หากคุณเป็นช่างภาพ ตากล้อง หรือคนเล่นกล้องคนหนึ่ง มันคงยากที่ปฎิเสธว่า “Leica” หรือไลก้าคือชื่อยี่ห้อกล้องที่ใครต่อใครต่างใฝ่ฝันกัน ซึ่งนอกจากราคาที่จะสูงติดชั้นฟ้าแล้ว คุณภาพของมันก็เป็นที่ถูกก่าวขานว่ายอดเยี่ยมกว่ากล้องรุ่นอื่นอยู่หลายระดับ ดังนั้นวันนี้ MOVER จะมาย้อนประวัติดูความเป็นมาของแบรนด์ไลก้า รวมถึงหาเหตุผลว่า ทำไม ไลก้า จึงเป็นกล้องในฝันของนักถ่ายรูปทั่วโลก
บทความเกี่ยวกับไลก้าครั้งนี้ ทางผมได้ทำการแบ่งเรื่องราวของ Leica ออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน นั่นคือในส่วนของประวัติความเป็นมา และทำไมไลก้าจึงกลายเป็นกล้องที่ใครๆ ต่างต้องการที่จะมีไว้ครอบครอง โดยเราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับกล้องขนาด 35 มิลลิเมตรของโลก ก่อนจะไม่รู้จักข้อดีของกล้องไลก้าที่ใครๆ ต่างก็หลงไหล
เริ่มแรก เราขอย้อนอดีตกลับไปยังปี 1914 ซึ่งเป็นปีที่ Ernst Leitz ก่อตั้งบริษัทLeicaหรือ LeicaCameraAG ขึ้นมา โดยคำว่าLeicaมาจากชื่ออักษรสามตัวแรกของนามสกุล Leitz และสองตัวแรกของคำว่า lei-ca โดยไลก้าเป็นบริษัทสัญชาติเยอรมัน ที่ผลิต กล้อง เลนส์ กล้องส่องทางไกล สโคปปืนไรเฟิล กล้องจุลทรรศน์ และเลนส์สายตา
“การกำเนิดกล้อง 35 มิลลิเมตรตัวแรกของโลก”
เรื่องของการกำเนิดกล้องตัวแรกของไลก้าเริ่มขึ้นมาในปี 1905 เมื่อ Oscar Barneck มีไอเดียที่จะลดขั้นตอนในการตกแต่งฟิล์ม และการขยายภาพหลังจากที่ได้ทำการ exposed ภาพออกมา หรือก็คือกล้องขนาด 35 มิลลิเมตรที่พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก
หลังจากนั้นอีก 10 ปี ทางไลก้าก็สามารถคิดค้นการนำทฤษฎีของ Oscar Barneck มาใช้ได้สำเร็จ จนผลิตกล้อง 35 มิลลิเมตร เครื่องแรกของโลกอย่าง UR-Lica ออกมาได้ แต่นี่ยังไม่ใช่กล้องตัวแรกของไลก้าแต่อย่างใด
กล้อง UR-Lica เป็นกล้องถ่ายภาพขนาด 35 มิลลิเมตร ที่ต้องใช้ฟิล์มขนาด 24×36 มิลลิเมตร โดยการนำเอาฟิล์มถ่ายภาพยนตร์มาอัดสองชั้น ซึ่ง UR-Lica คือต้นแบบของกล้องตัวแรกของไลก้าในเวลาต่อมา เพียงแต่ว่าก่อนจะถึงวันนั้น ไลก้าต้องใช้เวลายาวนานมากถึง 10 ปี เพราะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้นมาเสียก่อนในปี 1914 กล้องไลก้าตัวแรกจึงมาเผยโฉมจริงๆ ในปี 1924 และมีการนำเสนอสู่สาธารณชนในปี 1925 ในชื่อกล้องว่า Leica1
Leica1 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และครองตลาดไปจนถึงปี 1932 มีการผลิตออกไปมากถึง 60,586 เครื่อง โดยในปี 1930 ทาง ไลก้าได้ออกมานำเสนอกล้องถ่ายภาพขนาด 35 มิลลิเมตร ที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้หลายแบบ จนปี 1954 ก็กำเนิด LeicaM3 กล้องที่สามารถเปลี่ยนเลส์ได้ออกมา และต่อมาเรื่อยๆ ไลก้าก็ขึ้นเป็นแนวหน้าของบริษัทผลิตกล้องถ่ายภาพมาโดยตลอด และเป็นแนวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ของกล้องถ่ายภาพออกมาอยู่อย่างสม่ำเสมอ
“ทำไมเราถึงต้องเลือกไลก้า”
กล่าวได้ว่ากล้องของไลก้าหลายๆ ตัว ขึ้นชื่อเรื่องราคาที่แพงแสนแพง และเป็นกล้องไม่กี่ยี่ห้อของโลก ที่สามารถซื้อเก็บไว้เก็งกำไรต่อได้ เพราะกล้องของไลก้ายิ่งนานวัน กลับมีราคาที่สูงมากขึ้น แทนที่จะต่ำลง นั่นอาจเป็นเพราะความประณีตในการผลิตของกล้อง ไลก้าซึ่งเป็นผลงานระดับแฮนด์เมดบนมือของผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง ที่ต้องตรวจสอบคุณภาพของกล้องทุกตัวกว่า 60 จุด
อีกทั้งไลก้ายังเป็นกล้องที่เข้าถึง และใช้งานได้ง่าย โดยโฟกัสไปที่การถ่ายภาพ มากกว่าที่จะโฟกัสไปที่ฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยเราเพียงแค่ปรับโฟกัส และกดชัตเตอร์เท่านั้น นอกจากนี้รูปลักษณ์ของไลก้าก็คงถูกใจคอวินเทจไม่ใช่น้อย เพราะกล้องของไลก้าล้วนถูกออกแบบมาให้มีลักษณะที่ย้อนยุคตามคอนเซ็ปต์ย้อนยุคแต่โดนใจ จนเราหวนระลึกถึงสไตล์ภาพถ่ายสารคดีกลางทศวรรษที่ 20 ได้เลยทีเดียว
เราพูดถึงการผลิต การใช้งาน และการออกแบบของกล้องไลก้ากันไปแล้ว ทีนี้เราจะมาพูดถึงคุณสมบัติกันบ้าง โดยไลก้าเป็นกล้องที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับการออกผจญภัยอย่างแท้จริง มันเรียบง่าย และครบครันตามที่นักถ่ายภาพต้องการ พกพาสะดวก น้ำหนักเบา แต่แข็งแรงทนทาน โดยเฉพาะทางด้านเลนส์ของ ลก้าเอง ก็ได้รับการยืนยันว่า ถูกสร้างสรรค์โดยผ่านมือของช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญแทบทั้งสิ้น