มีโอกาสได้ย้อนกลับไปฟังเพลงเก่าๆ แล้วเจอบทเพลงท่อนหนึ่งที่ร้องว่า ‘ระหว่างเราสองคน อยากรู้มันคืออะไร’ ถึงจะเป็นเพลงที่เก่าแล้วแต่คิดว่ามันเป็นท่อนที่สะท้อนความสัมพันธ์ของหลายคู่ในปัจจุบันได้มากทีเดียว เดี๋ยวนี้คำว่า Relationship มันไม่ได้บ่งบอกแค่สถานะว่าเราเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟนกันเท่านั้น แต่สถานะตอนนี้มันมีอะไรที่มากมาย ลึกซึ้งกว่านั้น และที่สร้างความปวดใจกับเพื่อนๆเลยก็คือ ‘สถานะคนคุย’ ที่ไม่ว่าจะหาคำตอบสักแค่ไหนก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเราเป็นอะไรกันแน่
สถานะคนคุยคืออะไร ?
สถานะคนคุยมันไม่ตรงไปตรงมาเหมือนชื่อเลย เพราะสถานะนี้เป็นอะไรที่ซับซ้อนยุ่งเหยิงมาก เหมือนกับว่าเราคุยกับคนคนหนึ่งทุกวันเหมือนแฟน แต่เรากลับไม่ใช่แฟนกัน เราคอยเป็นห่วงเป็นใยให้คำปรึกษากันตลอดเวลา เหมือนเพื่อนสนิท แต่เราก็ไม่ใช่เพื่อนสนิท เอาเข้าจริงแล้วคำว่าสถานะคนคุยมันคือการที่เราไม่สามารถนิยามได้อย่างแน่ชัดว่าเราเป็นอะไรกันแน่ มันเป็นสถานะที่คลุมเครือระหว่างคน 2 คนที่ได้มอบความพิเศษบางอย่างให้กันและกัน บางคนโอเคกับการตกอยู่ในสถานะแบบนี้แต่บางคนก็ไม่เพราะมันจะเกิดคำถามที่ว่าแค่คุยไปวัน ๆ หรือมีโอกาสพัฒนาไปมากกว่านั้น ..
1 | เช้านี้ อากาศที่นั่นเป็นยังไง ?
ตอนเช้าอาจจะเป็นช่วงเวลาแห่งความเร่งรีบของใครต่อใคร จึงทำให้หนุ่ม ๆ บางคนลืมใส่ใจสิ่งเล็ก ๆ ที่จะทำให้คนสำคัญของเรารู้สึกดีได้ หากเราลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้ว เลื่อนไปหาแชทของเธอคนนั้น พิมพ์ข้อความที่สุดแสนจะเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็น ‘เป็นยังไงบ้าง’ ‘ตื่นหรือยัง’ ‘เช้านี้หนาวเนอะ’ ‘ไปทำงานทันไหม’ หรือจะใส่ความขี้เล่นเข้าไปเล็ก ๆ ให้บทสนทนาดูสนุกสนาน ‘รู้นะเมื่อคืนแอบฝันถึงเราใข่ไหม’ ถึงจะเป็นประโยคสั้น ๆ แต่มันก็บอกได้ถึงความใส่ใจ เชื่อได้เลยข้อความที่ได้ส่งไปอย่างน้อยคนปลายทางก็ต้องมีแอบอมยิ้มกันบ้างล่ะ
2 | ขอเป็นห่วงได้ไหมครับ ?
ถ้าเราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปของเธอคนนั้น ไม่ว่าจะแง่ดีหรือแง่ร้าย จะมามัวรีรอวิเคราะห์เหตุการณ์อะไรเอาเองไม่ได้ เพราะบางทีเธออาจจะกำลังมีเรื่องให้คิดอยู่และต้องการคนที่จะมาระบายด้วย เราอาจจะต้องเป็นผู้เปิดบทสนาก่อน อย่างเช่น ‘ช่วงนี้มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า’ ถ้าเธอเล่าให้คุณฟัง อย่าลืมว่าคุณต้องเป็นผู้รับฟังที่ดีและคอยอยู่ข้างๆเพื่อให้คำปรึกษา หรือการที่เธอต้องไปไหนมาไหนคนเดียวในที่ไกลๆ เราอาจจะลองเสนอด้วยการไปเป็นเพื่อนหรือการไปส่ง
3 | โจ๊กอะโซคูล แต่ยูอะโซคิ้ว ?
ถ้าจะคุยอย่างเดียวโดยไม่ใส่เทคนิคความแพรวพราวในบทสนทนา บางทีเธออาจจะไม่รู้ก็ได้ว่า ‘ตอนนี้เรากำลังคุยกันแบบไหน’ อย่างน้อยลองหยอดวันละนิดวันละหน่อย ใครสายโรแมนติกอาจจะลองด้วยประโยคที่ดูหวานหยดเยิ้มตามสไตล์เรา แต่ถ้าใครไม่ใช่แนวนี้ขอแนะนำมุกเสี่ยวต้องมา ให้หัวใจของเธอตุ้ม ๆ ต่อม ๆ บ้าง ถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะเล่นมุกไหนดี ลองเสิร์ชอินเทอร์เน็ตเรื่องมุกเสี่ยว บอกเลยว่าในเนตตอนนี้มีเยอะมาก และไม่ต้องกลัวว่ามันจะแป๊กเพราะมันเรื่องแป๊กมันต้องมีกันบ้างเวลาเล่นมุก แต่ความแป๊กนี้มันจะช่วยลดช่องว่างของคู่และจะทำให้บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดีขึ้น
4 | ขอคำแนะนำ
เวลาที่เรามีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กปัญหาใหญ่ ตัวเลือกแรก ๆ ของเราที่จะขอคำปรึกษาส่วนมากจะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท แต่ครั้งนี้ลองเลือกเธอคนนั้นเป็นที่ปรึกษาสักครั้งดู รับรองว่าไม่เสียหาย ข้อดีอย่างแรกมันเหมือนกับว่าเรามีเรื่องที่สามารถคุยกันต่อได้ ข้อสองเรายังได้เห็นทัศนคติของเธอคนนั้นในเรื่องต่าง ๆ และบางทีมันอาจจะพอช่วยแก้ปัญหาของคุณได้ด้วยซ้ำ ส่วนในมุมมองของสาว ๆ เวลาที่มีหนุ่ม ๆ มาขอคำปรึกษา เชื่อว่าไม่มีใครมองว่ามันเป็นเรื่องเสียเวลาหรือไม่ใช่เรื่องตัวเอง หลายคนยินดีให้คำปรึกษา แถมบางทีมันยังรู้สึกเหมือนว่า เขาก็เห็นเราเป็นคนสำคัญนะถึงมาปรึกษาปัญหากับเรา
5 | เราชอบ.. แล้วคุณล่ะชอบอะไร ?
การคุยกันเป็นสิ่งที่จะทำให้เราจะสานสันพันธ์ระหว่างกันและกันไปในทางที่ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ข้อสำคัญคือ ‘อย่าพูดแต่เรื่องตัวเอง’ ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าอยากให้เขารู้จักเรามากที่สุด แต่อย่าลืมไปว่าการพูดอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้มันจะทำให้คุณเป็นผู้ชายท่ีดูน่าเบื่อ บางทีเธออาจจะเกิดคำถามว่า ‘เขาสนใจเราจริง ๆ หรือเปล่า ?’ และค่อย ๆ เฟดตัวเองไปในที่สุด ฉะนั้นระหว่างบทสนทนาต้องมีการถามสลับกันไปมาบ้าง เช่น เรื่องของเราเป็นแบบนี้แล้วของเธอล่ะเป็นยังไงบ้าง
6 | เรื่องที่สนใจ
คุยกันไปนาน ๆ บางทีอาจจะทำให้เราหมดมุก วิธีที่แนะนำก็คือ ‘หยิบเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างสนใจมาคุยกัน’ เช่น ถ้าเธอคนนั้นเป็นคนชอบดูหนัง เราอาจจะหาเรื่องหนังออกใหม่มาคุยด้วย หรือซีรีส์ที่น่าสนใจในปีนี้ ให้เธอแนะนำหนังที่เธอชอบดูบ้าง และบางทีคุณอาจจะชวนเธอไปทำกิจกรรมนั้นร่วมกัน หรือว่าเล่าเรื่องที่เราสนใจและคิดว่าเธอก็น่าจะสนใจด้วย เชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยให้ทั้งพวกคุณกระชับความสัมพันธ์กันได้มากข้ึนและสามารถแสดงตัวตนของทั้งคู่ออกมาได้
7 | เรื่องเก่าเล่าใหม่
อีกเรื่องที่สามารถคุยได้แบบไม่เบื่อเลยก็คือ ‘เรื่องเก่า ๆ’ ไม่ว่าเราจะเคยไปทำอะไรมา มีพฤติกรรมแสบซ่าสักแค่ไหน พอได้หยิบยกมาเป็นบทสนทนาประจำวันมันจะช่วยให้เราทั้งคู่มีเรื่องเล่าต่อกัน เขาก็จะได้รู้จักตัวตนของเรา และเรื่องเล่าเหล่านี้มันก็ไม่เป็นเรื่องน่าเบื่อเลยสำหรับคนฟังเพราะการที่เรามาอยู่ในสถานะคนคุยมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจอยากรู้เรื่องของกันและกันไม่ว่าจะผ่านมานานสักแค่ไหน
8 | เอาฮาเข้าสู้
หลาย ๆ คนมักจะบอกว่าผู้หญิงชอบผู้ชายตลก เพราะฉะนั้นเราต้องเอาความฮาเข้าสู้ และคอนเฟิร์มเลยว่าวิธีนี้ไม่ทำให้บทสนทนามี Dead air อย่างแน่นอน แต่เราจะต้องอาศัยความใจกล้าเวลาเอาฮาด้วยการเล่นมุก อาจจะเริ่มด้วยมุก 5 บาท 10 บาท มุกแป๊ก ๆ ลองเล่นไปก่อนเพราะบางทีเธออาจจะชอบสไตล์นี้ หรือใครที่ไม่ใช่สไตล์ที่ชอบเล่นมุกเอง อาจจะลองหาคลิปหรือโควทอะไรตลก ๆ มาแชร์กันก็ได้
9 | เสาร์นี้ว่างไหม ?
แต่ก่อนอาจจะอยากไปไหนกับเพื่อนแต่ตอนนี้ลองเปลี่ยนมาชวนเธอคนนั้นบ้าง อาจจะเริ่มจากหาสถานที่ที่น่าสนใจ ที่อยากจะไปทำกิจกรรมด้วยกัน ที่คิดว่าเธอจะต้องสนใจและเราก็โอเคกับมันด้วย แล้วลองชวนเธอไปด้วยกัน ซึ่งวิธีนี้ก็มันก็จะช่วยให้เราได้มีบทสนาระหว่างที่ไปไหนมาไหนด้วยกันมากขึ้น ขอแนะนำว่าชวนบ่อย ๆ เธอจะรู้สึกว่าคุณก็ไม่ได้มาเล่นๆนะ
10 | ราตรีสวัสดิ์
สิ่งสุดท้ายที่เราควรทำก่อนที่จะจากกันในหนึ่งวันนั่นก็คือบอกลาด้วยข้อความสั้นๆ ‘ฝันดีนะ’ ประโยคนี้อาจจะไม่ใช่อะไรที่ดูหวือหวาหรือดูเหมือนจะเป็นประโยคที่ทำให้สายสัมพันธ์ของเรานั้นก้าวกระโดดไปได้ไกล แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะชอบใส่ใจในรายละเอียดดีเทลเล็ก ๆ น้อย การที่เรามาบอกลาก่อนนอนในทุก ๆ คืน มันก็พอจะช่วยให้คนที่ได้รับข้อความนั้นรู้สึกดีมากขึ้นพอสมควรเลยล่ะ