ปักหมุด 5 ร้านตัดผมสไตล์วินเทจ ช่วยอัพลุคให้คุณเท่ยิ่งขึ้นกว่าที่เคย
Share
เรื่องของการตัดผมเป็นอีกสิ่งที่ผู้ชายยุคใหม่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญและใส่ใจทั้งในการเลือกทรงผม และยังรวมถึง ร้านตัดผม ที่ดีและมั่นใจได้ว่าจะทำให้หลังตัดออกมาแล้วดูดีอย่างที่ต้องการ แต่ของแบบนี้ก็เหมือนกัยการเลือกแฟนดี ๆ สักคนนั่นแหละ เพราะบางคนก็ใช้วิธีลองผิดลองถูกเพื่อหาร้านที่ใช่สำหรับตัวเองเป็นเวลานานเหมือนกัน เพราะถ้าเลือกร้านพลาดมาทีบอกเลยว่าจบ! ต้องรออีก 2-3 เดือนกว่าผมจะกลับมายาวใหม่ ดังนั้นคงจะดีกว่าถ้าไม่ต้องลองผิดลองถูกกันให้วุ่นวาย MOVER จึงรวม ร้านตัดผมวินเทจ ในกรุงเทพฯ มาแนะนำกันครับ
#VINTAGE HAIRSTYLE
ก่อนอื่นเชื่อว่าหลายน่าจะสงสัยว่า ทำไมต้องสไตล์วินเทจด้วย ตัดธรรมดาไม่ได้หรอ? จริงๆ แล้วมันก็ได้นั่นแหละครับ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าเรื่องของทรงผมก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ดังนั้นไม่มีคำว่าถูกผิดอยู่แล้ว มันขึ้นอยู่กับความชอบความพอใจล้วนๆ แต่ที่นำร้านตัดผมสไตล์วินเทจมาแนะนำ ก็เนื่องจากกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างจากเมื่อหลายปีที่ผ่านมาที่เทรนด์ผมสไตล์เกาหลีนั้นเป็นที่นิยมมากกว่า แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่า ถ้าคุณขึ้นรถไฟฟ้าหรือไปเดินตามห้างก็มักจะเจอคนตัดผมแนววินเทจกันเต็มไปหมด เพราะนอกจากจะดูเท่แล้วก็ยังมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย
#1 | 24 Barber Shop
เริ่มต้นกันที่ร้าน 24 Barber Shop ย่านลำลูกกา พิกัดซอยวัดประยูร 2 ถือเป็นร้านประจำของชาววินเทจย่านนี้ ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง มีลูกค้าทุกรุ่นทุกวัยแวะเวียนกันเข้ามาใช้บริการเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวันตั้งแต่ร้านเปิดให้บริการเวลา 10.00 – 21.00 ตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ใครที่ไม่แน่ใจว่ามาแล้วจะได้คิวเลยหรือเปล่า ก็สามารถโทรจองคิวล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 096-669-6351 และนอกจาทรงผมจะเท่โดนใจแล้วที่ร้านก็ยังมีบริการแต่งเคราและโกนหนวดให้ลูกค้าที่เข้ามาตัดผมแบบฟรี ๆ อีกด้วย
#2 | Barber Shop Punko
ร้านตัดผมสไตล์วินเทจที่ผสมผสานความเป็นร็อคเกอร์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยบรรยากาศร้านตั้งแต่หน้าร้านถูกออกแบบให้ดูวินเทจผสมเรโทรหน่อย ๆ ในขณะที่ภายในร้านจะมีเก้าอี้นั่งตัดผมที่มีดีไซน์ร็อค ๆ สีดำมีเล่นลวดลายตาข่ายเพื่อให้ดูเท่สบายตา ด้านทรงผมเองที่นี้ก็มีทรงขวัญใจร็อคเกอร์ให้เลือกและออกแบบตัดมากมาย รวมทั้งยังมีช่างสาวๆ ให้บริการตัดด้วยถ้าเกิดใครอยากได้ช่างมือเบาๆ ในการตัดผมก็สามารถเลือกได้ตามสะดวก สำหรับร้านนี้ barber shop punko นี้เปิดให้บริการด้วยกันทั้งหมด 4 สาขา ซึ่งเราก็ขอแนะนำว่าให้ลองโทรไปจองคิวกันก่อนเข้าไปตัดนะครับ เพราะที่นี้คนใช้บริการค่อนข้างเยอะ
- สาขาอโศก : 10.00-21.00 น. | Tel. 086-556-0905
- สาขาตลาดนัดรถไฟรัชดา : 16.00 – 24.00 น.| Tel. 061-626-2474
- สาขาตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ : Tel. 092-754-6313
- สาขาเสรีไทย 39 : Tel. 086-556-0905
#3 | The Silvercut Barbershop
อีกหนึ่งร้านตัดผมสไตล์ Vintage Old School ที่บรรยากาศทั้งภายนอกและภายในร้านถูกตกแต่งออกมาได้ตรงกับคอนเซ็ปท์ความเป็นวินเทจสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานผนังอิฐเปลือย เฟอร์เนอเจอร์ไม้ และป้ายตกแต่งต่าง ๆ ที่ให้กลิ่นอายความคลาสสิกแบบจัดเต็ม ซึ่งนี่ก็เป็นผลงานของเจ้าของร้านอารมณ์ดีทั้งสองคนที่ชื่นชอบในวิถีการแต่งผมที่แตกต่างแต่มีสไตล์แบบจัดเต็มทั้งตัด สระ ซอย เซ็ท ยืด ทำสี โดยนอกจากจะเปิดร้านตัดผมถึง 4 สาขาแล้ว ที่นี่ยังมีสอนตัดผมและแต่งผมให้กับผู้ที่สนใจอีกด้วย
- สาขาตลาดรถไฟศรีนครินทร์ โกดัง 8 ห้อง 18 | 17.00-24.00 พฤหัส – อาทิตย์
- สาขาพัทยาใต้ หยุดวันพุธ 12.00-23.00 น.
#4 | Blue Harbour
ร้านตัดผมชาย สไตล์วินเทจที่มีการตกแต่งร้านเต็มไปด้วยกลิ่นอายความหรูแบบย้อนยุค ให้บรรยกาศความคลาสสิกแบบเต็มร้อย ในขณะที่ด้านทรงผมก็มีช่างมากประสบการณ์คอยแนะนำ ออกแบบ และตัดผมให้ รับรองว่าถ้าได้เข้ามาใช้บริการที่นี้ น่าจะต้องชอบในบรรยากาศและหล่อออกไปแบบมีสไตล์ไม่เหมือนใครแน่นอน สำหรับร้าน Baber Harbour เปิดให้บริการอยู่ที่ K-Village ชั้น 2 ซอยสุขุมวิท 26 เบอร์ติดต่อ 02-6612901
#5 | Snapback baber shop
ปิดท้ายกันด้วย ร้านตัดผมวินเทจ ขวัญใจทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ในย่านจตุจักรและหมอชิต โดยตัวร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายให้บรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเองเหมือนเดินเข้ามาตัดผมร้านเพื่อนยังไงยังงั้น ด้านทรงผมก็มีบริการออกแบบสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนความเท่ในตัวเอง แต่ไม่รู้จะเอาทรงไหนดี ที่นี้ก็จัดให้ได้ ซึ่งบอกกันนิดว่าที่นี้ลูกค้าเข้าร้านแน่นตลอดเวลา ใครที่สนใจอยากลองไปเปิดประสบการณ์ความเท่แบบวินเทจให้กับทรงผมของตัวเอง ก็สามารถเดินทางไปได้ที่โครงการตลาดนัด JJ Green
โดยที่นี่จะแบ่งการเปิดให้บริการเป็นสองรอบคือ 1) รอบลูกค้าที่โทรจองคิว (095-779-9393) เปิดให้บริการตั้งแต่ 14.00-21.00 น. วันอังคาร – พฤหัสบดี และ 2) รอบลูกทั่วไป ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 14.00-24.00 น. วันศุกร์ – อาทิตย์ โดยทั้งสองรอบนี้ทางร้านจะไม่รับลูกค้าปนกัน ดังนั้นใครสะดวกวันไหนก็เลือกกันได้ตามสะดวก