“adidas BROOKLYN CREATOR FARM”
สถานที่สำหรับนักสร้างสรรค์เพื่อการสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดของอาดิดาส
“การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ” หรือ “Creating the New” เป็นกลยุทธ์หลักด้านความคิดสร้างสรรค์ของ อาดิดาส และเป็นที่มาของแนวคิดจัดตั้งพื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์ ที่เน้นคอนเซ็ปต์ด้านสังคมเมือง ความรวดเร็ว และโอเพ่นซอร์ส (open source) หรือ การเปิดรับบุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนร่วม
ภายใต้การนำของ มร.พอล โกดิโอ ผู้อำนวยการด้านการสร้างสรรค์ของอาดิดาส (Paul Gaudio, adidas Global Creative Director) ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในการจัดตั้งศูนย์กลางทางความคิดแนวโอเพ่นซอร์ส ณ ใจกลางเมืองนิวยอร์ค หนึ่งในหัวเมืองหลักของอาดิดาส เพื่อสร้างหนทางแห่งการค้นพบและปั้นกลุ่มนักสร้างสรรค์ให้มีอิทธิพลและกลายเป็นแรงบันดาลใจของแบรนด์อาดิดาส รวมทั้ง สร้างทิศทางการสร้างสรรค์ของอาดิดาสอีกด้วย…วันนี้ มร.พอล โกดิโอ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของอาดิดาส จะมาตอบคำถามและอธิบายว่า สถานที่สำหรับนักสร้างสรรค์เพื่อการสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดของอาดิดาส ที่เรียกว่า “Brooklyn Creator Farm” มีความเป็นมาอย่างไร
บทสัมภาษณ์ มร.พอล โกดิโอ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของอาดิดาส
Q : ที่มาที่ไปของ “Brooklyn Creator Farm” เป็นอย่างไร
A : บรูคลินได้รับเลือกเป็นเมืองที่มี Creator Farm เป็นแห่งแรกของโลก ซึ่งทำให้ทีมงานออกแบบของเราสามารถเชื่อมต่อและเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสร้างสรรค์อันเป็นเอกลักษณ์ของมหานครนิวยอร์ค ในเดือนมีนาคม 2016 ทีมหลักเล็กๆ ของเราทีมหนึ่งได้ย้ายไปอยู่ในพื้นที่เช่าชั่วคราวในบรูคลิน หนึ่งปีให้หลังในเดือนมีนาคม 2017 ทีมดังกล่าวประกอบด้วยพนักงานเต็มเวลาถึง 19 คน ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าและรองเท้า นักเล่าเรื่อง วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม ได้ย้ายไปสู่สตูดิโอถาวรที่กรีนพอยท์ บรูคลิน (Greenpoint, Brooklyn) ที่เปิดประตูต้อนรับนักสร้างสรรค์อยู่ตลอด ทั้งผู้ที่อยู่กับแบรนด์อาดิดาสอยู่แล้วและผู้ที่มีความสงสัยเกี่ยวกับเราก็สามารถเข้ามาได้ นอกจากนี้ เรายังหมุนเวียนนักออกแบบของอาดิดาสทุกๆ สามเดือน เพื่อเฟ้นหาแนวคิดสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะการออกแบบของพวกเขาอยู่ตลอด”
Q : คุณเรียก Brooklyn Creator Farm ว่าเป็นสถานที่สำหรับนักสร้างสรรค์เพื่อการสร้างสรรค์ ขอให้คุณเล่าถึงองค์ประกอบของการสร้างสถานที่แบบนี้
A : “ความคิดสร้างสรรค์อาศัยเวลาและพื้นที่ในการผลิบาน เราได้สร้างทั้งสององค์ประกอบไว้ที่บรูคลิน ในพื้นที่ดังกล่าว เราเปิดโอกาสให้พนักงานชั่วคราว พนักงานเต็มเวลา และผู้ที่มาเยี่ยมเยือนใช้อุปกรณ์ทั้งหมดที่พวกเขาต้องการในการสำรวจ – ไม่ว่าจะเป็นห้องแล็บสร้างสรรค์เต็มรูปแบบ สิ่งแวดล้อมที่เปิดกว้างและเน้นความร่วมมือกัน และการเข้าถึงวัฒนธรรมแห่งกีฬาและความคิดสร้างสรรค์ที่หาได้ที่นิวยอร์คเท่านั้น แน่นอนว่า ความสำเร็จของพื้นที่นี้ยังขึ้นอยู่กับคนที่มาใช้พื้นที่นี้และผลงานที่พวกเรานำเข้ามาในพื้นที่นี้ ก็ล้วนแต่เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้เราเดินหน้าต่อไป”
Q : อะไรที่ทำให้การทำงานที่ Brooklyn Creator Farm แตกต่างจากการทำงานทั่วไป
A : “การทำงานที่ Brooklyn Creator Farm อาศัยการเปลี่ยนทัศนคติและมุมมอง คนที่ทำงานที่นี่ในช่วงเวลาหนึ่งๆ มาจากหลายส่วนของแบรนด์ นับเป็นการก้าวข้ามกระบวนการเดิมๆ ทั้งยังก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างคนที่มีมุมมองที่แตกต่างกันไป ถือเป็นวิธีการใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่จะนำมาซึ่งการค้นพบสิ่งใหม่และอิทธิพลความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของแบรนด์ โดยเราไม่เคยหยุดนิ่ง เรายังคงสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง และยังคงถามคำถามอยู่ตลอดเวลา”
Q : คุณมีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้ Brooklyn Creator Farm ไม่กลายเป็นหอคอยงาช้าง และยังสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายนักสร้างสรรค์ทั้งภายในและภายนอก
A : Brooklyn Creator Farm เป็นศูนย์กลางแห่งการสร้างสรรค์แนวโอเพ่นซอร์ส ทำให้เป็นพื้นที่ที่ดีต่อการนำไอเดียใหม่ๆ จากภายนอก หรือจากส่วนอื่นๆ ของแบรนด์มานำเสนอและปรับใช้ ไม่นานนี้ Brooklyn Creator Farm ได้ทำงานร่วมกับทีมบาสเกตบอลเพื่อคิดค้นรองเท้าบาสเกตบอลแบบใหม่
โดยมีผู้คนจากสายงานออกแบบ พัฒนา และการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์มาร่วมมือกับดีไซน์เนอร์หมุนเวียนจาก อาดิดาส ออริจินัล, รันนิ่ง, เทรนนิ่ง และนักกีฬาอย่าง James Harden และนักกีฬาของโรงเรียน Lincoln High School ที่รวมตัวกันสร้างเส้นทางใหม่ในวัฒนธรรมกีฬา เรายังทำงานในลักษณะที่คล้ายคลึงกันสำหรับทีมสเก็ตของเรา และทีมผู้หญิง ที่เน้นความร่วมมือของคนในวงการอย่าง Mark Gonzalez และ Karlie Kloss นอกจากนี้ เรายังร่วมทำงานกับศิลปิน ดีไซน์เนอร์ นักเรียน มหาวิทยาลัย อย่าง Pratt หรือ FIT และพิพิธภัณฑ์อย่าง Brooklyn Museum
Q : คุณมีวิธีการจัดการอย่างไรในการส่งต่อแรงบันดาลใจจากบรูคลินไปสู่ส่วนอื่นๆ ขององค์กรของคุณ
A : โครงการการหมุนเวียนทีมดีไซน์เนอร์ภายในนั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่ทำให้เรามั่นใจว่า ดีไซน์เนอร์ของเราทุกคนมีโอกาสในการได้รับประสบการณ์ใหม่แบบนี้ เราไม่เพียงแต่เห็นประโยชน์ของการนำคนและโปรเจคต์ต่างๆ ไปไว้ที่นั่น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการพัฒนาดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ที่กำลังเรียนรู้และเติบโตและเป็นโอกาสสำหรับดีไซน์เนอร์ที่มีประสบการณ์มากๆ ที่จะก้าวข้ามการทำงานแบบเดิมๆ และเปลี่ยนทัศนคติ นอกจากนี้ เรายังมีโครงการพัฒนาอย่างเป็นทางการที่หมุนเวียนคนเข้ามาทำงานที่นี่และหมุนกลับไปสู่สังคมของการออกแบบ เพื่อแชร์สิ่งที่พวกเราเรียนรู้ ความเข้าใจเชิงลึก หรือประสบการณ์ต่างๆ โดยการหมุนเวียนแต่ละครั้ง ทั้งคนที่ได้รับประสบการณ์ต่างๆ เหล่านี้ทั้งทางตรงและทางอ้อมก็เติบโตไปพร้อมๆ กัน
Q : คุณมีวิสัยทัศน์กับ Brooklyn Creator Farm อย่างไรใน 5 / 10 / 50 ปีข้างหน้า
A : ผมเห็น Brooklyn Creator Farm เป็นคอนเซปต์ที่เราอยากจะให้มีอีกในหลายๆ แห่งตามหัวเมืองต่างๆ
เพิ่มประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์ของเรา ที่จะก่อให้เกิดความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างผู้บริโภคและวัฒนธรรมนั้นๆ ความเชื่อมโยงนี้เป็นสิ่งที่ผลักดันให้เราก้าวสู่อนาคต ผมยังคิดว่า สิ่งที่ Creator Farm เหล่านี้จะเป็นนั้น จะมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ระหว่างที่เราเรียนรู้และเติบโต
Q : แล้วอาดิดาสมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรผ่าน Brooklyn Creator Farm
A : ด้วยความเป็นนักสร้างสรรค์อย่างแท้จริง เราเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจะเข้าใจและใกล้ชิดกับวัฒนธรรม ผู้บริโภค และนักกีฬามากขึ้น โดย Brooklyn Creator Farm จะมีบทบาทสำคัญในการทลายโครงสร้างเดิมๆ ด้วยการเปิดรับไอเดียและวิธีการทำงานใหม่ๆ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักสร้างสรรค์ในองค์กรของเราให้เรียนรู้ เติบโต และสัมผัสมุมมองใหม่ๆ ผมยังมองเห็นภาพของทีมออกแบบที่มีความเปิดกว้างและร่วมมือกันมากขึ้น พร้อมกับการที่มีพวกเขากระจายตัวอยู่ทั่วโลก โดยใช้ชีวิตและหายใจเข้าออกเป็นวัฒนธรรมกีฬา
จากแนวคิดนอกกรอบของอาดิดาสสู่โปรดักซ์เจ๋ง จนวันนี้กลายเป็นแหล่งบ่มเพราะไอเดียที่กลมกลืนกับวัฒธรรม เห็นอย่างนี้แล้วก็แอบหวังเล็กๆว่า จะมี Bangkok Creator Farm กับเขาบ้าง เพราะ Mover เชื่อว่า ครีเอเธอร์คนไทยก็มีไอเดียสร้างสรรค์ไม่แพ้ใคร
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com