เรื่องสุขอนามัยหลังการทำธุระหนักนั้นเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่ใหญ่ แต่ก็มองข้ามไม่ได้ เราถึงได้หยิบประเด็นนี้มาพูดถึงกันในวันนี้ ว่าการชำระล้างหลังทำธุระหนักนั้นมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมอีก บางวัฒนธรรมก็ใช้ระบบแห้งอย่าง กระดาษชำระ ใบตอง หรือฮาร์ดคอร์หน่อยก็กาบมะพร้าวให้แสบ ๆ คัน ๆ เล่น ไล่ไปถึงระบบเปียก จะเปียกมากเปียกน้อยก็อีกเรื่อง อย่างประเทศทางเขตหนาวหน่อยก็อาจจะเลือกทิชชู่เปียก
ส่วนประเทศเขตร้อนชื้นจนเหม็นหืนอย่าง ไทยแลนด์ นั้น แค่ทิชชู่เปียกอาจไม่พอ (แถมมีราคาแพงกว่ากระดาษทิชชู่ธรรมดา และห่อใหญ่เกินกว่าจะพกไปไหนมาไหน) เราจึงต้องมีตัวช่วยอย่าง “สายฉีดก้น” มาทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นแบบมีสุขอนามัย ไม่เป็นภัยต่อผู้พบเจอ แต่กว่าจะมาเป็นสายฉีดก้นสุดล้ำให้เราได้ใช้ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นอย่างทุกวันนี้ มีใครเคยตั้งคำถามมั้ยว่า ทำไมประเทศไทยถึงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่นิยมใช้สายฉีดก้น ? แล้วสายฉีดก้นของเราดีกว่าวิธีอื่นอย่างไร ?
ก่อนจะไปถึงคำตอบว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเป็นที่นิยม เราขอเท้าความไปถึงต้นกำเนิดของการคิดค้นตัวช่วยล้างก้นกัน เพื่อเป็นการบิ๊วท์อารมณ์ร่วม ให้เข้าใจลึกซึ้งถึงแก่นของ สายฉีดก้น กันก่อน
ปฐมบทแห่งการ ล้างก้น
จักรวรรดิจะยิ่งใหญ่ได้มิได้ขึ้นอยู่กับแค่ Attitude ในด้านการบริหารและการปกครอง แต่หากเป็นเพราะวิธีการ ‘ล้างก้น’ ที่ชาญฉลาดต่างหาก
ย้อนไปสมัยจักรวรรดิโรมันเมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีที่แล้ว ชาวโรมันได้คิดค้นบิดาแห่งสายฉีดก้น ซึ่งมีชื่อเรียกเท่ ๆ ว่า “Xylospongium” แต่ชาวบ้านปุถุชนทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ก็อาจจะเรียกเป็นภาษาบ้าน ๆ ว่า “ฟองน้ำเสียบไม้”
…หน้าตาเป็นแบบนี้
โดยห้องน้ำในสมัยจักรวรรดิโรมันนั้นเป็นของที่ใช้ร่วมกันอย่างสาธารณะแบบรวม ไม่มีการแยกชายหญิง จะมีโถนั่งที่ทำจากหินหรือไม้ เจาะรูด้านบนและด้านหน้า วางไว้บนคูน้ำสำหรับพัดพาของเสียไปให้พ้นตัวเจ้าของ เรียกได้ว่าจักรวรรดิโรมันมีความก้าวหน้าและเป็นผู้นำในเรื่องส้วมพอ ๆ กับความก้าวหน้าเรื่องระบบชลประทาน ที่ผันน้ำจากภูเขาเข้ามาใช้ในเมืองโดยไม่ต้องใช้แรงงานคน
ลักษณะห้องน้ำจะมีโถนั่งวางรอบ ๆ ห้อง ไม่มีกำแพงกั้นใด ๆ สามารถนั่งเสวนากันได้เยี่ยงการประชุมสภา ตรงกลางจะมีคูน้ำเล็ก ๆ ที่ไว้สำหรับล้างฟองน้ำ หลังจากถ่ายหนัก ถ่ายเบา เสร็จก็เอาฟองน้ำจุ่มน้ำสอดผ่านรูด้านหน้าเข้าไปเช็ดก้น นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของการคิดค้นตัวช่วยในการล้างก้น แต่หลังจากกรุงโรมล่มสลาย ก็เป็นยุคมืดของอารยธรรมการล้างก้น เมื่อมนุษย์มีระบบชนชั้นวรรณะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ คนชนชั้นล่างก็ต้องมาตามถือโถส้วม แล้วคอยล้างก้นให้ชนชั้นปกครองหรือเจ้านายแทน
วัฒนธรรมการ ล้างก้น
ชนใดไม่มีการล้างทวาร ในสันดารเป็นคนชอบกลนัก
คำว่า “วัฒนธรรม” โดยทั่วไปนั้นหมายถึง รูปแบบของกิจกรรมมนุษย์และโครงสร้างเชิงสัญลักษณ์ที่ทำให้กิจกรรมนั้นเด่นชัดและมีความสำคัญ วิถีการดำเนินชีวิตซึ่งเป็นพฤติกรรมและสิ่งที่คนหมู่มากสร้างขึ้นจากการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งยังร่วมกันใช้อยู่ในหมู่พวกของตน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามยุคสมัยและความเหมาะสม (จากนี้ไปเราจะขอเรียกสิ่งปฎิกูลเหล่านี้ว่า “น้องนิ่ม” เพื่อความไพเราะเสนาะหูของทุกฝ่าย)
ดังนั้น… “การล้างก้น” จึงถือได้ว่าเป็น “วัฒนธรรม” เนื่องด้วยความแตกต่างของภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และสภาพแวดล้อมของกลุ่มคนในแต่ละที่นั้นได้ถูกถ่ายทอดและเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย จึงส่งผลให้การล้างก้นมีหลากหลายวีธี ยกตัวอย่างเช่น…
ประเทศในทวีปอเมริกา กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในแถบนี้จะมีการล้างก้นด้วยทิชชู่ หรือเรียกว่า “การชำระล้างแบบแห้ง” (สมัยนี้อาจจะมีการใช้ทิชชู่เปียกบ้าง) เพราะว่าประเทศแถบ ๆ นี้มีอากาศที่เย็นตลอดปี ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการอับชื้น ทิชชู่แห้งจึงเพียงพอแล้วในการทำความสะอาด หากใช้สายฉีดก้นฉีดทีคงทำให้หนาวไปถึงลำไส้ใหญ่แน่นอน
ประเทศในทวีปยุโรป ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองผู้ดีแบบนี้ก็ต้องมีสิ่งประดิษฐ์ชั้นสูงมาช่วยให้ การอุจจาระ เป็นเรื่องเรียบหรูดูมีคุณค่าอย่างแน่นอน และสิ่งนั้นก็มีชื่อเรียกว่า Bidet ซึ่งมีประวัติมาอย่างยาวนาน ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกและเล่าต่อกันมา สิ่งนี้กำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 – 17 ในยุคนั้น Bidet ถูกสร้างด้วยไม้ และค่อย ๆ พัฒนาเป็นเซรามิก ลักษณะคล้าย ๆ ซิงค์ล้างก้น ที่หลังจากทำธุระหนักเสร็จแล้ว ก็ย้ายจากชักโครกมาที่ Bidet เพื่อล้างก้น โดยที่ช่วงเวลาการโยกย้ายนั้นอาจจะเกิดการร่วงหล่นของ “น้องนิ่ม” ได้
ประเทศในทวีปเอเชีย ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านในแถบฝั่งตะวันออกอย่างเรา ๆ อาศัยอยู่ในเขตร้อนชื้นใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้เกิดปัญหาความอับชื้นใต้ร่มผ้า มากกว่าทวีปอื่น ๆ การชำระล้างแบบแห้งจึงไม่ตอบโจทย์มนุษย์ชาวเอเชี่ยนเท่าไหร่นัก สายฉีดก้น จึงเป็นพระเอกของทุก ๆ วิธีที่กล่าวมาข้างต้น จากเดิมที่เราเคยใช้วิธี โปะ-แปะ-ป้าย แบบก่อน ๆ ที่ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่า มือเราต้องพลาดไปโดน “น้องนิ่ม” เมื่อไหร่ สายฉีดก้นจึงขอเข้ามาปฏิวัติวงการการล้างก้น ด้วยการแสดงพลังและความสามารถที่หลากหลาย จนชาวต่างชาติมาลองแล้วติดใจ ซื้อกลับไปเป็นของฝากกันนักต่อนักแล้ว ถึงตรงนี้เราคงตอบคำถามได้แล้วว่า ทำไมคนไทยถึงนิยมใช้สายฉีดก้น
พลังพิเศษของท่านคืออะไร ?
คำถามต่อไป “แล้วทำไมสายฉีดก้นของเราดีกว่าวิธีอื่น?” ถ้าจะตอบคำถามนี้ได้ เราต้องมาดูกันก่อนว่าสายฉีดก้นของเรานั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ว่ามันมีความสามารถนี้อยู่ด้วย …ดังนั้นมาครับ มาดูกันให้ชัด ๆ พร้อมกับปลดล็อกทุก Feature ลับของสายฉีดก้นไปพร้อมกันกับ MOVER
1. ล้างก้นได้ด้วยมือเดียว
ช้าก่อน…ตอนนี้คุณคงสงสัยว่าแล้วมันพิเศษตรงไหน? เราตอบได้เลยว่ามันพิเศษมากครับ โดยเฉพาะกับคุณสาวๆ ที่ทำเล็บมาอย่างสวยงาม แต่ไม่อยากให้มือและเล็บอันสวยงามนั้นสัมผัสโดนกับน้ำและน้องนิ่ม แรงดันน้ำของสายฉีดนั้นสามารถชำระล้างทำความสะอาดได้อย่างดีทีเดียว ทำให้มือของเราไม่ต้องเลอะเทอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมเช็คความเรียบร้อยด้วยทิชชู่ด้วยนะครับ
2. ใช้ล้างเท้าได้
คุณกำลังประสบปัญหาใช้ฝักบัวล้างเท้าแล้วน้ำกระเซ็นขึ้นมาโดนเสื้อผ้าใช่หรือไม่ เพียงแค่คุณใช้สายฉีดก้น ปัญหานี้จะหมดไป เพราะด้วยตำแหน่งที่ติดตั้งสิ่งเหล่านี้มักจะอยู่ในระดับที่พอเหมาะกับการล้างเท้า คุณจึงไม่จำเป็นต้องเอื้อมหยิบฝักบัวให้วุ่นวายอีกต่อไป ที่สำคัญมันยังสามารถคอนโทรลระดับความแรงและระบบวาล์วเปิดปิดได้ดีกว่าอีกด้วย
3. ขจัดคราบส่วนมุมห้องน้ำ
เอามาใช้ขัดพื้นห้องน้ำหรือฝาผนังก็ว่าเทพแล้ว แต่ความพิเศษเพิ่มใข่ใส่หมูนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะความแรงที่สามารถทะลุทะลวงทุกสิ่งทุกอย่างได้นั้น สามารถนำมาประยุกต์เป็นอุปกรณ์ขจัดคราบส่วนมุมของห้องน้ำที่เข้าถึงยากและเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี เรียกว่ายิงออกไปนัดเดียวคราบต่าง ๆ กระจุยเป็นผุยผงในพริบตา
4. กำจัดแมลง/สัตว์ไม่ได้รับเชิญ
หลายครั้งที่เราทำธุระส่วนตัวอย่างสบายใจ แต่ดันมีมารความสุขอย่าง หนู มด แมลงสาบเข้ามาขัดอารมณ์ จะวิ่งหนีก็ยังไม่เสร็จธุระ จะอยู่เฉย ๆ ดูมันเดินเล่นอย่างมีความสุขก็กระไรอยู่ แถมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มันเกิดอารมณ์เสียแล้วบุกโจมตีเราแบบไม่ทันได้ตั้งตัว สายฉีดก้นจึงเปรียบเสมือนอาวุธลับที่เกิดมาเพื่อปราบเหล่าร้ายพวกนี้ให้สิ้นซาก ด้วยความแรงระดับทำลายล้าง ไม่ว่าเจ้าพวกนั้นจะเลเวลสูงพร้อมสกิลเทพแค่ไหนก็ต้องมีบาดเจ็บล้มตายกันไปข้างหนึ่งบ้างแหละ
5. กิจกรรมนันทนาการ
ยามว่าง ๆ เบื่อ ๆ เบ่งน้องนิ่มไม่ออก จะมีสิ่งไหนมาทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายไปมากกว่าการเล่นเกม สายฉีดก้นนี่แหละที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชั่นและสถานที่ จะว่าไปสิ่งนี้ก็เปรียบได้กับเกมวี (Wii) ของอาณาจักรปลดทุกข์แห่งนี้ ด้วยขนาดที่เหมาะมือ ควบคุมง่าย สามารถตอบโต้กับสิ่งรอบข้างได้ เช่น การยิงขวดแชมพูทดสอบความแม่นยำ หรือเขียนชื่อบนผนังห้องน้ำและฝ้าเพดาน
6. ช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
หากมีเหตุขัดข้องเกิดขึ้นกับลูกบิดประตู ทำให้ไม่สามารถออกไปโลกภายนอกได้ สายฉีดก้นนี่แหละที่จะทำให้คุณมีชีวิตรอด! คุณสามารถใช้มันยิงส่งสัญญาณผ่านช่องแคบ เช่น หน้าต่าง รูพัดลมระบายอากาศ (ถ้าไม่โดนไฟช็อตตายซะก่อน) หรือช่องว่างระหว่างประตู
7. ระบบ Force Touch
นับว่าเป็น Hidden Feature ที่ถูกซ่อนไว้ โดยหลายคนอาจจะไม่เคยรู้เลยว่า “สายฉีดก้น” มีความสามารถเทียบเท่า iPhone ด้วยซ้ำไป นั่นก็คือระบบรับรู้แรงกด หรือที่ Apple เรียกว่า “ระบบ Force Touch” เพราะสิ่งนี้สามารถควบคุมความแรงของน้ำได้ตามแรงสัมผัสที่เรากระทำต่อมัน อยากได้น้ำแรงก็กดให้เต็มเหนี่ยว อยากได้น้ำเบาก็ยั้งมือไว้หน่อย ไม่เชื่อก็ไปทดลองกันดูได้นะครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน!
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีสายฉีดที่อาจจะไม่ได้มาตรฐานทำให้ปฏิกิริยา Force Touch นั้นคลาดเคลื่อนไป ฉะนั้นเลือกซื้อสายฉีดครั้งต่อไป หันมาใส่ใจเลือกสายฉีดที่พอเหมาะพอดีมือกันด้วยนะครับ ; )