“นาฬิกา” เป็นหนึ่งในไอเท็มของคู่กายสุดคลาสสิก ที่นอกจากจะบอกเวลาให้เราได้รู้แล้ว ยังใช้เป็นเครื่องประดับในการแต่งตัวได้ด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาฬิกาก็ได้ถูกอัพเกรดขึ้นอีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีให้กลายเป็น “Smartwatch” ที่มีบทบาทช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมากขึ้น และในช่วงที่ผ่านมาหลายแบรนด์ก็ได้เปิดตัว Smartwatch รุ่นปี 2018 ออกสู่ตลาดกันมากมาย ดังนั้นไปอัพเดทกันหน่อยว่า ช่วงที่ผ่านมามีสมาร์ทวอซ์ทรุ่นไหนที่เปิดตัวลงสู่ตลาดกันบ้าง และแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นเป็นอย่างไร ตามไปชมพร้อมกันครับ
# 1 | Samsung Galaxy Watch
เริ่มกันที่ Samsung Galaxy Watch สมาร์ทวอซ์ทรุ่นล่าสุดของซัมซุง ที่ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นการต่อยอดความสำเร็จจาก Gear S3 ในปีที่แล้ว แต่ทางซัมซุงกลับเลือกที่จะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Galaxy Watch เพื่อให้สอดคล้องกับสมาร์ทโฟนสองรุ่นดังของบริษัทอย่าง Galaxy S Series และ Galaxy Note Series โดย Galaxy Watch มาพร้อมตัวเรือนอลูมิเนียมขัดเงา ที่มองดูแล้วจะออกไปในทางนาฬิกาสายหรูหราพรีเมี่ยม ด้านดีไซน์หน้าปัดนาฬิกาจะเป็นแบบทรงกลม มีขนาดให้เลือกด้วยกันทั้งหมดสองขนาดคือ หน้าปัดขนาด 46 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร ตัวสายรัดข้อมือเป็นหนัง PU ที่มีคุณสมบัติกันน้ำและเหงื่อทำให้ได้อารมณ์เหมือนนาฬิกากีฬา แต่สามารถเลือกซื้อสายข้อมือมาเปลี่ยนเองภายหลังได้ แต่สายเดิมๆ ที่มากับตัวนาฬิกาก็หล่อพอที่จะเลือกใส่ออกไปงานดินเนอร์กับสาวคนสนิท พร้อมกับสูทชุดเก่งโทนสีดำหรือสีกรมท่าได้สบายๆ
ในขณะที่นาฬิกามาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ 5ATM และผ่านการทดสอบด้านอุปกรณ์ทางการทหาร MIL-810G ทำให้สามารถกันน้ำลึกได้ 50 เมตร และสามารถใส่ว่ายน้ำได้ แต่ไม่เหมาะกับการใส่ดำน้ำนะครับ เพราะตัวนาฬิการับแรงดันน้ำไม่ได้มาก ส่วนการวางจำหน่าย Galaxy Watch วางขายในราคาเริ่มต้น 11,900 บาท
จุดเด่น
- มี Built-in GPS
- วัดความกดอากาศ และความสูงจากระดับน้ำทะเลได้
- วัดอัตราการเต้นหัวใจให้อัตโนมัติ
# 2 | Apple Watch Series 4
มาต่อกันที่อีกหนึ่ง Smartwatch ขวัญใจวัยรุ่นกับ Apple Watch 4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยการมาครั้งนี้ทาง Apple เลือกใช้คำว่า “ปฏิวัติ” เลยทีเดียว ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า Apple เลือกที่จะทำการปรับดีไซน์ของ Apple Watch ใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทำให้รุ่นที่ 4 นี้มาพร้อมหน้าปัดขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม 38 และ 42 มิลลิเมตร มาเป็น 40 และ 44 มิลลิเมตร ตัวหน้าปัดมีการเพิ่มพื้นที่ขนาดจอให้กว้างขึ้นจนเหมือนไร้ขอบ รวมทั้งมีการออกแบบตัวเม็ดมะยมหรือที่ทาง Apple เรียกว่า “Digital Crown” ใหม่ มีการเติมวงกลมสีแดงเข้ามาทำให้ดูวัยรุ่นมากขึ้น ด้านตัวเรือนยังคงแบ่งเกรดวัสดุออกเป็นอลูมิเนียมและสแตนเลส
แต่ถึงอย่างไร Apple Watch ก็เป็นสมาร์ทวอซ์ทที่ดูจะเหมากับไลฟ์สไตล์การแต่งตัวแบบวัยรุ่นๆ อยู่ดี นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขีดความสามารถของการวัดอัตราการเต้นของหัวใจให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการวัดแบบ ECG (Electrocardiogram) ที่ใช้การวัดอัตราการเต้นหัวใจแบบคลื่นไฟฟ้า ซึ่งเป็นความสามารถในระดับเครื่องมือทางการแพทย์เลยทีเดียว รวมทั้งยังใส่ความสามารถแจ้งเตือนและโทรขอความช่วยเหลือได้ทันที เมื่อผู้สวมใส่เกิดการหกล้มโดยไม่ตั้งใจ ส่วนราคาวางจำหน่าย Apple Watch 4 ก็เริ่มต้นที่ 12,900 บาท แต่ตอนนี้ยังไม่วางขายในไทยนะ!
จุดเด่น
- รองรับ Siri
- มี Built-in Cellular เล่นเน็ตได้สะดวก
- รองรับโหมด Walkie-Talkie
- รองรับการวัดอัตราการเต้นหัวใจด้วยโหมด ECG
- SOS Alert สำหรับเหตุฉุกเฉิน
# 3 | TicWatch Pro
สมาร์ทวอซ์ทรุ่นใหม่จากแบรนด์ Mobvoi แบรนด์ดังฝั่งยุโรป ที่ปีนี้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ท็อปไลน์รุ่นใหม่อย่าง TicWatch Pro กับจุดเด่นด้านซอฟท์แวร์ที่เป็น Android wear OS รุ่นใหม่ และเป็นเพียงไม่กี่แบรนด์ตอนนี้ที่นำมาใช้งาน ตัวเรือนมาพร้อมวัสดุอลูมิเนียมมีน้ำหนักแบบรู้สึกได้ ตัวหน้าปัดมีขนาด 45 มิลลิเมตร พร้อมสายหนังที่เป็นสายมาตรฐานมาให้ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งให้กลิ่นอายเรียบหรูเหมือนใส่นาฬิกา Casio ยุคก่อนพอสมควร เหมาะกับการใส่ไปร่วมงานประชุมหรืองานเสวนาเลยทีเดียว นอกจากนี้ตัวนาฬิกายังรองรับการเชื่อมต่อและสั่งการผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Google Assistant ได้ นอกจากนี้ตัวนาฬิกายัง Built-in GPS มาให้ ทำให้เราสามารถเปิด Google Maps เพื่อใช้ในการนำทางได้ทันที แถมยังสามารถเปิดดูในโหมด Offline ได้ด้วย และยังสามารถสั่งเปิดเพลง หยุดเพลง เล่นเพลงถัดไป ผ่านแอปพลิเคชั่นฟังเพลงสตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง Sportify ได้ด้วย สำหรับราคาของทิควอซ์ทโปรอยู่ที่ 9,990 บาท และสามารถซื้อสายเปลี่ยนได้เหมือนสมาร์ทวอซ์ททั่วไป
จุดเด่น
- หน้าจอแสดงผลใช้เทคโนโลยี 2 Layers ทำให้สามารถแสดงผลได้ทั้งขาวดำและสี
- Android wear OS
- รองรับ Google Assistant
- กันน้ำได้ในระดับกระเด็น
- Built-in GPS
- ใช้งานได้ทั้งสมาร์ทโฟน Android OS และ iOS
# 4 | Casio ProTrek
ขยับมาที่เจ้าพ่อแบรนด์นาฬิกาชื่อดังอย่าง Casio กันบ้าง ที่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาตัดสินใจกระโดดเข้าร่วมวงการสมาร์ทวอซ์ทด้วยเช่นกัน กับผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า ProTrek ที่ปีนี้เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสมาร์ทวอซ์ทที่มีจุดขายที่แตกต่างจากรุ่นข้างบนทั้งหมด จากการเน้นไปที่การเป็นสมาร์ทวอซ์ทสายกิจกรรม (Activity) มากกว่าการใส่เพื่อใช้งานทั่วไปหรือแฟชั่น ดั่งที่ทางคาซิโอตั้งนิยามให้กับรุ่นนี้ว่า “Smart Outdoor watch” ดังนั้นแน่นอนว่าเหมาะกับการนำไปใส่ออกกำลังกายหรือเดินป่ามากกว่าใส่หรูๆ ออกงาน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้นะ เพียงแต่อาจยกระดับให้คุณดูดีได้ไม่สุดเท่านั้นเอง
โดยตัวเรือนมาพร้อมดีไซน์ที่ดูถึกทนกับหน้าปัดทรงกลมขนาด 49 มิลลิเมตร รองรับแรงกระแทกตามมาตรฐานอุปกรณ์ทางการทหาร และกันน้ำได้ลึก 50 เมตร นอกจากนี้ตัวเรือนยังบิ้วอินเซ็นเซอร์ Barometer, Altimeter และเข็มทิศ มาให้ ทำให้สามารถใช้วัดความกดอากาศ, ความสูงจากระดับทะเล รวมถึงเปิดเข็มทิศเพื่อนำทางในป่าได้โดยที่ไม่ต้องพึ่ง Cellular ไม่ยุ่งยาก โดยราคาวางจำหน่ายของ Casio Pro Trek อยู่ที่ 14,900 บาท
จุดเด่น
- Built-in GPS
- Built-in Compass, Altimeter, Barometer
- ผ่านมาตรฐาน MIL
- Android Wear OS
# 5 | Garmin Fenix 5x Plus
ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งสมาร์ทวอซ์ทยอดนิยมของหนุ่มสายนักเดินทางและวิ่งออกกำลังกายแบบจริงจัง กับ Garmin Fenix 5x Plus สมาร์ทวอซ์ทที่มาพร้อมความสามารถแบบมัลติฟังก์ชั่นเต็มรูปแบบของการ์มิน ที่เคยทำยอดขายในประเทศไทยยอดถล่มถลายมาตั้งแต่สองรุ่นที่ผ่านมา ซึ่งการมาครั้งนี้ของ Fenix 5x Plus สมาร์ทวอซ์ทรุ่นใหม่ของการ์มิน จะเป็นการเติมเต็มช่องว่างจากรุ่นก่อนให้ลงตัวมากขึ้น รวมทั้งมีการปรับดีไซน์ของตัวเรือนอีกเล็กน้อย โดยมาพร้อมหน้าปัดขนาด 51 มิลลิเมตร เลือกใช้กระจกคุณภาพสูงอย่างกระจกแซฟไฟร์เป็นกระจกของตัวนาฬิกา นอกจากนี้ยังบิ้วอินระบบแผนที่นำทางของ Garmin เองมาให้ตัว และเพิ่มเซ็นเซอร์ PulseOx สำหรับการวัดระดับออกซิเจนในเลือดมาให้ด้วย ทำให้เป็นสมาร์ทวอซ์ทรุ่นเดียวตอนนี้ที่วางจำหน่ายที่สามารถทำได้ สำหรับการแมทซ์เข้ากับการแต่งตัวนั้นบอกเลยว่า สามารถใส่เข้ากับชุดเก่งสไตล์ไหนก็ได้ เพราะตัวนาฬิกาถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้แบบมิลติ (Multi-Activity) สำหรับราคาวางจำหน่ายของ Garmin Fenix 5x Plus เริ่มต้นที่ 31,900 บาท
จุดเด่น
- วัดระดับออกซิเจนในเลือดได้
- กระจกแซฟไฟร์
- Built-in GPS
- กันน้ำลึก 100 เมตร ได้ทั้งน้ำสระว่ายน้ำและน้ำทะเล
- โหมดติดตามสถานะการฝึกซ้อมและโหมดการฟื้นฟูร่างกาย
- โหลดเพลงลงบนตัวนาฬิกาเพื่อฟังแบบ Offline ได้