MOVER ขอพาคุณเที่ยวอีกครั้ง.. คราวนี้เราจะพาไปสัมผัสบรรยากาศสุดชิลสไตล์ Slow Life ริมฝั่งโขงพร้อมกับแวะชมวิวดอกพญาเสือโคร่งกันที่ จังหวัดเลย จังหวัดที่ใคร ๆ ก็เหมือนจะมองข้ามไป แต่จริง ๆ แล้วมีอะไรให้คุณค้นหาอีกเพียบ!
จุดหมายที่เราจะเดินทางไปในนั้นมี 2 ที่หลัก ๆ คือ “ภูลมโล” และ “เชียงคาน” ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเลยออกมาทั้งคู่ และเราจะใช้เวลาในทริปนี้เพียงแค่ 3 วันคือ ศุกร์(เย็น) เสาร์ อาทิตย์ เพื่อให้คนที่ไม่อยากลางานหรือติดเรียนในวันธรรมดาไปเที่ยวตามกันได้ง่าย ๆ อันที่จริงการเดินทางไปจังหวัดเลยก็มีอยู่หลายวิธีด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถไฟ (ไปลงอุดรแล้วต่อรถมาอีกที) และอย่างสุดท้ายและเป็นวิธีที่เราเลือกก็คือ รถทัวร์ นั่นเอง โดยใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 9 ชั่วโมง
#1 Destination: ภูลมโล
เวลาประมาณตีห้านิด ๆ เราก็เดินทางมาถึงอำเภอด่านซ้าย ตำบลบ้านกกสะทอน จากนั้นก็จะโบกรถขึ้นไปหรือว่าจะติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (063-780-5646 / 098-790-3458) ให้ลงมารับเราก็ได้ เมื่อขึ้นไปสักพักเราจะต้องไปเปลี่ยนรถอีกทีเพื่อเป็นรถอุทยานสำหรับการนำเที่ยว โดยมีค่าใช้จ่ายคันละ 1,500 บาทขึ้นได้ 10 คน ซึ่งถ้าเราไปไม่ครบก็สามารถหาเพื่อนร่วมเดินทางได้ที่จุดนี้เลยเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย จากนั้นก็เตรียมตัวไปชมต้นพญาเสือโคร่งกันได้เลย แต่มีข้อแนะนำสักนิดว่าควรพกผ้าปิดปากหรือผ้าโพกหัวและแว่นกันแดดกันลมไปด้วย เพราะเส้นทางตรงจุดนี้ถือว่าโหดและมีฝุ่นแดงเยอะมาก ๆ แต่ขึ้นไปถึงจุดชมวิวแล้ว เราบอกเลยว่าคุ้มมาก!
“เสียดายที่วันนี้หมอกลงหนามาก ๆ”
#2 Destination: เชียงคาน
หลังจากใช้เวลาถ่ายรูปและเดินดูวิวรอบ ๆ ภูลมโลจนพอใจแล้ว เราก็มุ่งหน้าต่อไปยังอำเภอเชียงคาน โดยการเดินทางก็มีตั้งแต่โบกรถที่ผ่านไปมาขอติดไปด้วย โบกรถทัวร์สายเชียงคาน และเช่ารถจากอุทยานไปถึงเชียงคานเลย ซึ่งระยะทางก็ยาวนานประมาณ 2-3 ชั่วโมงถือว่าเป็นการชมวิวไปพลาง ๆ ได้ทั้งบรรยากาศป่าเขาและตัวเมืองจังหวัดเลย ( แต่ตอนที่ MOVER ไปนั้นฝนตกกระหน่ำตลอดทาง TT )
เมื่อถึงที่หมายอย่างอำเภอเชียงคานแล้ว เราก็ตะเวนหาที่พักของคืนนี้กัน จนมาเจอกับโฮมสเตย์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Chiang Khan Guesthouse ราคาแค่ห้องละ 500 บาทต่อคืนพร้อมห้องน้ำในตัวและแอร์ ที่สำคัญคือไม่จำกัดจำนวนคนเข้าพัก ขนาดห้องสามารถนอนกันได้ 3-4 แบบสบาย ๆ มีทั้งห้องแบบเตียงเดี่ยวสองเตียง หรือเตียงคู่หนึ่งเตียง พร้อมบรรยากาศดี ๆ ที่ติดทั้งริมแม่น้ำโขงและถนนคนเดินที่เราสามารถเดินเล่นซื้อของกินของฝากได้ในช่วงเย็น ๆ หรือถ้าคุณเป็นสายคาเฟ่เชียงคานก็ตอบโจทย์เช่นกัน
นอกจากนี้เชียงคานก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำอีกไม่ว่าจะเป็นการไว้พระ 9 วัด สำหรับสายบุญ ข้ามไปเที่ยวฝั่งลาวสำหรับสายลุย หรือสายรักธรรมชาติก็สามารถไปชมพระอาทิตย์ตกที่ภูทอก นอกจานั้นสายรักสุขภาพที่นี่ก็ยังมีร้านนวดคลายเส้นตำรับดั้งเดิมอีกด้วย เรียกว่าครบจริง ๆ กับอำเภอนี้ แต่จริง ๆ แล้วแค่ได้นั่งมองแม่น้ำโขงไหลไปเรื่อย ๆ ได้ให้เวลาหยุดคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ได้ใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบเหมือนอยู่ในเมืองสักวันก็ถือว่าคุ้มค่าที่ได้เดินทางมาแล้ว
“ป้ายบอกทางครีเอทสุด ๆ”
“มาถึงนี่แล้วจะพลาดข้าวจี่กับหมูปิ้งได้ยังไง”
“ตักบาตรข้าวเหนียว ไฮไลท์เด็ดของเชียงคาน”
“รถรางชมเมืองที่นี่ก็มีเช่นกัน”
“ปั่นจักรยานชมแม่น้ำโขงก็ยังได้”
สุดท้ายนี้ถ้าใครอยากมาสัมผัสชีวิตสโลว์ไลฟ์แบบนี้บ้าง เราขอแนะนำช่วงเดือนธันวาคม – กุมาภาพันธ์ที่ดอกพญาเสือโคร่งกำลังบานเต็มที่และอากาศไม่ร้อนมาก มีทะเลหมอกลงให้ดูตอนเช้าคู่กับบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น แต่ถ้าเป็นระหว่างปีจริง ๆ แล้วก็ยังแวะเวียนมาเที่ยวที่เชียงคานได้เช่นกัน ถ้าชอบความสงบขั้นสุดเราแนะนำเป็นวันธรรมดาเพราะผู็คนจะไม่พลุกผ่านแต่ร้านค้าต่าง ๆ ก็จะน้อยด้วยเช่นกัน แต่ถ้ายังอยากได้บรรยากาศครึกครึ้นตอนเย็น ๆ การมาเที่ยววันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ก็จะตอบโจทย์มากกว่า
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com