‘FREITAG’ จากผ้าใบคลุมรถบรรทุก สู่แบรนด์ ECO Friendly ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

กระแส ECO-friendly ในตอนนี้ถือว่ามาแรงอย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ ประเทศ แบรนด์ต่าง ๆ ก็เริ่มออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาเพื่อต้อนรับกระแสนี้กันแล้ว แต่สำหรับในประเทศไทย คนทั่วไปมักจะคิดว่าสินค้าเหล่านี้ดูไม่ทันสมัยและไม่มีสไตล์เท่าไหร่นักด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ ทำให้หลายคนอาจจะเข้าไม่ถึง แต่ในวันนี้ แบรนด์ฟรายถากได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็มีความทันสมัย และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

หลายคนอาจจะคุ้นหูคุ้นตากับแบรนด์ FREITAG (ฟรายถาก) กันมาบ้างแล้ว เพราะว่าฟรายถากเพิ่งได้มีการเปิดตัว Freitag Pop Up Store and Cafe อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา

FREITAG คือแบรนด์กระเป๋าและเสื้อผ้า สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตจนถึงการย่อยสลาย วัสดุทุกชิ้นจะกลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างไร้ซึ่งมลพิษใด ๆ

โดยในส่วนของ กระเป๋า ทางผู้ผลิตได้เลือกใช้ ผ้าใบคลุมรถบรรทุก มาใช้เป็นวัสดุ โดยเป็นผ้าใบที่ ผ่านการใช้งานจริง มามากกว่า 5 ปี เพื่อเป็นการรีไซเคิลสิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งนอกจากจะทำให้กระเป๋ามีความทนทานและกันน้ำแล้ว ยังเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้กับกระเป๋าแต่ละใบด้วย โดยกระเป๋าแต่ละใบก็จะมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง ตามเส้นทางที่มันเดินทางไปกับรถบรรทุก นอกจากนั้น ผ้าใบที่นำมาตัดนั้นก็จะมีแค่ผืนเดียว และร่องรอยต่าง ๆ ก็แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะเจอลายที่เป็น อักษรย่อของชื่อตัวเอง สัญลักษณ์ หรือสีที่ชอบ ทำให้การเลือกซื้อของคุณมีความสนุกสนาน และท้าทายมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น สายกระเป๋าก็ยังทำมาจาก สายเข็มขัดนิรภัยรถ ส่วนตัวเย็บขอบกระเป๋าก็ยังทำมาจาก ไส้ยางจักรยาน เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมสุด ๆ เลยทีเดียว

คอลเลคชั่นเสื้อผ้า นั้นทางฟรายถากก็ได้เลือกสรรวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทุกขั้นตอนการผลิตก็ปลอดภัยไร้มลพิษ โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกเนื้อผ้า โดยฟรายถากได้เลือกเส้นใย Linen, Hemp และ Modal มาเป็นวัตถุดิบแทนการใช้ Cotton เนื่องจาก Cotton นั้นใช้ปริมาณน้ำในการปลูกมากกว่า รวมถึงกระดุมทุกเม็ดนั้น ทางแบรนด์ก็ได้ทำการพัฒนา จนสามารถย่อยสลายได้เองในธรรมชาติ แต่ในขนาดเดียวกันก็มีความคงทนแข็งแรง และมีความทันสมัย สามารถใส่ได้จริงในทุกโอกาศ ซึ่งนอกจากนี้ การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ยังทำให้ผู้ใส่ ไม่ระคายเคืองผิว ซับเหงื่อได้ดี  และยังป้องกันการเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้ไม่มีกลิ่นอับ ดังนั้นกางเกงของฟรายถากจึงไม่จำเป็นต้องซักทุกครั้งที่ใส่ แถมยังไม่ต้องรีดอีกด้วย หรือถ้าหากจำเป็นต้องทำความสะอาดจริง ๆ เพียงแค่ใส่เครื่องซักผ้า ปั่นด้วยน้ำอุ่น อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส เพียงครั้งเดียว เสื้อผ้าของคุณก็กลับมาสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง

และหลังจากที่คุณใส่มันจนคุ้มค่าแล้วนั้น ก็ถึงเวลาที่คุณจะคืนมันกลับสู่ธรรมชาติ ง่าย ๆ เพียงแค่ฝังทุกอย่างลงในดิน เท่านี้วัสดุทุกชิ้น ไม่เว้นแม้แต่กระดุม ก็จะสลายไปอย่างไร้ซึ่งสารตกค้าง

เรียกได้ว่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นจนจบเลยจริง ๆ ไม่เว้นแม้แต่ ถุงใส่สินค้า ก็ยังสามารถนำมารีไซเคิลเป็น แมลงที่ร่วมเดินทางไปกับผ้าใบบนรถบรรทุกได้เช่นกัน


ร้าน Freitag Pop Up Store and Cafe จะแบ่งออกเป็นสองโซนด้วยกันคือ ส่วนของสโตร์ขายกระเป๋าและเสื้อผ้าที่รวบรวมสินค้ารุ่นดัง ๆ มาไว้ในที่เดียวกัน ให้คุณได้เลือกกันอย่างจุใจ และอีกโซนคือ ร้านกาแฟดริปที่ทางFREITAG ร่วมมือกับ ร้าน Hands and Heart มาให้คุณได้สัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของกาแฟกับบรรยากาศสุดฮิปเตอร์

บรรยากาศภายในร้าน จะจำลองให้เหมือนเราอยู่ในโกดัง ที่พี่น้อง Markus และ Daniel ตระกูลFreitag ผู้ก่อตั้งแบรนด์ฟรายถากใช้ในการตัดเย็บและผลิดกระเป๋ารุ่นแรก ๆ โดยจะแบ่งออกเป็นสองชั้นด้วยกัน ซึ่งFreitag Pop Up Store จะอยู่บริเวณชั้นแรก มีการจำหน่ายกระเป๋ารุ่นต่าง ๆ ให้ทุกท่านได้เลือกกันได้ตามสะดวก

ตู้ลิ้นชักขนาดใหญ่ใส่กระเป๋าที่มีเพียงใบเดียวในโลกกำลังรอให้คุณได้สัมผัส เพียงแค่ดึงลิ้นชักออกมา โดยจะมีตัวอย่างกระเป๋ารุ่นต่าง ๆ พร้อมกับป้ายราคาบอกอย่างชัดเจน รวมถึงรูปตัวอย่างของกระเป๋าแต่ละใบ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการตัดสินใจซื้ออีกด้วย

นอกจากนั้นก็ยังมีกระเป๋าและสินค้าจากคอลเลคชั่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจมาให้ทุกท่านเลือกซื้อกันได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าเป้ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าคาดอก หรือ กระเป๋าสะพายข้าง เรียกได้ว่าทุกทรงที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ฟรายถากมีให้เลือกซื้อครบทุกรุ่น

ทางด้านเสื้อผ้าก็เป็นที่น่าจับตามองเช่นกัน เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ทางฟรายถากได้ออกแบบให้ทุกขั้นตอน และวัตถุดิบทุกอย่าง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด แต่ก็ยังคงความเป็นแฟชั่นและมีสไตล์อย่างลงตัว

ถ้าหากลูกค้าท่านใดมีข้อสงสัยในสินค้า พนักงานทุกท่านก็พร้อมตอบคำถาม และให้ข้อมูลอย่างละเอียด รวมถึงท่านใดที่ยังลังเล หรือ เลือกสินค้าที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้ ทางร้านก็พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการแต่งตัว การมิกซ์แอนด์แมตช์ในสไตล์ที่เป็นคุณเช่นกัน

ส่วนของคาเฟ่จะอยู่บริเวณชั้นที่สองของร้าน ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างFREITAG และ Hands and Heart เกิดเป็นคาเฟ่ กาแฟดริป ที่รับรองว่าคอกาแฟทุกท่านต้องยกนิ้วให้ เพราะเมล็ดกาแฟทุกเม็ดของทางร้าน ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ผ่านกรรมวิธีการชงอย่างปราณีตด้วยมือและหัวใจ ทำให้คุณลืมไม่ลงอย่างแน่นอน นอกจากจะมีกาแฟดริปแล้ว ทางร้านยังมีคุ้กกี้ พาย และเค้ก ไว้บริการอีกเช่นกัน รับรองว่าใครได้ลอง ก็ต้องประทับใจไม่แพ้กาแฟแน่นอน

   

บรรยากาศในร้านจะเป็นโทน ขาว-ดำ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน โดยมีเคาน์เตอร์อยู่ตรงกลาง พร้อมกับบาริสต้าฝีมือขั้นเทพคอยบริการทุกท่านอย่างเป็นกันเอง โดยเครื่องดื่มทุกชนิดในร้าน จะไม่มีการเติมน้ำตาล เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกค้าทุกท่าน แต่ถ้าหากใครที่ต้องการความหวานจริง ๆ ทางร้านก็มีบริการ น้ำเชื่อมที่เคี่ยวมาจากน้ำตาลทรายแดง ให้เติมได้เช่นกัน

ความพิเศษยังไม่หมดเท่านี้ เพราะถ้าเราสังเกตบนพื้น ตั้งแต่บริเวณบันไดชั้นที่หนึ่ง จะพบรอยล้อจักรยาน และเมื่อเราเดิมตามรอยมาเรื่อย ๆ จะพบกับพื้นที่สำหรับจัดแสดงรูปภาพประวัติความเป็นมา ของแบรนด์ฟรายถากตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง จนประสบความสำเร็จ และปลายทางของรอยจักรยานนี้ก็คือ โรงหนังขนาดเล็ก ที่สร้างมากจากผ้าใบของรถบรรทุก ที่ผ่านการใช้งานจริงเช่นเดียวกับที่เอามาทำกระเป่า ซึ่งโรงหนังจากผ้าใบรถบรรทุกนี้ จะฉายหนังสั้นเกี่ยวกับแบรนด์ฟรายถากเช่นกัน

เชื่อว่าทุกคนที่อ่านบทความนี้จบแล้วก็คงจะรู้สึกว่า เรื่องของผลิตภัณฑ์ NGO หรือ ECO-friendly ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ไม่ได้อยู่ไกลตัวเลย ซึ่ง FREITAG ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจ และตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

How to Get to FREITAG:

Facebook: Freitag Pop Up Store and Cafe

Instagram: freitagpopupbkk


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com