หลาย ๆ คนในวัยทำงานอาจมีปัญหาหรือไม่ลงรอยกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงานกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ด้วยปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่แทบทุกปัญหานั้นล้วนมีต้นตอมาจากการสื่อสารที่ผิดพลาดทั้งสิ้น ในครั้งนี้เราจะมานำเสนอ 10 วิธี “ชนะใจเจ้านาย” ด้วยการจัดการกับคำพูดของตัวเราเอง เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพทั้งในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานที่รักทุกคน
#1 | การเลือกใช้คำพูด
การชนะใจเจ้านายสุดที่รักหรือเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ นั้นเริ่มต้นทำได้ไม่ยาก และที่สำคัญคือมันจะช่วยทำให้คุณมีความสุขในการทำงานมากกว่าที่เคย รวมทั้งทุกคนยังจะสนับสนุนคุณ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เราได้มีข้อความหนึ่งที่ได้กล่าวเอาไว้ว่า การใช้คำพูด จะส่งผลกระทบต่อจิตใจ และถ้าเกิดการกระทบต่อจิตใจในทางที่ไม่ดี คนที่ฟัง เขาจะจดจำว่าคุณได้ทำร้ายจิตใจเขาไปตลอด ซึ่งนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถติหรือตักเตือนใครได้เลย เพียงแต่วิธีการสื่อสารนั้นอาจจะต้องซอร์ฟลงมาสักหน่อยเช่น “คุณเป็นคนที่ทำงานเร็วดีนะ แต่ถ้าเพิ่มละเอียดกับงานมากกว่านี้อีกสักนิดหน่อยก็จะดีขึ้นนะครับ” ซึ่งประโยคนี้ฟังอย่างไรก็เป็นคำติเตียน เพียงแต่เมื่อเราใส่คำชมที่อยู่ตรงหน้าประโยคแล้วนั้น ความแรงของประโยคก็จะลดลงไปได้เยอะทีเดียว
#2 | การควบคุมอารมณ์เมื่อสื่อสาร
เราปฎิเสธไม่ได้ว่าในแต่ละวันมีหลากหลายอารมณ์ที่เข้ามา แต่การเก็บอารมณ์ได้ดี ก็ถือเป็นอีกคุณสมบัติที่ดีสำหรับการสื่อสาร ลองคิดภาพดูหากคุณตะคอกใส่เพื่อนร่วมงานที่ทำงานผิดพลาด แล้วในครั้งถัดไป เขาจะอยากทำงานร่วมกับคุณ หรือไม่ ถ้าเกิดคนนั้นเป็นคนที่มีเพื่อนมากกว่าคุณ เพื่อนของเขาจะพลอยเกลียดคุณไปด้วย แล้วแบบนี้ชีวิตในการทำงานของคุณต่อสถานที่นั้นจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
วิธีการในการควบคุมอารมณ์
- ลองคิดถึงผลกระทบระยะยาวหากคุณแสดงกริยานั้นออกไป
- คิดถึงบุลคลิกของคุณต่อคนรอบข้าง เขาจะมองคุณแง่ร้ายขนาดไหน
- ลองควบคุมลมหายใจ
- ละลึกไว้ว่าตอนนี้คุณรู้สึกอะไรอยู๋
เพียงคุณสามารถละลึกได้ว่าอารมณ์ของคุณตอนนั้นเป็นอย่างไร คุณกำลังรู้สึกอะไรอยู่ คุณก็จะสามารถยับยั้งตัวเองได้แล้วส่วนหนึ่งครับ
#3 | พูดจาโดยอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์
การพูดจาโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์ จะทำให้การพูดของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น หรืออ้างอิงหลักจิตวิทยา การพูดโดยอ้างอิงสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณดูมีความเป็นผู้ใหญ่ น่าไว้วางใจในการมอบหมายงานให้ เพราะคุณมองโลกจากความเป็นจริง และคุณยังดูเข้าใจในสัจธรรมความเป็นไปของโลก ดูมีวุฒิภาวะที่สามารถรับมอบหมายงานใหญ่ ๆ ได้
#4 | พูดจาเป็นมิตรกับทุกคน
ถ้าคุณสามารถคุยได้กับทุกคน ทุกคนในที่ทำงานเป็นเพื่อนของคุณ และอาจจะหมายถึงคุณน่าไว้ใจมากพอที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับทุกคนในที่ทำงาน นั้นหมายความว่าคุณคือศูนย์กลางของที่ทำงาน เป็นที่รักใคร่ของทุกคน จริง ๆ แล้วกลไกของสมองไม่มีอะไรมากถ้าหากคุณเป็นคนที่มีความสัมพันธ์แย่ในที่ทำงาน คนอาจจะลองฝึกที่จะมีความสุขจากข้างในก่อน และยิ้มออกมาอย่างเต็มใจให้กับทุก ๆ คนในที่ทำงานแม้แต่ยาม การฝึกเหล่านี้จะทำให้คุณเป็นมิตรกับเพื่อนทุกคนได้ง่ายขึ้น รู้จักที่จะขอบคุณเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต แม้แต่เรื่องร้าย ๆ ก็ลองฝึกขอบคุณที่มีเรื่องร้ายเหล่านี้เข้ามาทำให้คุณได้เรียนรู้มากขึ้น เข้มแข็งมากขึ้น
#5 | สามารถเป็นได้ทั้งผู้นำ และเพื่อนคู่คิด
ภาวะผู้นำเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรจะมีในตัว ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตามในบริษัท เพราะจำทำให้คุณกล้าที่จะแสดงความเห็นที่แตกต่าง กล้าพูดในสิ่งที่เป็นความจริงเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ให้เจ้านาย ได้แก้ไขปัญหาเหล่านั้น และในทางกลับกันไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้านายหรือลูกน้องหรือตำแหน่งอะไรก็ตาม ควรที่จะ “เปิดใจ” รับฟังทุกความคิดเห็น โดยการฟังนั้นขอให้คุณฟัง มากกว่าพูด 2 เท่า เพราะการฟังจะทำให้คุณทราบข้อเท็จจริง และทำให้ผู้คนรักคุณที่คุณเป็นคนรับฟัง เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจและการเอาชนะใจ ที่ง่ายที่สุดก็คือการรับฟังนั่นเอง
#6 | สามารถเป็นลูกน้อง ที่เข้าใจเจ้านาย
#7 | คิดก่อนพูด
เพราะคุณไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่คุณคิด แต่คุณจำเป็นต้องคิดกลั่นกรองถึงความเหมาะสมก่อนที่จะพูดอะไรออกมาจากปาก นั่นก็เพราะว่าถึงแม้คุณอาจจะไม่ได้เจตนาไม่ดี แต่คำที่คุณพูดออกมาอาจจะไปกระทบจิตใจหรือขัดหูขัดจาใครขึ้นมา จะเป็นปัญหากันไปใหญ่ ยิ่งกับคนที่คุณไม่สนิทหรือเป็นเพียงเพื่อนที่ทำงานด้วยกันแล้วนั้นยิ่งต้องคิดให้ดีเลยทีเดียว
#8 | เหตุเกิดจาก “หากเราเด็กกว่าเขา”
แน่นอนครับในสังคมไทย วัยวุฒิถือเป็นเรื่องสำคัญ การให้ความเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า ถือเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ว่าเขาคนนั้นจะตำแหน่งสูงกว่าคุณ หรือต่ำกว่าคุณก็ตาม ลองให้เกียรติกันมากขึ้น การพูดคุย การสั่งงาน ของคุณก็จะดีขึ้น ผมมีความเชื่อว่าถ้าอยากให้เขากระทำสิ่งไหนกลับคืนเรา เราต้องทำสิ่งนั้นให้เขาก่อน เหมือนกับกระจกเงา ที่จะสะท้อนตัวคุณ หากเขาทำงานผิดพลาดจริง ๆ ลองมองในมุมมองของเขา ถามไถ่อย่างสุภาพว่า ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตักเตือน และยืนมือเสนอความช่วยเหลือ ให้ดูไม่น่าเกลียดเกินไป
#9 | เหตุเกิดจาก “หากเขาเด็กกว่าเรา”
ถ้ามีเหตุการณ์ใดๆ ที่เขาทำให้เราไม่พอใจ อยากให้มองว่า แต่ละบุคคลถูกเลี้ยงดู และเติบโตมาในสังคมที่แตกต่างกัน เขาอาจจะถูกเลี้ยงดูในสังคมแบบนั้น ผลของการกระทำเขาจึงเป็นแบบนั้น ละลึกและสงสารเขา ให้มากกว่าจงเกลียดจงชัง เพราะสุดท้าย คุณและเขาก็ยังคงต้องทำงานด้วยกันอยู่ดี