สายกินคนไหนชอบเรื่องเซอไพรส์ต้องลอง! เมื่อการรับประทานอาหารของคุณจะต้องเสี่ยงทาย คุณไม่สามารถรู้ได้ว่ามื้อเที่ยง มื้อเย็น ของคุณนั้นจะเป็นอะไร นี่แหละถือว่าเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งของ Chef’s Table ที่อาหารทุกอย่างจะถูกกำหนดโดยเชฟ
วันนี้ Mover ก็จะพาทุกคนไปปัดหมุดกับ 5 ร้าน chef’s table ที่ไม่ลองแล้วจะเสียใจ! แต่ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจกับ คำว่า Chef’s Table ให้แจ่มแจ้งกันอีกสักนิดดีกว่า
Chef’s table คืออะไร ?
Chef’s Table นั้นไม่เหมือนกับการรับประทานอาหารปกติทั่วไปที่เราอยากกินอะไรก็สั่งไปได้ตามใจชอบ แต่คอนเซ็ปต์ของ Chef’s Table คือการทำตามใจเชฟ เชฟจะเป็นผู้กำหนดเมนูอาหารในมื้อนั้นๆ เสิร์ฟมาให้เรารับประทาน
เสน่ห์อย่างหนึ่งของ Chef’s Table ที่ร้านอาหารทั่ว ๆ ไปไม่สามารถหาได้นั่นคือทุกคนที่เข้ามาทานจะต้องจองก่อนและใน 1 รอบ รองรับจำนวนไม่กี่คนเท่านั้น ก็ต้องลุ้นกันไปอีกว่าจะได้กินหรือไม่ ทั้งบรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง และใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยที่เชฟทุกคนจะออกมาทักทายและแนะนำเมนูให้กับกับผู้เข้ามารับประทานตามธรรมเนียม
1 | Cheftable by chefart
มาประเดิมกันที่ร้านแรกกันเลยกับ Cheftable by chefart โดยเชฟอาร์ต-ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ หรือที่หลาย ๆ คนคุ้นกันในนามเชฟผู้ตัดสินจากรายการ Top Chef Thailand ทั้ง 2 season แน่นอนเป็นถึงกรรมการผู้ตัดสินแล้วนั้นเรื่องอาหารไม่มีคำว่า ธรรมดา เราขอคอนเฟิร์ม!
สำหรับ Cheftable by chefart นั้นประกอบไปด้วย 5 คอร์สด้วยกัน แต่จะเป็นอะไรนั้นก็แล้วแต่เชฟจะจัดให้ นักชิมอย่างเรา ๆ ก็คงทำได้แค่รอลุ้นไป และใครที่สนใจอยากไปลิ้มรสฝีมือเชฟอาร์ตอาจจะต้องจองล่วงหน้ากันสักเล็กน้อยไม่สามารถเดินดุ่ม ๆ เหมือนร้านอาหารทั่ว ๆ ไปเพราะ Cheftable by chefart นั้นตั้งอยู่ที่บ้านของตัวเชฟเองในละแวกเอกมัยและมีขั้นต่ำการจองที่ 4 คนขึ้นไปและไม่เกิน 16 คน
Black angus shortrib
2 | The table by chefpam
หากใครอยากลองลิ้มรสของฝีมือเชฟสาวแนวหน้าในวงการอาหารจะพลาดไม่ได้เลยกับ The table by chefpam โดยเชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม หนึ่งในเชฟรุ่นใหม่ที่คว้ารางวัลสุดยอดเชฟระดับเอเชียตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงเป็นหนึ่งในกรรมการผู้ตัดสินจากรายการ Top Chef Thailand เช่นเดียวกับ เชฟอาร์ต
สำหรับ The Table by Chef Pam มาในคอนเซปต์ private fine dining ในพื้นที่บ้านของตัวเอง และวัตถุที่เลือกใช้ก็มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศของแต่ละฤดูกาล นำมาปรุงตามสไตล์ modern cuisine รวมถึงให้กลิ่นอายของตะวันออกและไทยอีกด้วย สำหรับคนที่สนใจก็ต้องจองเข้าไปก่อนเช่นเดียวกันโดยจำกัดแค่ 1 โต๊ะสำหรับ 6-12 ที่ต่อวันเท่านั้น
3 | Red Brick Kitchen by ChefAue
ราคาดี ๆ ต้องที่นี่เลย Red Brick Kitchen by Chef Aue โดย เชฟอู๋-จิตติกร รุณทิวา ซึ่งประวัติของเชฟอู๋นั้นก็ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะเคยเป็นเชฟอยู่ที่ La Scala โรงแรมสุโขทัยมาก่อนและหลังจากที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์มามากพอจึงตัดสินใจเปิดเป็น Cheftable ซึ่ง Red Brick Kitchen by Chef Aue นั้นเป็นบ้านอิฐแดง ในซอยโชคชัย 4
ซึ่งเปิดให้บริการวันละ 2 รอบ คือมื้อเที่ยงและมื้อเย็น และจำกัดแต่ละวันที่ 4-12 คนเท่านั้น โดยอาหารทั้งหมดจะเสิร์ฟเป็นคอร์ส มีให้เลือก 2 แบบ คือ 5 คอร์ส ราคา 1,600 และ 8 คอร์สในราคา 2,200 หากใครสนใจต้องรีบจองนะ ก่อนที่จะเต็มซะก่อน ให้ไวเลย แล้วจะหาว่าไม่เตือน!
4 | Khao by Chef vichit
สายอาหารไทยต้องมา Khao by Chef vichit โดยเชฟวิชิต มุกุระ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในวงการอาหารไทย และได้ทำหน้าที่เชฟใหญ่ของโรงแรมชั้นนำของประเทศ สำหรับ Khao by Chef vichit นั้นเป็นร้านที่มีทั้งแบบ ala carte ปกติทั่วไป และ Chef’s table
โดย Chef’s table นั้นเป็น Private Group ที่รับตั้งแต่ 4 คนขึ้นไปแต่ไม่เกิน 12 คน และมีวันละ 2 รอบเท่านั้นคือมื้อเที่ยงและมื้อเย็น โดยมีให้เลือกตั้งแต่ 6 คอร์ส จนถึง 10 คอร์ส ราคาก็แอบแรงพอควรเลยคือ 4,990-9,990 บาท แต่ถ้าลองแล้วรับรองว่าเด็ดไม่เสียดายเงินแน่นอน!
5 | Ploy’s Table
ใครที่เป็นแฟน ๆ รายการ Masterchef thailand จะพลาดไม่ได้เลยกับ Ploy’s Table ของพลอย-ณัฐณิชา บุญเลิศ หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันจากรายการ Masterchef thailand seson 1 ซึ่ง Ploy’s Table นั้น ตั้งอยู่ที่ รังสิต ปทุมธานี และเป็นบ้านของเชฟพลอยเอง
โดยอาหารนั้นมีทั้งหมด 6 คอร์สด้วยกัน ไล่ตั้งแต่อาหารเบา อาหารหนักไปจนถึงขนมหวาน ส่วนราคาก็ไม่แพงมากจนเกินไปอยู่ในระดับที่สามารถเอื้อมถึงอยู่ที่ 1,600 บาทต่อคน หากคนสนใจรีบจองเลยเพราะเชฟพลอยนั้นเปิดรับเพียง 10 คนต่อรอบเท่านั้น อย่ารอช้า!
เป็นไงเห็นแล้วน้ำลายสอเลยไหมล่ะ ขอบอกเลยว่าใครที่ยังไม่เคยลอง ต้องลองนะจริงๆ เพราะถือว่านี่เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่และเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกด้วย