Type to search

Interview

Hugo กับบทเพลง ‘ภาษาแม่’ คอนเสิร์ตที่ร้อยเรียงทุกยุคสมัยของ จุลจักร จักรพงษ์

Share

 สั่งสมประสบการณ์ทำงานเพลงทั้งจากในและต่างประเทศมาแล้วกว่า 16 ปี วันนี้ที่ ‘ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์’ กลับมาทำอัลบั้มเพลงไทยอีกครั้งในชื่อชุด ‘ดำสนิท’ ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะมีคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบที่มีแต่เพลงไทยล้วนทั้งหมดให้ทุกคนได้ฟังกัน

ไม่เพียงเป็นคอนเสิร์ตของอัลบั้มใหม่ล่าสุดเท่านั้นแต่ยังเป็นการหวนรำลึกถึงเพลงเก่า ๆ ตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นนักร้องนำ วงสิบล้อ มาเซอร์วิสแฟน ๆ ให้หายคิดถึง กับคอนเสิร์ต Singha Corporation Presents Hugo ภาษาแม่  ในวันที่ 15 กันยายนนี้ ที่เจ้าตัวรับรองว่างานนี้ทุกเพลงเป็นเพลงไทย เพราะเป็นภาษาแม่ ไม่มีเพลงฝรั่งที่เป็นภาษาพ่ออย่างแน่นอน

จากที่เริ่มทำวงสิบล้อเมื่อ 16 ปีก่อน มันเปลี่ยนแปลงไปมากมั้ยจนถึงจุดนี้

แน่นอน การเป็นศิลปินเดี่ยวกับการอยู่ในวงมันก็แตกต่าง แต่มันคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคนเราเท่ากับการมีครอบครัว เพราะวงการดนตรีก็คือวงการดนตรี ไม่ว่าเล่นอยู่ในฐานะศิลปินเดี่ยวหรือในฐานะวงมันก็มีความแตกต่างบ้าง แต่ในความแตกต่างจริง ๆ ก็คงเกิดขึ้นตอนมีครอบครัวมากกว่า

งานเพลงส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษมาตลอด แต่กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ใช้ชื่อว่าภาษาแม่ ตรงนี้มีความตั้งใจยังไง

ผมรู้สึกว่าต่อจากอัลบั้มไทยล้วนแล้วก็ควรจะมีคอนเสิร์ตไทยล้วน เลยจะเล่นเพลงจากดำสนิท ซึ่งเราก็ทัวร์มาพักหนึ่งแล้ว งานนี้เราจะเล่นทั้งอัลบั้ม แล้วก็จะเล่นเพลงเก่า ๆ จากสมัยสิบล้อบ้าง และเพลงเดี่ยวที่ทำตอนนู้นตอนนี้ตอนนั้น แต่เป็นภาษาไทยหมด ที่ตั้งชื่อนี้เพราะมันไม่ใช่ภาษาพ่อ เป็นภาษาแม่ ภาษาไทยล้วน

สำหรับอัลบั้มดำสนิทถือเป็นตัวตนของคุณที่สุดหรือยัง หรือเป็นเพียงอีกด้านหนึ่ง

ไม่รู้นะ เพราะผมว่าคนเราก็เปลี่ยนไปตลอดเวลาตามวัย ในทุกการทำงาน ในเวลานั้นเราก็คิดว่ามันลงตัวแล้ว แต่บางทีพอเวลาผ่านไปเราก็อาจมีความรู้สึกกับมันที่เปลี่ยน จริง ๆ ความเปลี่ยนแปลงมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่มีอะไรอยู่เหมือนเดิม มันก็เคยมีช่วงนึงที่เราไม่อยากร้องเพลงสิบล้อเลย เพราะเบื่อบ้าง อะไรบ้าง หรือรู้สึกว่าไม่ควรเอามาร้อง ไม่ควรมาขลุกกับเรื่องเก่า แล้วพอมันผ่านไป เห็นคนเขาอยากฟัง ก็รู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่อยากจะบริการแฟนเพลงมากกว่า เราก็ตามอำเภอใจตัวเองมาเยอะแล้ว

คอนเสิร์ตครั้งนี้เหมือนจะกลั่นออกมาจากทั้งชีวิตของคุณเลยหรือเปล่า

มันเหมือนเป็นการบันทึกแต่ละยุค เพราะเราจะมีเพลงจากทุกยุค ตั้งแต่สิบล้อชุดแรก ชุดสอง สาม สี่ และช่วงเดี่ยวที่มีเพลงไทยโดด ๆ สายลมอะไรอย่างนี้ จนถึงดำสนิท แต่เราจะเปิดด้วยการเล่นดำสนิทเต็มอัลบั้ม มีเกสต์คือ เป้-อารักษ์ มีพี่ใหม่ สิบล้อ กลับมาแจมด้วย พี่เอ วงพอส ก็จะยืนเล่นกับเราอยู่ตลอด และมีน้องวี วิโอเลตด้วย ที่สำคัญคือมีรอบเดียว ซึ่งเพลงบางเพลงก็ลึกจนไม่รู้จะหยิบมาเล่นอีกเมื่อไหร่ ไม่รู้จะไปหาฟังจากที่ไหนแล้ว

เรียกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เต็มรูปแบบกว่าอัลบั้มที่ผ่านมามาก

ในเมื่อเราอยู่ในค่ายมิวสิคมูฟ ที่เรารู้สึกว่ามีความกล้าหาญและเต็มที่กับงาน และมีสิงห์ คอร์ปอเรชั่นแบ็คอยู่ มันก็ทำอะไรเล็ก ๆ แนว ๆ มากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะมันก็ต้องให้ถึงคนที่มากที่สุด ในที่สุดแล้วเราต้องไม่ปฎิเสธคนที่มีอยู่ในท้องตลาดที่ต้องการที่จะฟังเพลงเหล่านี้ ผมจะกลับไปทำคอนเสิร์ตงานเล็ก ๆ คนดูน้อย ๆ เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเราทดลองมาแล้วว่าทำได้ ทีนี้เราต้องท้าทายตัวเอง แล้วเราต้องยอมรับว่าเวลาผ่านไปนานแล้วมันแทบไม่ได้เป็นเพลงของเราแล้ว มันเป็นเพลงของแฟน ๆ  แล้ว เราเลยพยายามจะเอาใจพวกเขา เผื่อวันข้างหน้าเราจะกลับไปทำอะไรประหลาด ๆ เวียร์ด ๆ เขาอาจจะให้ความเข้าใจเรามากขึ้นก็ได้ ถ้าอย่างน้อยเราทำอะไรที่น่าจะทานง่ายขึ้น ให้ความร่วมมือกับทั้งคนดูและค่าย  เพราะเพลงพวกนี้ อย่างดำสนิทคุณก็หาฟังได้ทั้งหมด เพลงเก่า ๆ  ที่จะเอามาร้องก็หาฟังได้ เลยไม่มีความแปลกอะไรมาก มันจะเป็นความอบอุ่นของการได้กลับเข้าไปในที่ที่คุ้นเคย ต้องใช้เนื้อร้องจากเพลงเดือนเพ็ญ บ้านเรือนที่เคยเนา’ เหมือนกลับไปหาแม่ มันก็คืออาการนั้นด้วย” 

การทำคอนเสิร์ตครั้งนี้คุณคาดหวังจะให้มันเป็นประวัติศาสตร์เลยหรือเปล่าหรือตั้งใจอยากให้คนจดจำไปอย่างไร

คาดหวังว่าบัตรจะขายได้เยอะ ฮอลล์ก็จะเต็ม คนก็จะได้รับความสุข และได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคนที่มา ผมเป็นคนที่ไม่ได้คาดหวัง ผมแค่ทำหน้าที่ผมให้ดีที่สุด ผมก็ยังหลงใหลในขั้นตอน ผมยังเป็นคนที่รักงานตัวเองอยู่ และก็เคารพคนดู เคารพเวที เวทีก็ยังเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ต้องให้เกียรติและให้ความใส่ใจ ผมว่าถ้าเราใส่ใจ เรื่องความคาดหวังไม่ต้องไปคาดหวังหรอก ถ้าเราแค่ใส่ใจ ตั้งใจทำงาน และทำให้มันน่าสนใจ และพยายามเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง ในคอนเซ็ปต์ตัวเอง นั่นคือข้อดี ของการอยู่ค่ายนี้ คือเราออกตัวเสนออะไร เขาก็สนับสนุนเต็มที่ เพราะตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าคนจะเข้าใจรึเปล่า ถ้าผมตั้งชื่อคอนเสิร์ตว่าภาษาแม่ เขาจะงงมั้ย

ในเส้นทางอาชีพนักดนตรีทำไมคุณถึงหลงรักและอยู่กับมันมาอย่างยาวนานได้ขนาดนี้

บางทีก็ไม่ได้รักมัน แต่ก็ต้องอยู่กับมัน มันเป็นอาชีพแล้ว ยิ่งอยู่นานมันก็ต้องทำไป มันเหมือนทุกอย่าง มันไม่ได้หวานทุกวันหรอก เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างสองคน ไม่สามารถหวานทุกวันหรอก แต่คุณต้องเจตนาบริสุทธิ์ ถ้าเจตนาบริสุทธิ์คุณก็จะทนวันขม ๆ ไปได้ จนถึงมันกลับมาหวานใหม่ และมันยังไม่ขมนานเกินที่ผมจะรับไม่ได้ เกือบแล้ว แต่น่าจะรอดแล้วแหละ (อมยิ้ม)

จากการที่ได้ไปทำเพลงกับต่างประเทศบ่อย ๆ ทำให้คุณเห็นข้อจำกัดหรือจุดอ่อนของวงการเพลงไทยบ้างมั้ย

มันไม่มีจุดอ่อนของวงการหรอก มีแต่จุดอ่อนส่วนบุคคลในคน ๆ นึง วงการมันไม่ได้เป็นระบบที่เชื่อมโยงกันขนาดนั้น มันเป็นเรื่องของแต่ละคน มันเป็นเรื่องความเหลิงของคนนี้ หรือความไม่พร้อมของคนนั้น ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงทั้งวงการ เพราะถ้าสมมติมองชีวิตคน ๆ นึง อย่างสิงโต นำโชค ทุกอย่างถูกต้องหมด แต่อะไรที่มันเวิร์คสำหรับเขา ถ้าคุณไม่ได้เสียงร้องดีเท่าเขา ไม่ได้นิสัยคารมหรืออะไรหลายอย่างไม่ครบเหมือนเขา แทบจะเอาบทเรียนจากชีวิตเขามาใช้สำหรับศิลปินคนอื่น บทเรียนที่ผมได้รับมาแทบจะไม่มีประโยชน์สำหรับคนอื่นเลย เพราะเขาไม่ได้เป็นผม มันเลยเป็นเรื่องส่วนบุคคลมาก และความสัมพันธ์ระหว่างแฟนเพลงกับศิลปินเป็นอะไรที่อธิบายยากว่าด้วยเหตุผลอะไร บางคนที่ชอบผมเพราะอาจได้ฟังเพลงผมตอนเขาเด็ก อาจจะไม่ได้เป็นเพราะเพลงผมดีกว่าของใคร แต่สำหรับเขาในเวลานั้นมันเป็นความทรงจำ มันเลยพูดยาก มันไม่ได้เป็นระบบ ไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์แน่ ๆ ไม่ว่าจะเมืองนอกหรือเมืองไทย มันประหลาดมาก ไม่มีวงการอื่นเหมือนวงการดนตรี

การทำงานเพลงไทยกับเพลงสากลสำหรับคุณ มีความรู้สึกหรือกระบวนการที่แตกต่างออกไปมั้ย

ไม่แตกต่าง นอกจากเรื่องเนื้อร้อง จริง ๆ เรื่องดนตรี เรื่องความใส่ใจ ความตั้งใจ ความจินตนาการก็ใช้เท่ากันแหละ

ในการทำงานคุณคิดว่าอะไรคือจุดผกผันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด

ก็เวลาแหละ และก็สิ่งที่เป็นข้อความ ที่ชิ้นงานนั้นส่งออกไปสู่ประชาชน มันสื่ออะไร บอกอะไร และผลที่คนที่สร้างงาน เจตนาเขาคืออะไร ถ้าเจตนาเข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อนมันก็โอเค

ศิลปินต่างชาติคนใดที่คุณร่วมงานแล้วรู้สึกประทับใจที่สุด

คงเป็นพวกคนเบื้องหลัง พวกเอนจิเนียร์  พวกคนที่คนไม่รู้จัก พวกนักดนตรีที่ได้ออกไปเล่นด้วย มีน้องศิลปินคนนึงชื่อ เจสัน เฟรนช์ เขาก็เป็นคนที่น่ารัก แต่ส่วนมากผมจะหลงใหลในนิสัยคนมากกว่า เรื่องความเก่งบางทีผมก็ดูไม่ออก นอกจากรู้ว่าอ๋อร้องเพลงเพราะ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจไปกว่าวงไทย จริง ๆ วงในเมืองไทยอย่าง YENA หรือ ZERO HERO หรือเสียงร้องของน้องวี มันก็ไม่ได้แพ้ใคร หรือปาล์มมี่ การได้ใกล้ชิดกับปาล์มมี่ตอนที่เขาทำคอนเสิร์ต ได้เห็นองค์ลง อันนั้นมันมหัศจรรย์เลย

ตอนนี้คุณกลายเป็นไอคอนของดนตรีร็อกแอนด์โรลเมืองไทย มีอะไรจะฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากจะทำเพลงแบบนี้บ้าง

“ผมไม่มีอะไรจะฝากให้เลย เพราะก็ไม่มีใครฝากให้ผม คำปรึกษาที่คนให้ผม ผมก็ไม่ฟังซักกะอย่าง แล้วเพิ่งมารู้ตอนเวลาผ่านไปแล้ว ได้พลาดเองแล้วว่าอะไรเป็นอะไร มันต้องลองด้วยตัวเอง ต้องพลาดด้วยตัวเอง แล้วไม่มีใครบอกคุณได้ว่าอะไรถูกไม่ถูก ชีวิตของตัวเองใครจะไปรู้ว่าคุณมีแรงกดดันอะไรบ้าง ถ้าคุณมีภาระอะไรต่าง ๆ ที่ต้องแบก มันอาจจะไม่ใช่เส้นทางที่เหมาะสมก็ได้ คุณอาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์พอก็ได้ และถ้าคุณไม่มีดวง คุณจะเก่งแค่ไหนก็แค่นั้น เพราะดวงในวงการบันเทิงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญกว่าฝีมืออีก

เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรจะฝากเลย ถ้ากำลังเรียนอยู่ก็เรียนอะไรที่จะเป็นประโยชน์ก็ได้ ไม่ต้องอยากเป็นแบบผม คุณเรียนช่างก็เรียนให้สามารถซ่อมนู่น ประดิษฐ์นี่ตามความถนัดของคุณ เรียนทำกับข้าวก็ทำให้เป็นจนประกอบอาชีพได้ ดูแลตัวเองให้ได้ สำคัญที่สุด อย่าเป็นภาระของสังคม อย่าเป็นภาระให้กับพ่อแม่ และอย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ร็อกแอนด์โรลช่างมันเถอะ”

คงไม่ต้องส่งท้ายอะไรมากสำหรับแฟนเพลงของฮิวโก้ ทุกคนคงไม่พลาดคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยชมการแสดงของฮิวโก้ พูดเลยว่าไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเขาคือหนึ่งในนักร้องคุณภาพ ที่ทำเพลงด้วยความตั้งใจมาอย่างยาวนาน ซึ่งก็เปิดขายบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางช่องทางของมิวซิกมูฟ

Showtime : ศุกร์ที่ 15 กันยายน 2017 (รอบเดียวเท่านั้น)
Location : ไบเทค บางนา ฮอลล์ 107
Ticket : thaiticketmajor.com/concert/hugo-pasamare-2017

 


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com
Tags