‘Tom Ford’ ชายผู้เป็นไอคอลแห่งความหรูหรามีรสนิยมในโลกยุคปัจจุบัน
@luxurytopics.com
ผู้ที่เป็นหัวเรือใหญ่ชายผู้กอบกู้ Gucci ให้กลับมาผงาดในวงการแฟชั่นอีกครั้ง พร้อมทั้งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ดังย่าง Yves Saint Laurent และแบรนด์ลูกอีกมากมาย ซึ่งเขาเป็นทั้งผู้ที่คุมบังเหียนความงามของยุคสมัยก็ว่าได้ ด้วยความสามารถที่มากมายราวยอดมนุษย์ทั้งในเรื่องเครื่องประดับ ความสำเร็จในการเป็นช่างถ่ายภาพ หรือ แม้กระทั้งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่การันตีด้วยการเป็นรายชื่อภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงออสก้าร์
ลองตาม Mover มารู้จักความเก่งกาจของผู้ชายคนนี้กันครับ
@luxurytopics.com
จุดเริ่มต้นของหนุ่มผู้ตามฝัน
คุณ Top Carlyle Ford หรือ Tom Ford เกิดที่รัฐ Texas ในปี 1961 และย้ายไปใช้ชีวิตที่ New York ในปี 1979
@laparfumerie
เขาศึกษาในสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ ณ มหาวิทยาลัย New York ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนมาเป็นด้านสถาปัตยกรรม แต่มาจบสุดท้ายในด้านวงการแฟชั่น จากการที่ได้ไปทำงานกับแบรนด์ดังๆ ตอนอยู่ Paris
ก้าวเข้าสู่สปอตไลท์อย่างเต็มตัว
@learningsuccessblog
โดยในปี 1988 เป็นจุดเริ่มต้นที่เขาได้เริ่มสร้างพื้นที่ให้ตัวเองทางด้านวงการแฟชั่น โดยเข้าได้เสนอให้เข้าไปเป็น Designer ที่ต้องดูแลแบรนด์ Gucci ในตอนนั้น จากการที่ Remy Ellis ผู้ที่เป็นผู้อำนวยการใหญ่ด้านการออกแบบของแบรนด์ Marc Jacobs ขณะนั้น และเขาจึงย้ายไปทำงานที่อิตาลี
@zimbio
และขึ้นเป็นผู้อำนวยการด้านครีเอทีฟ ในปี 1999 และพลิกให้ Gucci กลับมาเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์หรูหราและที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง พร้อมทั้งยังรวบรวม Yves Saint Laurent ให้เข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารของ Gucci Group และหลังจากสร้างความสำเร็จให้กับ Gucci อย่างมหาศาล โดยทำให้มูลค้าของแบรนด์จากเดิม 230 ล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็น 3,000 ล้านเหรียญในปี 2004 แต่หลังจากนั้นเขาก็ออกจาก Gucci ด้วยเหตุผลทางทัศนะคติการบริหารที่ไม่ตรงกันหลายอย่าง แต่เขาก็ยังไม่หยุดสร้างตำนาน เพราะต่อจากนี้จะเป็นเกิดขึ้นมาของแบรนด์ Tom Ford
การอุบัติขึ้นของตัวตนของแบรนด์แห่งยุค
@fjbenjamin.com
แบรนด์ที่จะเขาตั้งใจไว้ว่าจะให้มันเป็นนิยามของคำว่าเลิศหรูที่เป็นที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริงเกิดขึ้นในปี 2005 โดยเขาใช้องค์ความรู้ต่างๆ ที่ได้สะสมมาผสานการออกแบบที่มีความเฉพาะตัว พร้อมใส่ตัวตนของเขาลงไป
โดยเขามักจะใช้หลักคิดในแบบนักสถาปัติมากรรมมาใช้ในการออกแบบจึงทำให้ผลงานของเขามักจะมีความชัดเจนอย่างมากในเรื่องของโครงสร้างที่ให้ความสวยงามอย่างสมดุล อย่างเช่น ขวดน้ำหอมทั้ง 2 รุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ทั้งขวดรูปทรงหมากรุกของน้ำหอมในไลน์ Private Blend และขวดที่เป็นรายริ้วรอบในกลุ่มของ Signature
ในส่วนของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ขึ้นมาเป็นแบรนด์ระดับท็อป โดยสินค้าของเขาในตอนนี้ก็มีทั้ง เสื้อผ้าผู้ชาย เสื้อผ้าผู้หญิง เครื่องประดับ เครื่องสำอาง และ หอมน้ำ ซึ่งก็ค่อยๆ ทรงอิทธิพลขึ้นเรื่อยๆในวงการแฟชั่นระดับโลก
@voguehk
@getthegloss
และ 3 คำถามต่อไปนี้จะช่วยทำให้เราเห็นวิธีคิดที่จัดจ้านของเขามากขึ้น
แล้วความหรูหราและความพิเศษในแบรนด์ของเขาคืออะไร
โดยความหรูหราและความพิเศษเป็นเรื่องของคุณภาพและการบริการของสินค้าที่มีมาตรฐาน ทั้งเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริมความงามต่างๆ พร้อมบริการที่ทำให้ลูกค้าพอใจเป็นพิเศษ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเกิดความพึงพอใจในตอนนี้ก็คือเขาสามรถได้รับสินค้าและบริการนั้นๆ ในทันที อันที่จริงความหรูหราที่สุดในขณะนี้คือการไม่ต้องรอเลย บางคนอาจจะมองว่าการรอนั้นโรแมนติกที่จะคิดว่าผู้คนต้องการรอสิ่งๆ หนึ่ง และคาดหวังในสิ่งเหล่านั้น แต่ในยุคนี้คงไม่มีใครอยากรออะไรอีกแล้ว
รสนิยมที่ดีกับรสนิยมที่แย่นั้นมีหลักเกณฑ์อย่างไร
นิสัยและพฤติกรรมของมนุษย์ที่สิ่งที่สะท้อนรสนิยม ซึ่งมันไม่สามารถเห็นได้ด้วยตา แต่มันปลูกฝังผ่านทางวัฒนธรรม และถ้าคุณบอกว่าให้รับบทเป็น “ผู้ชิม” ที่บอกมาชอบไม่ชอบ ผมก็จะขอตอบว่าผมจะวิเคราะห์ภายใต้กรอบความคิดของสิ่นที่เราเรียกกันว่าวัฒนธรรมของความร่วมสมัย ที่ทุกๆ อย่างมันถูกเบลอเข้าหากัน ไม่ได้มีความงามจริงแท้เพียงหนึ่งเดียว
ฉะนั้นจึงไม่มีสิ่งใดที่เป็นความงามที่สมบูรณ์แบบใช่ไหม?
ในฐานะมนุษย์ที่เราตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ที่มีความลึกซึ้งแตกต่างกัน เราพบว่าใบหน้าที่สมมาตรกันของคนโดยทั่วไปนั้นมีความน่าสนใจหรือไม่ โดยเราจะมีเงื่อนไขบางอย่างที่จะนำมาอธิบายว่าสิ่งนั้นสวยงามและอีกสิ่งไม่ใช่ ด้วยภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่ผมกำลังทำอยู่ ก็มีนักแสดงบางคนที่ผมคิดว่าไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ และจากการได้ถ่ายทำกับพวกเขาดูพวกเขาปรับลุคให้พวกเขา ทำให้พบว่าพวกพวกนั้นสวยงามได้ ผมจึงตั้งคำถามว่าทำไมผมจึงคิดว่าพวกเขาไม่สวย ก็เพราะถ้าหากไม่ได้เอาบรรทัดฐานของวัฒนธรรมร่วมสมัยที่บอกว่านิยามของความสวยตอนนี้คืออะไร ก็คงไม่สามารถหาคำตอบได้สำหรับผม ซึ่งถ้าเข้าใจก็จะสามารถหามันได้ในที่ ๆ คุณไม่คาดคิด
จากที่ได้เล่าก็คงพอจะให้ภาพผู้ชายคนนี้ชัดขึ้นอีกนิดว่าเขาน่าทึ่งแค่ไหน ที่ใช้ความสามารถและทักษะที่หลากหลายสร้างสรรค์ออกมาเป็นแบรนด์ที่จัดจ้านที่มาพร้อมความหรูหราได้ขนาดนี้ วันนี้ก็ขอลาไปก่อนนะครับ Ciao…!!