2 ทางคือ พระราม 6 ซอย 30 และ พหลโยธินซอย 5 เข้ามาเกือบสุดซอยเจออารีย์สัมพันธ์ 12 ร้านอยู่ตรงข้ามกระทรวงการคลัง
Izakaya Ryoma’s Facebook
4.Sake no mise (สีลม)
ท่ามกลางความวุ่นวายย่านสีลม ก็ยังมีร้านอิซากายะแสนสงบเปิดรอรับทุกคนมาพักผ่อนกันทุกวัน โดยจุดเด่นร้านนี้คือเสิร์ฟเบียร์ในแก้วที่ถูกแช่ในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส เสิร์ฟมาแบบเย็น ๆ ทำให้ได้รสชาติของเบียร์ที่หวานเย็นนุ่มลิ้น แถมยังแตกต่างจากร้านอื่นตรงที่ไม่ได้เน้นเบียร์อย่างเดียว แต่เน้นสาเก เหล้าประจำชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย และแต่ละเมนูจะเน้นอาหารทะเลที่สดเหมือนยกทะเลมาเสิร์ฟถึงที่
กับแกล้มแนะนำ : ซาชิมิ ซูชิ ข้าวหน้าปลาต่าง ๆ
ร้าน Sake no mise
เข้าซอยสุรวงศ์ เลี้ยวเข้าซอยซ้ายแรก(ซอยทะลุกับธนิยะ) ร้านอยู่หัวมุม
Sake no mise’s Facebook
5. Kanzai Izakaya (รัชดา)
ถ้าใครเป็นทีมคอแข็ง กระเพาะแกร่ง ขอแนะนำที่นี่เพราะมีบุฟเฟ่ต์อาหารและเบียร์ให้กินกันอย่างหนำใจเริ่มต้นที่ราคา 399 อยากทานอะไรเพิ่มเติมก็แอดราคาเพิ่มเข้าไปได้ ภายในร้านกว้างขวาง โต๊ะเล็กใหญ่เรียงรายรอรับแก๊งหลายกรุ๊ป นอกจากให้แฮงค์เอ้าท์หลังเลิกงาน ที่นี่ยังเปิดให้มา lunch กันได้ในช่วงเที่ยงอีกด้วย (11.00-14.00 น. และ 17.00-23.00 น.
กับแกล้มแนะนำ : เบค่อนกิมจิ, สไปซี่แซลมอนโรล, ทาโกะยากิ
ร้าน Kanzai Izakaya
รัชดาภิเษก 4 ซอย 1 เข้าซอยแล้วเลี้ยวขวา มองทางขวาเลยร้านส้มตำไปเจอร้านเลย
Kanzai Izakaya’s Facebook
6.Beeru Bar&Bistro (พระราม 8)
ร้านนี้จะเป็นแบบ Fusion หน่อย ๆ บรรยากาศผสมความเป็น bistro เข้ากับ izakaya เลยทำให้มีมากกว่าเบียร์ญี่ปุ่น เรียกว่าขนมาแทบทั่วโลกให้คุณได้ก๊งกัน ไม่ว่าเบียร์ไทย เบียร์ลาว เบียร์เยอรมัน การตกแต่งก็เลยมีการผสมผสานของความเรียบง่ายแบบยุ่น และความเท่แบบ loft เมนูกับแกล้มก็มีให้เลือกมากมาย
การเดินทาง ขับรถซอยอรุณอมรินทร์53 (เข้าซอยที่ติดกับคอนโดลุมพินีพระราม8 ประมาณ50เมตร)
กับแกล้มแนะนำ : เฟรนช์ฟราย, หมูสามชั้น, นาเบะ
ร้าน Beeru Bar&Bistro
ซอยอรุณอัมรินทร์ 53 อยู่ก่อนถึงทางขึ้นสะพานพระราม8 ฝั่งธน (ซอยที่ติดกับคอนโดลุมพินีพระราม8 ประมาณ50เมตร)
Beeru Bar&Bistro’s Facebook
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com