8 สุดยอดภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วยเทคนิค Long Take
Share
การถ่ายทำ ฉาก Long take หรือการถ่ายทำฉากที่มีความยาว ๆ โดยไม่มีการตัดต่อ (หรืออาจจะเนียนจนคุณไม่รู้ตัว) เป็นการถ่ายทำที่ต้องใช้ความละเอียดสูง เพราะนักแสดงต้องมีความแม่นในบท และ จังหวะการเคลื่อนที่ต้องสอดคล้องกับกล้อง ยิ่งฉากนั้นมีความยาวต่อเนื่องมากก็ยิ่งมีความยากในการถ่ายทำมากขึ้น วันนี้เราเลยเลือก 8 ภาพยนตร์ที่มีฉาก Long Take เจ๋ง ๆ มาให้ชมกัน
1.
Children of Men (2006)
Drama, Sci-Fi, Thriller
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ในอนาคตที่โลกเกิดความเสื่อมทรามในทุก ๆ ด้าน ทั้งสังคม การปกครอง และสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ไม่มีทารกเกิดใหม่ จนเกิดความกังวลว่ามนุษยชาติจะสูญพันธุ์ โดยเนื้อเรื่องเล่าผ่านตัวละครที่ชื่อว่า ทีโอ อดีตนักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม ได้รับคำสั่งให้ช่วยพา คี เด็กสาวแอฟริกันหลบหนีจากการตามล่า
เรื่องนี้กำกับโดย อัลฟอนโซ กวารอน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉาก Long take มากกว่าหนึ่งฉาก แต่ที่ดูจะโดดเด่นและทำให้ผู้ชมทึ่งก็คงเป็นฉากขับรถหนีการไล่ล่า เป็นการถ่ายทำเทคเดียว โดยมุมกล้องนั้นเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ซึ่งสามารถถ่ายทอดอารมณ์ในการหนีจากการตามล่าได้เป็นอย่างดี การถ่ายทำฉากนี้ ผู้กำกับลงทุนโดยการดัดแปลงรถทั้งคันให้กล้องสามารถเคลื่อนไหวได้ตามที่เขาคิดไว้ จึงเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ
2.
Atonement (2007)
Drama, Mystery, Romance
เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ครอบครัวร่ำรวยครอบครัวหนึ่ง ไบรโอนี่ ลูกสาวของครอบครัวได้เกิดความเข้าใจผิดต่อ ร็อบบี้ เทอร์เนอร์ ลูกชายของแม่บ้านที่ครอบครัวได้รับอุปถัมภ์ไว้ ผู้เป็นคนรักของ เซซิเลีย พี่สาวของเธอ ว่ากระทำความผิดร้ายแรง เธอได้กล่าวหา ร็อบบี้ จนถูกลงโทษขังคุก แต่เซซิเลียไม่เชื่อ เธอจึงออกจากการเป็นครอบครัวนั้นมา ทำให้ชีวิตของคู่รัก คนสองคนนี้ต้องพบกับเรื่องราวและอุปสรรคมากมาย
ฉาก Long take ในเรื่องนี้มีความยาวประมาณ 5 นาที ความเจ๋งอยู่ตรงที่บรรยากาศ ซึ่งสถานที่คือเมืองดันเคิร์ก ในประเทศฝรั่งเศส ที่กำลังเกิดสงครามอยู่ และทุกอย่างดูจะตึงเครียดไปหมด ในฉากนี้สามารถถ่ายทอดทุก ๆ อย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่ทำให้เราทึ่งก็คงจะเป็นจำนวนของนักแสดงในฉากที่ทำให้เชื่อได้ว่า นี่คือสมรภูมิรบจริง ๆ
3.
Gravity (2013)
Drama, Sci-Fi, Thriller
เรื่องราวของวิศวกรหญิงที่เข้าร่วมภารกิจกระสวยอวกาศ ขณะกำลังทำภารกิจ ก็เกิดพายุขยะอวกาศ จากการทำลายกระสวยอวกาศของรัสเซีย ยานอวกาศของเธอจึงถูกทำลาย เธอจึงต้องใช้ชีวิตในอวกาศและหาทางกลับบ้านให้ได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย อัลฟอน คนเดิมจากเรื่องข้างต้น เพราะฉะนั้นต้องมีฉาก Long Take สุดเจ๋งอีกเช่นเคย โดยฉากที่ว่ามีความยาวกว่า 10 นาที เป็นฉากเปิดของเรื่องที่เล่าตั้งแต่ เปิดตัวนางเอกทำภารกิจ ภารกิจถูกยกเลิก เศษวัสดุจากกระสวยอวกาศที่ถูกทำลาย ปลิวทำความเสียหายให้ยานของเธอ ไปจนถึงการที่เธอปลิวสู่อวกาศอันเคว้งคว้าง ซึ่งสามารถถ่ายทอดกราฟอารมณ์ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เป็นการเปิดเรื่องที่จะทำให้คุณลอยเคว้งไม่ต่างจากเหล่านักสำรวจในเรื่อง ถึงแม้จะเป็นการถ่ายทำแบบ Green Screen ทั้งหมด แล้วใส่ CG ต่าง ๆ เข้ามาที่หลัง แต่การดีไซน์ฉากนี้ก็ไม่ได้ง่ายเลย ต้องอาศัยจินตนาการของนักแสดง และการ Block Shot ที่เป๊ะมาก ๆ เพราะเวลาถ่ายทำ ถ่ายทำกันบนโลก ที่มีแรงโน้มถ่วง แต่ต้องเล่าเรื่องในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง แค่นี้ก็จัดว่าหินมาก ๆ แล้วครับ
4.
Birdman (2014)
Comedy, Drama
เล่าเรื่องราวของอดีตนักแสดง ที่เคยโด่งดังเป็นพลุแตกในอดีต จากการรับบท มนุษย์นก หรือ Birdman แต่แล้วเมื่อยุคสมัยผ่านไป ชื่อเสียงและความเป็นที่รู้จักของเขาก็ค่อย ๆ เจือจางลง จนมาถึงจุดตกต่ำของชีวิต โดยที่ไม่มีใครเหลียวแล นั่นจึงทำให้เขาพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการกลับไปรับบทนำในละครบรอดเวย์ให้สามารถกลับมาเป็นที่รู้จักได้อีกครั้ง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ Long Take เกือบทั้งเรื่อง โดยใช้เทคนิคการตัดต่อเข้าช่วย จึงดูเหมือนกับเป็นหนังที่ถ่ายทำด้วยเทคนิค Long Take ทั้งเรื่องตลอดความยาว 1 ชั่วโมง 59 นาที ทำให้มีความต่อเนื่องของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น ฉากที่พระเอกเดินเปลือยออกจากโรงละครและเดินไปตามท้องถนน แสดงได้ถึงอารมณ์ความโกรธและความสิ้นหวังของเขาจากสายตาของคนรอบข้าง และประกอบกับภาพยนตร์เรื่องนี้ราวกับสร้างขึ้นจากชีวิตจริงของนักแสดงนำอย่าง ไมเคิล คีตัน ที่เคยรับบทเป็น ฮีโร่ดังอย่าง Batman แต่แล้ววันเวลาก็เปลี่ยนไปดั่งเช่นตัวเอกในเรื่อง
5.
La La Land (2016)
Comedy, Drama, Music
เรื่องราวของ มีอา หญิงสาวผู้หลงใหลในการแสดง เธอไปคัดตัวนักแสดงตามที่ต่าง ๆ ซึ่งก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ วันหนึ่งเธอได้พบกับ เซบาสเตียน นักเปียโนที่เธอเชื่อว่าเขามีพรสวรรค์ ความสัมพันธ์ที่พอกพูนขึ้นอย่างฉับพลัน พวกเขาต่างพยายามที่จะผลักดันกันและกัน เพื่อให้ต่างเดินไปยังจุดที่ฝันให้จงได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีที่ตัวละครร้อง เล่น เต้นรำ ในวาระต่าง ๆ หลายครั้ง และด้วยการที่นำเทคนิคการถ่ายทำแบบ Long Take ไปเล่าในจุดนั้น ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนกำลังชมละครบรอร์ดเวย์อยู่ เพราะทุกอย่างมีความต่อเนื่องทั้งแสงสี ดนตรี การเคลื่อนไหวของตัวละคร ทำออกมาได้อย่างงดงาม ราวกับดูโชว์จริง ๆ
6.
ฉลาดเกมส์โกง (2017)
Comedy, Crime, Drama
เรื่องของ ลิน นักเรียนเรียนดีระดับหัวกะทิที่คิดทำธุรกิจให้เพื่อน ๆ ลอกข้อสอบ จนสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จนมาถึงการสอบ STIC ซึ่งเป็นการสอบระดับประเทศ เธอและเพื่อน ๆ จึงวางแผนในการทำธุรกิจของเธออีกครั้ง โดยเธอตัดสินใจบินไปสอบที่ประเทศที่มีการสอบเร็วกว่าไทย เพื่อรีบนำคำตอบมาบอกแก่เหล่าลูกค้าของเธอ
หลายคนคงจะงงว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ติดอยู่ในหมวดหมู่ภาพยนตร์ Long Take ได้ยังไง โดยฉากที่เราจะพูดถึงนี้คือฉากที่นางเอกของเรื่องหนีจากห้องสอบมาที่สถานีรถไฟ จากในเรื่องเราอาจจะเห็นการตัดสลับ เพื่อให้ดูลุ้นระทึก แต่ในตอนที่ถ่ายทำ ด้วยความที่สถานีรถไฟนั้นมีคนจำนวนมาก เพราะไม่ได้มีการปิดสถานีแต่อย่างใด จึงมีเวลาในการถ่ายทำไม่มาก ทีมงานจึงต้องใช้การถ่ายทำแบบกองโจร ทำให้มีลักษณะการถ่ายทำแบบ Long Take นักแสดงและกล้องต้องเคลื่อนที่สัมผัสกันและให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
7.
Baby Driver (2017)
Action, Crime, Music
เบบี้ เด็กหนุ่มหูอื้อ เขาจำเป็นต้องใส่หูฟังอยู่ตลอดเวลาเพราะเสียงเพลงช่วยทำให้เขากลับมาได้ยินชัดเจนอีกครั้ง เขามีหน้าที่ขับรถช่วยแก๊งอาชญากรหลบหนีจากตำรวจ แต่ทว่าหลังจากที่เขาได้พบกับหญิงสาวคนหน่ึง เธอทำให้เขาอยากจะทิ้งชีวิตอาชญากรนี้แล้วไปใช้ชีวิตแบบปกติกับคนที่เขารัก แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อแก๊งอาชญากรไม่ยอมปล่อยเขาไป และขู่จะฆ่าคนที่เขารัก เบบี้และแฟนสาวจึงต้องซิ่งหนีพวกอาชญากรที่ตามล่าพวกเขา
ภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่งเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไป โดยฉากเปิดเรื่องก็ใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบ Long Take มีความยาว 2 นาทีกว่า ๆ เริ่มต้นจากการที่พระเอกเดินออกจากอาคาร และเดินไปตามถนน จนกลับมาจบที่ประตูของอาคารเดิม โดยมีความต่อเนื่อง และทำให้เราได้รู้จักตัวละครอย่างรวดเร็ว ฉากนี้มีลักษณะคล้าย ๆ มิวสิควิดีโอ มีเนื้อเพลงตามสถานที่ต่าง ๆ ที่พระเอกเดินผ่าน ด้วยเหตุนี้จังหวะการแสดง และ กล้อง ต้องมีความสัมผัสกันเป็นอย่างมาก ใครที่ยังไม่ได้ไปดูก็รีบกันเลยครับ เรียกได้ว่าแค่ฉากเปิดเรื่องฉากแรกก็คุ้มแล้ว
8.
Bushwick (2017)
Action, Adventure
เรื่องราวคร่าว ๆ เล่าถึงเมืองบุชวิค ที่ถูกจู่โจมโดยกองกำลังทหารชุดดำติดอาวุธจากเท็กซัสที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน และคิดใช้เมืองนี้เป็นตัวประกันต่อรอง โดยเล่าผ่าน ลูซี่ และ อดีตนาวิกโยธิน สตูป พวกเขาทั้งคู่ต้องหาวิธีหนีจากการจู่โจมครั้งนี้ให้ได้
จากโปสเตอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เคลมว่านี้คือภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วย Long Take ทั้งเรื่อง ตลอดความยาวกว่า 1 ชั่วโมง 34 นาที ก็ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นมาก และดูท่าว่าจะสามารถดึงดูดเงินในกระเป๋าของผู้ชมที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนว Long Take ได้อย่างไม่ยากเลยทีเดียว
ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ใครที่อยากจะสัมผัสอรรถรสแบบ non-stop ด้วยเทคนิค Long Take เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่จะไม่ทำคุณผิดหวัง นำแสดงโดย เดฟ เบาติสต้า จากบท Drax ใน Guardians of the Galaxy และ บริททานีย์ สโนว์ จาก Pitch Perfect เป็นภาพยนตร์แนวแอคชั่น ผจญภัยอีกเรื่องของปีที่น่าจับตามองมาก ๆ
ทำไมต้อง Long Take?
- สามารถทำให้ผู้ชมติดตามฉากนั้น ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครในทุกอิริยาบท และเป็นการเล่าเรื่องที่เข้าใจง่าย เพราะไม่มีการตัดต่อใด ๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น ภาพยนตร์หลายเรื่องนำ Long Take มาเล่าฉากแอคชั่น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องทำให้ความมันส์ไม่ลดน้อยลง
- ในบางครั้งก็เป็นการโชว์เหนือของผู้กำกับและทีมงานที่ต้องวางแผนการถ่ายทำอย่างดี ทั้งจังหวะกล้อง คิวนักแสดง ถ้าทำออกมาดีก็จะทำให้ตัวหนังมีความน่าสนใจมากกว่าเดิม อาจไม่ใช่ฉากเด่นของหนังแต่ก็ใส่มาเท่ ๆ ก็เป็นได้
- เพื่อความสดและอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียว นักแสดงที่สามารถเข้าฉากเหล่านี้ได้ต้องมีทั้งไหวพริบ และความคิดสร้างสรรค์เพราะบางทีฉากเหล่านั้นถ่ายทำได้เพียงครั้งเดียวถ้ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น นักแสดงก็ต้องหาทางแก้ไข้ปัญหาให้ได้ ดังนั้น ถ้าแสดงออกมาดีก็ไม่น่าพลาดที่จะคว้ารางวัล
- ลดความน่าเบื่อในบางฉาก เช่น ภาพยนตร์บางเรื่องนำเทคนิคนี้มาเล่าฉากการสนทนาระหว่างบุคคลทำให้การสนทนานั้นดูตื่นเต้นและน่าสนใจขึ้น บางเรื่องนำมาเล่าในส่วนของการเดินทาง เพื่อให้ดูไม่น่าเบื่อและทำให้ได้เห็นภาพบรรยากาศแบบเดียวกับที่ตัวละครเห็น เทคนิคการถ่ายทำแบบนี้จริงเป็นเสน่ห์อย่างแท้จริงอีกหนึ่งสิ่งของภาพยนตร์
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com