MASTER OF G เป็นซีรีส์ของ G-Shock สำหรับผู้ชายที่ทำงานภายใต้สภาวะสุดขั้ว ถูกพัฒนาเป็นเครื่องมือที่เปรียบเสมือนมือขวาของผู้ชายที่ต้องท้าทายต่อทุกสภาพแวดล้อม ทุกความอันตรายต่าง ๆ นาฬิกาในซีรีส์นี้จึงสร้างคุณสมบัติที่รองรับการกระแทกพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษที่ถูกเพิ่มเข้าไปเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานภายใต้สภาวะที่รุนแรงเป็นพิเศษ
จากการเปิดตัวนาฬิกา FROGMAN เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1993 ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีการรับรองมาตรฐาน ISO สำหรับการกันน้ำที่ระดับการดำน้ำลึก 200 เมตร เป็นซีรีส์ที่ได้ดำเนินตามเส้นทางของวิวัฒนาการของนาฬิกาอย่างต่อเนื่อง จากนั้น โมเดลใหม่ ๆ จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งก็ถูกเพิ่มเติมในส่วนของฟังก์ชั่นที่ท้าทายสภาพแวดล้อมที่มีสภาวะสุดขั้วต่าง ๆ
ปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 2015 นาฬิการุ่น MUDMASTER เป็นนาฬิกาที่โดดเด่นภายใต้ชื่อ “MASTER of the LAND” ได้ถือกำเนิดเป็นหนึ่งในซีรีส์ MASTER เป็นหนึ่งในกลุ่ม นาฬิกา G-Shock ระดับไฮเอนด์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะที่สูงและมีมูลค่าเพิ่ม นี่คือตัวอย่างล่าสุดของ G-Shock นาฬิกาที่ไม่เคยหยุดวิวัฒนาการ
MASTER OF G ได้ถูกปรับและพัฒนาเพื่อตอบรับกับทุกสภาวะ คือ บนฟ้า ทะเล และบนบก โดยการรวบรวมความคิดเห็นจากมืออาชีพแถวหน้าของแวดวงเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ของการพัฒนาจะตอบสนองความต้องการของคนเหล่านี้ ซีรีส์ที่โดดเด่นนี้มอบอุปกรณ์ที่ทรงพลังเพื่อช่วยผู้ใช้งานในการทำภารกิจอย่างแท้จริง
Master of G Series
อีกหนึ่งไฮไลต์ของ นาฬิกา G-Shock ในปีนี้ คือการเปิดตัวนาฬิกาในกลุ่ม Master of G ที่ถูกพัฒนา ทั้งความทันสมัย และแม่นยำของเทคโนโลยี ตลอดจนถึงความทนทานของวัสดุระดั
MUDMASTER: การแสวงหาพลังงานและฟังก์ชั่นการทำงานเพื่อความอยู่รอดในสถานที่รกร้าง
นาฬิกาที่ออกแบบมาสำหรับการใช้
GRAVITYMASTER: ความแข็งแรงและความแม่นยำที่ทำให้ทุกที่บนโลกเป็นไปได้ในการทำกิจกรรม
ตัวเรือนที่เสริมด้วยโครงสร้าง TRIPLE G RESIST ที่ทนต่อแรงกระแทกภายนอก แรงเหวี่ยง และการสั่นสะเทือน พร้อมด้วยระบบรับข้อมูลเวลาที่
GULFMASTER: ความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงสนับสนุนภารกิจที่ยากลำบากในทะเล
นาฬิกาที่ใช้สนับสนุนภารกิจที่
มร. คิคุโอะ อิเบะ ผู้คิดค้นนาฬิกา G-Shock รวมถึงการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ G-Shock มาตลอดระยะเวลา 25 ปี ปัจจุบัน คุณอิเบะยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและหัวหน้าโครงการ ‘Dream Project’ เพื่อนำเสนอนาฬิกา G-Shock รุ่นใหม่ ๆ ที่ได้รับการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้อย่างครบถ้วน
ในปี ค.ศ. 1981 คุณอิเบะและทีมงานได้เริ่มโปรเจคการสร้างนาฬิกาที่มีความทนทาน ซึ่งมีที่มาจากประสบการณ์จริงของเขาเอง ตั้งแต่สมัยเรียนคุณอิเบะได้รับของขวัญเป็นนาฬิกาจากคุณพ่อ และเขาได้ทำนาฬิกาเรือนนั้นตกลงพื้น จึงทำให้เกิดความตั้งใจว่าอยากทำนาฬิกาที่มีความทนทานมากพอที่จะตกไม่แตก โดยนาฬิกาดังกล่าวต้องมีคุณสมบัติ ‘Triple 10’ ได้แก่ รองรับการกระแทกจากที่สูง 10 เมตร / กันน้ำในความดัน 10 บาร์ หรือ ที่ระดับความลึก 100 เมตร / แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ปี
แต่กว่าจะได้นาฬิกาที่ทนทาน ต้องผ่านการทดสอบโยนนาฬิกาลงจากชั้น 3 ของตึกค้นคว้าวิจัยฮามูระ (Hamura R&D Building) ครั้งแล้วครั้งเล่า จนสามารถผลิตโมเดลแรกออกมาสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ในปี ค.ศ. 1983 ภายใต้ชื่อ G-Shock ซึ่งมาจากคำว่า Gravity ที่สื่อถึงความทนทานต่อแรงกระแทกและความนำสมัย
เป็นระยะเวลาเกือบ 30 ปีแล้วที่คุณอิเบะและทีมได้นำเสนอ DW-5000 โมเดลแรกของ G-Shock ออกสู่ตลาด นาฬิกา G-Shock ประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขาย การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการผสมผสานเทรนด์ต่าง ๆ ทั้งกีฬา ดนตรี ศิลปะ และแฟชั่น สร้างสรรค์เป็นสินค้าสุด Exclusive เพื่อวางจำหน่ายเป็นพิเศษ
คุณอิเบะมีนาฬิกา G-Shock ทั้งหมดกี่เรือนครับ
คนอื่นอาจจะคิดว่าผมต้องมีนาฬิก
คุณอิเบะมีเรื่องประทั
ผมมีเรื่องราวประทับใจอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟนคลับของ G-Shock เรื่องที่ 1 เป็นเรื่องแฟนคลับที่มีนาฬิกา G-Shock เยอะที่สุดตั้งแต่ผมเจอมา เขาอยู่ที่ฟุกุโอกะ มีอยู่ประมาณ 3,000 กว่าเรือน เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องแฟนคลับที่อายุน้อยที่
คุณอิเบะได้แรงบั
ผมได้แรงบันดาลใจจากทุกสิ่งทุ
คุณอิเบะมีปรัชญาการใช้ชีวิตอย่
จริง ๆ ตัวเองเป็นคนขี้เกียจมากเลย แต่เมื่อเริ่มทำอะไรแล้ว จะมีคำพูดหนึ่งในใจเสมอคือ Never Give Up จะทำให้จนเสร็จสิ้นและสำเร็จเสม
สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ G-FACTORY ทุกสาขา ร้าน Watch Station และเคาท์เตอร์นาฬิกา ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
Facebook: CASIO Watches Thailand
บทความนี้เรียบเรียงโดยทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com