7 วิธีดับ “กลิ่นตัว” ปัญหาร้ายที่ทำให้คุณหมดหล่อ

เข้าหน้าร้อนแบบนี้ นอกจากเราจะต้องต่อสู้กับแสงแดดและความร้อนแล้ว ยังจะต้องต่อสู้กับมลภาวะทาง “กลิ่น” ด้วย ในที่นี้ไม่ใช่กลิ่นอื่นใด นอกเสียจาก “กลิ่นกาย” หรือพูดง่าย ๆ ก็ “กลิ่นเต่า” นั่นแหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณผู้ชายทั้งหลาย ที่มักจะประสบกับปัญหานี้มากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้ชายมีต่อมเหงื่อมากกว่า ทำให้เหงื่อออกง่าย เมื่อเหงื่อไปรวมกับเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง ก็ทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์หรือกลิ่นตัวขึ้น

livescience.com

แต่ถึงแม้จะป้องกันและพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรลออน น้ำหอม ไปจนถึงสารส้มก็แล้ว หลายคนก็ยังไม่สามารถปิดจ๊อบนี้ได้ กลิ่นของคุณยังสร้างความหนักใจให้กับคนรอบตัว จนอาจทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่อยากจะออกไปเจอใครเลยก็มี….ปล่อยไว้แบบนี้ เห็นทีจะไม่ได้เรื่อง วันนี้ MOVER ขอนำเสนอ 7 วิธีดับกลิ่นตัวเจ๋ง ๆ ที่มากกว่าแค่การใช้สเปรย์ระงับกลิ่นกาย รับรองว่าได้ผลชัวร์ !

.

 1. งดอาหารบางชนิด 

dessarts.com

สาเหตุที่ทำให้บางคนมี “กลิ่นตัว” บางครั้งก็อาจเป็นเพราะ “อาหาร” นี่กินเข้าไปนั่นแหละที่เป็นตัวบงการให้เกิดกลิ่น โดยเฉพาะอาหารจำพวกเครื่องเทศ อาหารรสจัด หรืออาหารที่มีสารโคลีนสูง เช่น ผงกะหรี่ พริกไทย กระเทียม หัวหอม เต้าเจี้ยว ผักชี เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อทำงานมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดกลิ่นตัวสูง เช่น คนแขก หรือคนอาหรับที่รับประทานเครื่องเทศเป็นประจำก็จะมีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นต้น

 .

 2. อย่าอาบนำ้บ่อย 

lifehacker.com

บางคนอาจจะคิดว่าเหงื่อออกมาก ก็ยิ่งต้องอาบน้ำบ่อย ๆ จะได้ไม่เกิดกลิ่นตัว แต่จริง ๆ แล้วเป็นความคิดที่ผิด ! อาบแค่เช้า-เย็นก็พอแล้ว เนื่องจากการอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดตัวเองมากไป รวมไปถึงการขัดผิว การใช้สบู่ถูเพื่อขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ มากเกินไปนั้น จะทำให้ผิวของคุณแห้ง สูญเสียน้ำและน้ำมันใต้ผิว กลไกของร่างกายจึงต้องขับเหงื่อและน้ำมันออกมาเพื่อทดแทนความชุ่มชื้นที่หายไป เมื่อเหงื่อออกมากไปก็ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ในที่สุด

 .

 3. อย่าเครียด 

porosplus.gr

“ความเครียด” รวมไปถึงอารมณ์ต่าง ๆ อย่างเช่น ตกใจ โกรธ ตื่นเต้น มีส่วนทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ สังเกตุดูสิ ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์สำคัญต่าง ๆ เช่น ก่อนไปออกเดท ก่อนสัมภาษณ์งาน ก่อนการพูดในที่สาธารณะ เราจะมีความเครียดสูง เหงื่อเปียกชุ่มทั่วทั้งมือและตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งก็เป็นไปตามสเตปเดิมเลย เหงื่อออกมาก สิ่งที่ตามมาก็คือกลิ่นตัว ดังนั้นใจร่ม ๆ มีสติเข้าไว้ดีกว่า ดีทั้งกับตัวคุณเองและคนรอบข้างนะ

.

 4. ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม 

fashionbeans.com

ร้อนตับแตกขนาดนี้ จะมาใส่เสื้อผ้าซ้อนทับหลายเลเยอร์ให้ดูคูล ๆ เป็นคนมีสไตล์ แต่สิ่งที่ตามมาคือความอับชื้นและกลิ่นเต่า เราว่าไม่เวิร์คนะ อากาศเมืองไทยโดยเฉพาะหน้าร้อนแบบนี้ แนะนำว่าเลือกใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ระบายเหงื่อได้ดีจะเวิร์คกว่า พักเสื้อเเขนยาว เสื้อหนา ๆ หรือเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ไว้ก่อนเลย ควรเลือกใส่เป็นเสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ อย่างผ้าฝ้าย ผ้าลินินที่ระบายอากาศได้ดี จะช่วยเรื่องนี้ได้เยอะ

 .

 5. ทำดีท็อกซ์ 

easyqsls.com

ถ้าการดับกลิ่นด้วยวิธีภายนอกมันยังไม่เพียงพอ เห็นทีต้องแก้กันจากภายใน เพราะบางครั้งกลิ่นตัวอาจเกิดจากของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกาย ตกค้างอยู่ในลำไส้ ทำให้ร่างกายสะสมสารพิษเอาไว้ เเล้วขับออกมาพร้อมเหงื่อทำให้มีกลิ่นแรง ปัญหานี้แก้ได้ด้วยทำ ดีท๊อกซ์ (Detox) ซึ่งมีขั้นตอนการทำที่หลากหลาย จะให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนทำให้ หรือทำเองก็ได้ ที่นิยมกันจะเป็นการใช้กาแฟสวนเข้าไปในร่างกาย เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก วิธีนี้สามารถทำเองได้ที่บ้าน

. 

 6. ใช้นวัตกรรมเข้าช่วย 

laserbeauty-machine.com

สมัยนี้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมาย ที่ช่วยจัดการปัญหากลิ่นตัวได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว เห็นผลชัดเจน เช่นการ Botox หรือ การใช้ Laser เพื่อลดการทำงานที่มากเกินไปของต่อมเหงื่อ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นกาย ไปจนถึงการผ่าตัดต่อมเหงื่อบางส่วนออกไปเลยก็มี เป็นการกำจัดปัญหานี้ได้อย่างถาวร  ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูและของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

. 

 7. พบแพทย์ 

bizamurai.com

ปัญหากลิ่นกายที่รุนแรงจนผิดปกติ บางครั้งอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นที่บ่งชี้ถึงโรคร้าย แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย ทำการรักษาให้ถูกวิธี เช่น ถ้ามีกลิ่นตัวเหม็นมาก ๆ คล้ายกลิ่นปลาเน่า อาจเป็นโรคกลิ่นตัวเหม็นที่พบน้อยมากชื่อ “trimethylaminuria” ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสารประกอบไนโตรเจนในอาหาร ทำให้เกิดเป็นกลิ่นเหม็นรุนแรง เป็นต้น

บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com