หลายคนคงคุ้นเคยกันว่า Mercedes Benz นั้นผลิตรถออกมาหลากหลายรุ่นทั้งหมดต่างมีเอกลักษณ์ องค์ประกอบที่แตกต่างกันมีอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกคนอาจพบเห็นและอาจมองข้ามมันไป ครั้งนี้ MOVER จะมานำเสนอรถเบนซ์อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ ที่มีทั้งความสมบุกสมบรรณและหรูหราในคันเดียวกันนั้นคือ “Mercedes Benz G Class” ซึ่งเป็นรถสไตล์ออฟโรดแบบคลาสสิคพันธ์ุแท้สายลุยที่สุดในบรรดารถ SUV ของ Benz
#1 | Exterior Design
รูปทรงมาพร้อมกับดีไซน์ทรงเหลี่ยมตามแบบดังเดิม ทำให้มีความสปอร์ต แข็งแกร่ง และดุดันเพิ่มมากขึ้น สามารถวิ่งได้ไม่ว่าจะเป็น บนถนน หรือ นอกถนน ทั้งใช้ลุยและใช้ในชีวิตประจำวัน มีการติดตั้งไปสำหรับวิ่งกลางวัน Day time running light อยู่ใต้ไฟดวงหลัก ประตูสามารถที่จะปิดเสียงดังได้ ส่วนไฟท้ายเป็นแบบเดิมเพื่อให้เข้ากับรูปลักษณ์ของตัวรถ
#2 | Interior Design
ภายในเป็นรูปแบบสไตล์คลาสสิค ฟังก์ชั่นภายในยังคเดิมแต่อาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบ เช่น ตัวปรับกระจกจะขึ้นมาอยู่ทางด้านบนทางด้านข้างประตูคนขับ ด้านในรถให้ความรุ้สึกแบบรถออฟโรด ด้านหน้าทางที่นั่งผู้โดยสารมีตัวจับยึดในกรณีที่เจอทางขรุขระ
#3 | Center Console
หน้าจอหรือช่องปรับอากาศรถยนต์ตรงกับวิทยุเป็นรูปแบบเดิม มีการใช้หน้าจอรองรับระบบ Navigation ส่วนวิทยุ สามารถหาคลื่น AM FM ส่วน Bluetooth เชื่อมต่อเพื่อฟังเพลง เล่นโทรศัพท์ เล่นแผ่น DVD และโหมดการขับขี่ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกปรับ ในส่วนช่องตรงกลางที่ฟังก์ชั่นมีให้ปรับโหมดการขับขี่เป็นแบบ ขับเคลื่อนสองล้อหน้า ขับเครื่อนสองล้อหลัง และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนดหมดปรับอากาศ และวิทยุยังคงเดิม
#4 | Engine Work
เครื่องยนต์ดีเซล V6 ความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 2,987 cc. แรงม้าสูงสุดที่ 245 แรงม้า การทำความแรงนั้นถือว่าดีมาก ช่วงเวลาที่รถวิ่งตกหลุม หรือทางที่ขรุขระจะไม่เกิดปัญหาขึ้นกับความเร็วและตัวเครื่องยนต์ ทำให้สามารถวิ่งต่อเนื่องในทางที่มีหลุม ได้อย่างราบรื่น
#5 | Driving Experience
ภายในรถมีการมองเห็นที่กว้างมากเนื่องจากเป็นรถสไตล์สูงมุมมองต่างๆจะต้องมองแบบเต็มและกว้างกว่ารถยนต์ทั่วไป ในห้องผู้โดยสารจะต้องสูงเพราะว่าอาจจะมีการเดินขึ้นเดินลง บ่อยครั้งจึงมีการสร้างให้สูงตามสไตล์การใช้งานของรถ เพื่อความคล้องตัวและความปลอดภัยในการเดินทางที่มากขึ้น
G350d รถสายลุยดีที่สุดและหรูหราที่สุด
หลาย ๆ คนรู้จักว่า The G class รุ่น G350 d เป็นรถสายลุย ขับขี่ทุกเส้นทางถนน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง การผจญภัย การท่องเที่ยว บนเส้นทางที่ยากลำบาก เช่น ทางขุขละ การลุยน้ำ ลุยโคลน การขึ้นเขา การลงเขา หรือถนนหนทางธรรมดา
สมรรถนะที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเดินทางที่อย่างลำบากอย่างที่สุด และ ตอบสนองได้ทุกความต้องการของผู้ขับขี่ จึงทำให้ The G class รุ่น G350 d เป็นรถที่เหมาะ กับการใช้งานในทุกรูปแบบ
เจ้า G350 d นั้นนอกจากเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 5,000 กิโลเมตร ความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมของ The G Class รุ่น G350d ถูกนำมาใช้ในทุกรูปแบบไม่เว้นแม้แต่การใช้ในชีวิตประจำวันและความสามารถในการใช้งานออฟโรดที่ไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง ด้วยรูปลักษณ์ที่ถูกปรับแต่งใหม่เพิ่มความสามารถของตัวรถยนต์มากขึ้นจากรุ่นก่อนด้วยการปรับปรุงทั้งภายในและภายนอกเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์เพื่อให้ความสามารถของตัวรถยนต์เดินทางได้ไกลและยาวนานมากขึ้น ในระบบขับเคลื่อนของตัวรถยนต์ในรุ่นใหม่นั้นเป็นแบบ 4 ล้อที่ทำให้ผู้ขับสามารถกระจายแรงบิดไปที่ล้อคู่หน้าและล้อคู่หลังได้อย่างสมดุล เพิ่มความสามารถการลุยในเส้นทางออฟโรด ซึ่ง
ในระบบขับเคลื่อนของตัวรถยนต์ในรุ่นใหม่นั้นเป็นแบบ 4 ล้อที่ทำให้ผู้ขับสามารถกระจายแรงบิดไปที่ล้อคู่หน้าและล้อคู่หลังได้อย่างสมดุล เพิ่มความสามารถการลุยในเส้นทางออฟโรด ซึ่ง the g class รุ่น G350d สามารถบุกตะลุยภายในน้ำที่ลึกถึง70 เซนติเมตร การขับขี่ในเส้นทางที่มีการไต่และการทำมุมผ่านไปได้อย่างราบรื่นด้วยรูปร่างที่ออกแบมากับการเดินทางของทุกเส้นทางและลุยไปกับทุกสถานการณ์