ว่าด้วยเรื่องของ Necktie เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะเคยผ่านตากับคอนเทนต์เรื่องประเภทของเสื้อเชิ้ตหรือชุดสูทกันมาบ้างแล้ว แต่ยังมีอีกเรื่องที่อาจจะดูไกลตัวสำหรับบางคน ซึ่งมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ ‘วิธีเลือกเนคไท’
หลายคนอาจจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ผูกเท่าไหร่เนื่องจากอาชีพการงานไม่ได้มียูนิฟอร์มเคร่งครัดหรืออะไรก็ตามแต่ หรือกลับกันกับเพื่อนๆ ที่ต้องผูกเนคไทเป็นกิจวัตรอยู่ทุกวัน อาจจะเริ่มหมดไอเดียสำหรับการเลือกแมทช์เนคไทกันแล้ว
วันนี้ MOVER มีไอเดียในการเลือกแมทช์เนคไทเพื่อเพิ่มปลุกให้คุณกลับมาสนุกกับการแต่งตัวอีกครั้ง ตามมาชมกันเลย
ในเมื่อเนคไท (Necktie) คือไอเท็มสำคัญที่มักดึงดูดสายตาเป็นอันดับต้นๆ บนร่างกาย จึงต้องบอกก่อนว่าวิธีการเลือกเนคไททั้งสามข้อด้านล่างนั้นสำคัญไม่แพ้กันสักข้อและไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ขนาด โทนสี หรือแม้กระทั่งเนื้อผ้า ถ้าหากจับทั้งสามอย่างนี้มาผสมกันได้อย่างกลมเกลียว รับรองว่างานนี้คุณจะทั้งสนุก ดูดี และโดดเด่นสะดุดตาในคราวเดียวกันอย่างแน่นอน
เดวิด เบ็คแฮม บุรุษผู้สง่างามในชุดสูทเสมอ
#1 | เลือกเนคไทจากขนาด
ข้อแรกคือเรื่องขนาดที่มีหลากหลาย หากว่าคุณเป็นผู้ชายรูปร่างใหญ่จะให้ผูกเนคไทเส้นเล็กก็ดูจะผิดสัดส่วนไปเสียหน่อย เราแนะนำให้เลือกความกว้างขนาดสัก 2.5 – 3 นิ้วไว้ก่อนจะทำให้ดูสมส่วนที่สุด หรืออาจใหญ่กว่านั้นตามรูปร่าง เว้นแต่คุณจะเป็นผู้ชายสไตล์กวนโอ๊ย จะผูกเนคไทเส้นจิ๋วไปงานแฟนตาซีขำๆ กับแก๊งเพื่อนซี้ก็น่าสนุกไปอีกแบบ
ด้านผู้ชายรูปร่างมาตรฐานแบบชาวเอเชียจะได้เปรียบกว่าหน่อย เพราะสามารถเลือกขนาดเนคไทได้ตามใจชอบ โดยเนคไทเส้นใหญ่จะให้ความรู้สึกภูมิฐาน แถมยังมีกลิ่นอายของความคลาสสิคอยู่ด้วย ส่วนเนคไทเส้นเล็กจะให้ความทันสมัยมากกว่า ดูไม่เป็นทางการมากนัก เหมาะสำหรับผู้ชายยุคใหม่ (ที่เกรงว่าตัวเองจะดูแก่)
ภาพเปรียบเทียบ จะเห็นว่าภาพซ้ายนั้น เนคไทดูจะเส้นเล็กเกินไปไม่สมส่วนกับร่างกาย เลือกขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่างภาพด้านขวาและด้านล่างก็ทำให้ดูดีขึ้นมาแบบทันตาเห็น
การเลือกเนคไทเส้นใหญ่ให้กลิ่นอายของความคลาสสิก วินเทจเสมอ
การผูกเนคไทเส้นเล็ก แต่ไม่ถึงกับเล็กมาก ช่วยลดอายุของผู้สวมใส่ลงมาได้ ทำให้ดูเป็นผู้ชายสมัยใหม่
#2 | เลือกเนคไทจากโทนสีและลวดลาย
โทนสีก็เป็นตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการเลือกแมทช์เนคไทกับสูทหรือเบลเซอร์สักตัว การเลือกเนคไทสีเข้มกว่าเสื้อเชิ้ตด้านในยังคงเป็นกฎอมตะ ส่วนการ Play Save ด้วยเนคไทสีทึบนั้นขึ้นอยู่กับวาระและโอกาส หากคุณต้องไปพบผู้ใหญ่หรือลูกค้า ไม่ว่าจะพูดคุยธุรกิจ ดินเนอร์กระชับความสัมพันธ์หรือธุระอื่นๆ แต่ก็เบื่อลุคสีทึบของตัวเองเต็มทน ลองหยิบเนคไทลายขวาง (Stripe) หรือแบบ Small Pattern ที่เป็นลวดลายขนาดเล็ก พยายามให้มีเกินสองสีมาแมทช์กับสูทเรียบๆ หลีกเลี่ยงการนำลายของเสื้อเชิ้ต เนคไทและสูทมาชนกัน เลือกตัวเอกเพียงหนึ่งเดียวจะดีที่สุด
เนคไทสีทึบไร้ลวดลายที่แน่นอนว่าดูเรียบร้อยและเป็นทางการ แต่หลายคนอาจจะเบื่อและเริ่มมองหาเนคไทที่มีสีสัน เพื่อเพิ่มความสนุก
เนคไทลายขวาง (Stripe) แบบที่หยิบมาผูกแล้วดูสนุกขึ้น แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสุภาพเช่นเดิม
เนคไทแบบ Small Pattern
ส่วนถ้าเป็นงานสังสรรค์สำหรับคนคุ้นเคย งานแต่งเพื่อนสนิท หรือดินเนอร์ที่ไม่ได้มีผู้อาวุโสระดับประเทศก็ลองหยิบเนคไทลายสนุกสนานอย่าง ลายตาราง ลายจุดที่ช่วยเพิ่มความขี้เล่นหรือจะเป็นลวดลายแนวศิลปะอย่าง Foulard Ties, Paisley Ties ที่มีกลิ่นอายของความวินเทจเข้ามาเจือปนก็จะเพิ่มความสะดุดตามากขึ้น แถมยังไม่จำเจอีกด้วย
#3 | เลือกเนคไทจากเนื้อผ้า
เนื้อผ้าและการตัดเย็บก็ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญ วัสดุที่นำมาทำเนคไทแบ่งคร่าวๆ ออกเป็น 3-4 ชนิด คือ ผ้าขนสัตว์ (Wool) เนื้อสัมผัสจะละเอียด ผ้าลินินก็จะมี Texture ที่เป็นเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง ส่วนแบบยอดนิยมคือ ผ้าไหม เนคไทลวดลายต่างๆ ที่พบเห็นกันจากสินค้าแบรนด์เนมมักทอมาจากผ้าไหม ซึ่งก็มีทั้งไหมไทย เนื้อสัมผัสแข็ง มี Texture ไหมจีน ไหมอีตาลี จะนุ่มและเรียบลื่น
เนคไทผ้าขนสัตว์ (Wool)
เนคไทผ้าลินิน
เนคไทผ้าไหมไทย
เนคไทผ้าไหมอิตาลี
โดย Knit Necktie หรือเนคไทแบบถักที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นตากันก็ผลิตจากผ้าไหมเช่นกัน เพียงแต่ใช้วิธีการถักแทนการทอ หน้าตาจึงออกมาขรุขระ มีรูพลุนคล้ายตาข่ายและบริเวณหัวเนคไทจะเป็นแบบตัดกุ๊น ไม่ใช่แบบเรียวแหลม ซึ่งถือเป็นเนคไทซึ่งวางตัวอยู่กึ่งกลางระหว่างความลำลองและทางการ เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะผูกไทแต่ไม่อยากดูโอเวอร์จนเกินไป เนคไทแบบถักจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
เนคไทแบบถัก (Knit)
เนคไทแบบถัก (Knit) ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ อยู่กึ่งกลางระหว่าง ทางการ (Formal) และ ลำลอง (Casual) Wear แถมยังแมทช์ได้กับทั้งผู้ชายรูปร่างหลากหลายอีกด้วย