ทุกวันนี้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาใส่ใจกับเรื่อง ‘สุขภาพ’ กันมากขึ้น นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยเลยที่ยังเลือกใช้วิธีแบบผิด ๆ ถูก ๆ ซึ่งก็อาจจะทำให้ร่างกายของเรายังไม่เห็นผลถึงความแข็งแรงที่เพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นวันนี้ Mover เลยจะมาแนะนำเพื่อน ๆ ถึง 5 สิ่งที่ทุกคนควรจะทำแล้วรับรองได้เลยว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
1 | ออกกำลังกายวันละนิด
ทุกวันนี้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาใส่ใจ สุขภาพ กันมากขึ้นโดยใช้วิธีการออกกำลังกายแบบจริงจัง ทั้งวิ่งมาราธอน เล่นเวทหรือแม้แต่ชกมวย ซึ่งประโยชน์ของการออกกำลังกายที่ทุกคนจะได้รับแน่นอนเลยก็คือสุขภาพร่างกายจะมีความแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องของภูมิคุ้มกันในโรคภัยไข้เจ็บที่มากขึ้น และร่างกายจะมีความคล่องแคล่วขึ้นไม่เหนื่อยง่าย สิ่งที่ตามมาจากกิจกรรมเหล่านี้ก็คือกล้ามเนื้อที่หลาย ๆ คนใฝ่ฝันนั่นเองซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้รูปร่างของเราได้รูปเป็นสัดส่วนมากขึ้น ถึงจะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้แต่ก็มีอีกไม่น้อยเลยที่ไม่สนใจในเรื่องการออกกำลังกาย อาจจะด้วยเรื่องของความขี้เกียจและไม่มีเวลา ทั้งนี้ทั้งนั้น หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่าการออกกำลังกายต้องเป็นอะไรที่จริงจังแต่ความจริงแล้ว อะไรที่ง่าย ๆ ก็สามารถเป็นการออกกำลังกายได้เช่นกัน ถ้าใครที่ไม่มีเวลาอาจเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัว เช่น เปลี่ยนจากเดินขึ้นลิฟท์เป็นเดินขึ้นบันไดเลื่อน การวิ่งเหยาะ ๆ การเต้นตามจังหวะเพลง วันละ 10 – 20 นาทีอย่างสม่ำเสมอก็สามารถช่วยให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่ดีขึ้นจากที่เคยได้แล้ว
2 | นอนแต่หัวค่ำ
หากเราอยากจะมีสุขภาพที่แข็งแรงสิ่งที่ไม่ควรทำเลยก็คือ ‘การนอนดึก’ ถึงเราจะมีหน้าที่การงานที่รุมเร้าหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำลังสร้างความสนุก แต่เวลาที่เราควรชัทดาวน์ทุกอย่างเลยก็คือช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม – 5 ทุ่ม ซึ่งเมื่อเรานอนหลับสนิทจะเกิดปฏิกิริยาการหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่า Growth hormones ออกมา ซึ่งเจ้าฮอร์โมนตัวนี้ จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับเด็ก ๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่แล้วจะเป็นฮอร์โมนที่จะช่วย ซ่อมแซมสุขภาพร่างกาย ผ่อนคลายความเครียด และชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควรอีกด้วย ดังนั้นงานจะหนัก กิจกรรมจะเยอะแค่ไหน ก็อย่าลลืมพักผ่อนให้เพียงพอกันด้วย
3 | ตื่นเช้าให้เป็นนิสัย
นอกจากวันจันทร์ถึงศุกร์ที่เราจำเป็นต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปทำงานหรือไปเรียนแล้วนั้น วันเสาร์ วันอาทิตย์ ถึงแม้จะเป็นวันหยุดแต่หากเราตื่นเช้าให้เป็นนิสัยในทุก ๆ วัน ก็จะเกิดผลดีกับสุขภาพร่างกายเราแน่นอน เพราะมีผลงานวิจัยออกมายืนยันว่า คนที่ตื่นเช้าเป็นประจำ จะมีสมองที่พร้อมประมวลข้อมูลอย่างเต็มที่มากกว่าคนที่ตื่นสาย รวมทั้งมีความกระฉับกระเฉง และความกระตือรือร้นในการทำอะไร ซึ่งเป็นผลให้สามารถแก้ไขปัญหาที่พบเจอได้อย่างชาญฉลาด สุขุม และมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งรุมเร้ามากขึ้นอีกด้วย
4 | ให้ความสำคัญกับอาหารเช้า
ด้วยความเร่งรีบทางสังคม ‘อาหารเช้า’ จึงเป็นมื้อที่หลาย ๆ คนมักจะมองข้าม แต่ในความจริงแล้วความสำคัญของอาหารมื้อเช้าไม่ได้น้อยไปกว่ามื้ออื่น ๆ เลย เนื่องจากร่างกายที่อดอาหารมาตลอดทั้งคืน พอตื่นเช้ามา หลังจาก 9-10 โมง เราจะเริ่มหิว ดังนั้นจึงต้องกินอาหารเช้าเข้าไปทดแทนพลังงานที่เสียไป อีกทั้งอาหารเช้ายังช่วยเติมพลังงานให้กับร่างกายและสมอง ทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน การกินอาหารเช้ายังช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย
5 | ขับถ่ายให้สม่ำเสมอ
ทั้งถ่ายหนักและถ่ายเบาเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำในทุก ๆ วัน เพื่อเป็นการนำของเสียตกค้างออกจากร่างกาย ซึ่งเวลาในการขับถ่ายที่ดีที่สุดก็คือตอนเช้าในช่วงเวลา 05.00 น.- 07.00 น. เนื่องจากเป็นเวลาที่ลำไส้ใหญ่ทำงานขับกากอาหารออกจากร่างกาย เมื่อเราขับถ่ายอย่างเป็นระบบก็จะไม่เกิดปัญหาท้องผูก ทุก ๆ วันในชีวิตของเราก็จะมีความสุขมากขึ้น แต่สำหรับใครที่มีปัญหาในเรื่องนี้อาจจะต้องลองผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น มะละกอ กล้วยหรือแอปเปิ้ล และหลังจากตื่นนอนแล้วก็อย่าลืมที่จะดื่มน้ำก่อนสัก 1 แก้ว เพราะจะช่วยให้กระตุ้นให้ระบบขับถ่ายของเราทำงาน