ในช่วงปี 2016 นี้ กระแสของงาน Typography เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ทั้งการออกแบบตัวอักษรและการเขียนแบบ Calligraphy สตูดิโอหลายๆที่ก็ได้เปิดเวิร์คชอปเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ” SPUN” ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นนักออกแบบตัวอักษรหน้าใหม่ไฟแรง ที่มีโอกาสถ่ายทอดงานไปสู่ผู้คนที่สนใจ วันนี้เราเลยไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับเธอกัน
หลายคนอาจจะพอรู้จัก SPUN มาบ้างแล้ว แต่อีกหลายคนก็คงยังไม่รู้จัก แนะนำตัวกันหน่อยดีกว่า
ชื่อ สปัญญ์ อินทวงษ์ นะคะ ตอนนี้เป็นนักวาดภาพประกอบและนักออกแบบตัวอักษร ฟรีแลนซ์ มาประมาณเกือบปีแล้วค่ะ
ทำไมถึงใช้ชื่อว่า SPUN คะ
จริงๆอันนี้มาจากชื่อจริงค่ะ ชื่อ สปัญญ์ แปลว่า ปัญญาดี คนจะชอบเข้าใจว่า เอ้ะ ตั้งเองรึป่าว แบบชื่อปัน เฉยๆแล้วเติมเองทีหลังรึป่าว ตั้งชื่อให้มันยาวเองใช่มั้ย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะ เป็นชื่อจริงของเราเอง
ก่อนหน้านี้ทำงานอะไรมาบ้าง แล้วทำไมถึงมาทำงาน Typography ได้
ก่อนหน้านี้ทำอยู่ในบริษัทกราฟฟิค แล้วทีนี้หลังจากเรียนจบแฟชั่นมา ก็อยากรู้ว่าจริงๆว่าเราชอบอะไรกันแน่ กำลังตามหาตัวเอง เพราะทำไปสักพักแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ละ ก็เลยเข้าไปช่วยงานพี่ Pomme Chan ที่เป็นศิลปินจากอังกฤษ ด้วยความที่เราชอบเขาอยู่แล้ว และเราได้มีโอกาสได้ทำงานกับเขา ได้ลองช่วยงานเขาจริงๆ เรารู้สึก เฮ้ย อันนี้มันใช่มาก มันเป็นอะไรที่เราชอบจริงๆ อันนี้แหละคือสิ่งที่เราอยากทำ ซึ่งส่วนใหญ่งานพี่ Pomme Chan ก็จะเป็นงานวาด มีงาน Typography บ้าง และมีงานนึงที่เราได้ลองทำเกี่ยวกับไทโปแล้วแบบ ชอบมาก ชอบจริงๆ ซึ่งอันนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรามาเริ่มออกแบบตัวอักษรจริงๆจังๆเลยเหมือนกัน
หลังจากที่ค้นหางานที่ชอบเจอแล้ว แล้ว SPUN เริ่มออกมาเป็นฟรีแลนซ์นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
พอได้เริ่มลองทำ Typography กับพี่ปอมตอนนั้น หลังจากออกมาก็รู้ละ ว่าเราอยากทำอะไร แล้วก็เริ่มรู้จักคนมากขึ้น ตั้งแต่ไปเป็น PR เป็นกราฟฟิคในที่ต่างๆ ซึ่งเราก็เริ่มทำพอร์ตของตัวเอง ตอนนั้นใช้เวลาเริ่มสร้างผลงานเป็นของตัวเอง ประมาณเดือนนึง แล้วก็เริ่มสร้างแฟนเพจ ทำอินสตาแกรม ตอนเริ่มแรกๆก็โหวงมาก เห้ย จะรอดมั้ยแต่พอเริ่มไปสักพัก ก็รู้สึกว่าเออมันไปได้นะ ก็เริ่มมีคนติดต่อมา มีลูกค้าเป็นของตัวเอง
แล้วแรงบันดาลในการสร้างผลงานแต่ละชิ้นของ SPUN มีที่มายังไงบ้าง
สปัญญ์ จะชอบอะไรที่มัน ดูเคลื่อนไหว มีมิติ ช่วยทำให้งานดูน่าสนใจ ชอบรายละเอียดแอบเพอร์เฟ็คชั่นนิสนิดนึง ต้องแอบเป๊ะอยู่ประมาณนึง พอจะใส่อะไรเข้าไปก็อยากให้มันดูมีความพิเศษ เช่น พวกเงา ก็จะดูมีอะไรมากขึ้นคอลเลคชั่นแรกๆที่เริ่มทำก็เป็นตัวที่เป็น ดรออิ้งตัวอักษร อันนี้เริ่มมากจากคอนเซปที่เราเริ่มตั้งคำขึ้นมา คือคำว่า STAY อันนี้คือตั้งใจมาก มันเป็นสัตว์ที่อยู่อาศัยในป่า แล้วแบบซ่อนอยู่ในป่า คือมันอยู่ในนั้นนะ ในธรรมชาตินี่เอง แค่เราเอามาทำให้มันดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันแบบนี้
ขั้นตอนการออกแบบ ของ SPUN ในแต่ละผลงานมีอะไรบ้าง
ถ้าเป็นงานส่วนตัวเราก็จะดูว่าเรามีแรงบันดาลใจอะไร เราไปเที่ยวที่ไหนมา ไปดูหนัง เราก็จะแบบเรื่องนี้แหละที่ให้แรงบันดาลใจเราก็จะเอามาลองทำดู เริ่มสเกต เพราะจริงๆแล้วการที่เราทำงานส่วนตัว มันเป็นการพัฒนาตัวเอง คือมันจะมีบางช่วงที่ทำงานหนักๆ งานเยอะมาก มากจนแบบชีวิตมันไม่เป็นชีวิตแล้วอะ มันแย่มาก ทำงานตามสั่งอย่างเดียวแล้วมันเหนื่อย แต่พอเราได้ทำงานของตัวเอง ออกมาจากตัวเราเอง แล้วลูกค้าชอบงานที่เราทำ ซึ่งเรารู้สึกดีนะ เพราะเราก็ได้จ็อบจากสิ่งที่ออกมาจากตัวเราเอง ก็จะมีงานพวก โลโก้ งานไทโป ที่ลูกค้าเลือกจากสไตล์งานของเราด้วย
ส่วนใหญ่งานที่รับมาจะเป็นงานแบบไหนคะ
ส่วนใหญ่สปัญญ์จะเป็นงาน ลายผ้า,โลโก้,โปสเตอร์,ไทโป ตอนนั้นมีแบรนด์รองเท้ามาให้สปัญญ์ทำพวก ลาย ที่เอาไว้ Custom เอาไว้เป็นบนรองเท้าได้ด้วยแบบเหมือนเป็นเซทลายต่างๆ ให้เลือกเอาไปตกแต่งรองเท้าได้
ศาสตร์ของ Typography มันมีหลักอะไรที่เราใช้อยู่ตลอดๆมั้ย?
จริงๆการทำ Typography มันก็เหมือนการทำให้ตัวอักษร หรือ การแสดงคำแต่ละตัวมันชัดเจนขึ้น เหมือนช่วยเน้นคำสำคัญ หรือ ส่วนที่สำคัญในแต่ละประโยค จะมีคำสำคัญ ที่เป็นคีย์เวิร์ดอยู่ไม่กี่คำ ซึ่งเราจะให้คำใหญ่ๆเนี่ย มันสวยได้ยังไง แล้วมันจะมีคำเล็กๆที่ต้องทำให้สวยด้วย เพื่อทำให้มันดูลงตัวยิ่งข้ึนไปอีก รวมทั้งให้สอดคล้องกับคอนเซป และช่วยให้ภาพรวมดูลงตัวที่สุด จริงๆก็ทดลองไปเรื่อยๆ ถ้าพูดถึงงานตัวเองเราก็ลองทดลองไปเรื่อยๆ ทำให้มันน่าสนใจขึ้นไปเรื่อยๆ
เสน่ห์ของ Typography ในความคิดของ Spun คืออะไร
คือจริงๆแล้วฟ้อนท์เนี่ย มันเป็นอะไรที่คนเห็นอยู่ทุกวัน พวกความโค้ง หรือ ดีเทลเล็กๆ ของแต่ละตัวอักษรมันมีความสำคัญมาก ถ้าเราไปปรับอะไรนิดเดียว ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนเลย อย่างโลโก้ แค่ฟ้อนท์ใหญ่ ฟ้อนท์เล็ก ก็รู้สึกต่างกันเเล้ว ทำให้ identity ของแบรนด์ต่างกันไปแล้ว การที่เราเปลี่ยนโค้ง หรือไปปรับฟ้อนท์ดีไซน์มันขึ้นมาใหม่ มันก็เป็นการท้าทายอย่างหนึ่ง เพราะมันต้องสอดคล้องกับสิ่งที่เราต้องการสื่อสารออกไปด้วย
ถ้าถามถึงประเภทต่างๆของงาน Typography มันมีรูปแบบประมาณไหนบ้าง
มันมีได้หลายแบบมากเลยนะ มีหลายเทคนิคด้วย อย่างเช่น เบสิคเลยที่เราทำก็คือ วาด หรือ จะเป็นรูปแบบการเอาวัสดุต่างๆมาถ่ายรูปให้เกิดเป็นฟ้อนท์ อีกแบบก็จะเป็นการทำประติมากรรม (scrupture) ขึ้นมาเพื่อสื่อความหมายเลยก็ได้ คือมันสามารถเป็นได้ตามจินตนาการที่เราอยากให้เป็น หรือย้ำข้อความที่เราอยากจะสื่อได้ มันพัฒนาได้หลายรูปแบบมาก
สไตล์ Typography ที่ SPUN ชอบเป็นแบบไหน?
ก็อยากลองอะไรที่เป็นกระดาษสามมิติมากขึ้นในอนาคต เพิ่มมิติของตัวอักษรขึ้นไปอีก แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกอยากพัฒนาสไตล์ที่ทำอยู่ให้ดีขึ้นไปอีก ก็เลยยังทดลองไปเรื่อยๆอยู่ค่ะ
อย่างล่าสุดเห็นผลงานที่ทำกับ him&her ที่ทำเป็นลายผ้า ตอนนั้นเขาเห็นผลงานเราได้ยังไง
ตอนนั้นสปัญญ์ได้เจอกับพี่พลอยที่งานนึง ก่อนหน้านี้เค้าเคยฟอลโล่เราในอินสตาแกรม แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ในงานนั้นเค้าก็มาทักว่าจำเราได้ แล้วเราก็วาดรูปให้เค้าในงานนั้น อาทิตย์ถัดมาทางทีมเค้าก็ติดต่อมา บอกว่าอยากให้มาร่วมทำคอลเลคชั่นด้วยกัน อย่าง him&her ก็เป็นแบรนด์ที่ดูสนุกๆ สี หรืออะไรต่างๆ ก็มีกำหนดธีมมาให้ แล้วก็บอกเรามาเลยว่า อยากได้อะไรจีนๆ เค้าได้อินสไปร์มาจาก ลายคราม เครื่องเคลือบของจีน สปัญญ์ก็เลยทำลายผ้าไปสามแบบในแบบที่ต่างกันๆ แต่ก็ได้เลือกอันนี้มาพัฒนาต่อ ซึ่งสปัญญ์เป็นคนวางลายผ้าใน ไอเท็มต่างๆในคอลเลคชั่นนี้ด้วย ลูกค้าก็ชอบ เราก็โอเค จริงๆเราสนุกกับงานนี้มาก เพราะเขาให้เราทำได้เต็มที่ ให้อิสระกับเราเต็มที่ เราเลยอยากทำให้มันสนุก ตามคอนเซปหลักของแบรนด์นี้ด้วย
จากผลงานทั้งหมดที่ SPUN เคยทำมา อันไหนคืองานที่ชอบที่สุด
ชอบอันนี้เพราะมันสนุกที่สุด (งาน him&her) เพราะงานนี้เป็นงานที่เป็นทำด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ซึ่งสปัญญ์ไม่เคยทำแบบนี้ให้ลูกค้าเท่าไหร่ แล้วมันเป็นงานที่ ลูกค้าชอบ เราก็ชอบ เหมือนเราทดลองทำในคอม จากที่เราไม่ชอบ ก็รู้สึกเราก็ทำได้นะ ก็รู้สึกดี มีอีกอันที่ชอบก็คือ (รูปตัวเอ) ตอนนั้นเป็นร้านคาเฟ่ ที่จ้างเราทำตัวอักษรขึ้นมา ให้ลองวาดและลงสี ชอบด้วยโจทย์คือ เขาอยากทำปฏิทินแจกลูกค้า แล้วอยากได้ไทโปที่มีลิง เราก็เลยเอาชื่อเขามารวมกัน เป็นบ้านลิง ความยากมันอยู่ที่จะทำยังไงให้เป็นไทโป ที่มีบ้าน มีลิง อยู่ได้ด้วยกัน จริงๆชอบตัวนี้ที่สุด (ตัวเอ) กว่าจะคิดให้มันลงตัว ด้วยพื้นที่ตัวเอมันจำกัดมาก แล้วมันต้องเป็นตัวเอที่เป็นบ้าน ที่ดูไม่เทอะทะ ไม่เยอะไม่น้อยไปด้วย แล้วก็มีอีกที่ชอบ คือ งานทำการ์ดให้เอ็มโพเรียม เพื่อเอาไปให้ลูกค้าพรีเมี่ยมของเขา
งานที่ SPUN รู้สึกยากที่สุด
น่าจะเป็นงานที่ลูกค้าต้องดีลกันหลายๆทอด แล้วเหมือนเราทำเสร็จไปแล้ว ตอนแรกลูกค้าชอบมาก รู้สึกดีมาก เหมือนจะจบงานได้อยู่แล้ว แต่มีบางคนในทีม มาบอกทีหลังว่าอยากเปลี่ยน โดนโละ คือจะเปลี่ยนทั้งหมดเลย เขาก็ถามเราว่าอยากทำต่อมั้ย เราก็เฮ้ย คือเราทำมาขนาดนี้แล้ว ก็อยากจะเห็นมันเสร็จเหมือนกัน ก็เลยอยากลองทำให้มันสุด ก็เลยได้ทำต่อจนเสร็จ จนได้ค่ะ
จุดไหนของ SPUN ที่มองว่าประสบความสำเร็จ
คือตอนนี้เรายังถือว่าเราเล็กมาก เพราะคนเก่งก็เยอะมาก ยิ่งถ้านับเป็นทั่วโลกมันยิ่งเยอะ ในไทยตอนนี้คนก็ทำเยอะ ยิ่งตอนนี้อินเตอร์เน็ตมันก็เร็ว ทุกอย่างเร็ว เรียนรู้อะไรก็ง่ายขึ้น คือ การที่เราจะประสบความสำเร็จได้ เรามองว่าเราต้องทำงานในมาตรฐาน ไม่ได้นับแค่ผลงานนะ ทั้งเรื่องขั้นตอนการทำงาน ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัยอะไรต่างๆ ซึ่งลูกค้าก็ต้องพอใจกับงานที่เราทำด้วย เรามีความสุขมากเวลาลูกชอบงาน หรือ รักงานของเรา แฮปปี้มาก
เรามองเห็น SPUN ในอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นยังไงบ้าง
จริงๆคิดเหมือนกัน ว่าอยากพัฒนางานไทโป งานภาพประกอบ พวกลายผ้า ให้ดียิ่งขึ้น ให้มันไปแบบสุดความสามารถของเรา เราก็อยากทำงานพวก Corperate identity เพิ่มมากขึ้นเหมือนกัน ในอนาคตจริงๆตอนนี้ก็สนใจอยากไปเรียนต่อ แต่ก็ยังพัฒนาของเราอยู่นะ แล้วกลับมาทำสตูดิโอเล็กๆของตัวเอง อยากรับงานที่หลากหลายมากขึ้น แล้วอยากจะเปิดแบรนด์เล็กๆของตัวเองค่ะ
มีอะไรอยากฝากถึงคนที่กำลังจะเริ่มต้นทำอะไรเป็นของตัวเองมั้ย
คือตอนนี้เราว่าคู่แข่งมันเยอะมาก ทั่วโลก เพราะด้วยตอนนี้ทุกอย่างมันเร็วมาก ต้องทั้งการฝึกฝน ระเบียบวินัย ความอดทน มันต้องใช้เวลา แต่ก็ต้องไม่มากเกินไป มันต้องมีเป้าหมาย มีไทม์ไลน์ของมัน นอกจากจะคิดแล้ว ต้องทำมันออกมาด้วย
ได้รู้จักกับ SPUN กันไปแล้ว ทุกคนก็น่าจะลองค้นหาตัวเองแบบ SPUN กันบ้างนะ เพราะการที่ได้ทำงานที่ตัวเองชอบนั้น คงเป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราดำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุข
ติดตามผลงานของ SPUN ได้ที่
SPUN INTHAWONG illustrator & letterer
line : sspunn
Facebook : sspunn
Instagram : @sspunn
Email : spun.inthawong@gmail.com
สถานที่ @ Aran Bicicle House & Cafe
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com