การจะมีบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ถือเป็นเป้าหมายใหญ่อีกอย่างหนึ่งที่ใครหลายต่อหลายคนอยากจะทำมันให้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ หรือคนวัยทำงานสมัยนี้ หลายคนต่างใฝ่ฝันอยากจะมีที่อยู่อาศัยอย่าง “คอนโดมิเนียม” เป็นของตัวเอง เนื่องจากสามารถตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ Gen Y-Z ได้อย่างดีและลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไลฟ์สไตล์แบบ “คนโสด”
วันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นนี้ในฉบับของ “หนุ่มโสด” ที่ฝันอยากจะมี 1 ในปัจจัย 4 ซึ่งก็คือที่อยู่อาศัยหรือ “ คอนโด ” เป็นของตัวเอง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความฝันนี้ อยากรู้ไหมว่าต้องทำอย่างไร จะเก็บเงินอย่างไร จะเลือกซื้อคอนโดแบบไหนดี ต้องศึกษาอะไรบ้าง วันนี้ MOVER ลงมือกลั่นกรองเอามาเป็นความรู้ดีๆ พร้อมเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านแล้ว อย่ารอช้า มาเริ่มกันเลยดีกว่า !
.1. วางแผนให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง.
ก่อนจะเริ่มต้นทำทุกอย่างนั้น เราควรใส่ใจการ “วางแผน” ให้รอบคอบมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างอย่างการจะมี ” คอนโด ” เป็นของตัวเอง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ จะตัดสินใจทำอะไรอย่าวู่วามหรือขาดการวางแผนให้ถี่ถ้วน เพราะการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นทรัพย์สินของตัวเองนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็น “หนุ่มโสด” หรือ “ไม่โสด” ก็ตาม มันก็ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตเช่นกัน ขั้นตอนวางแผนควรเริ่มจากการนั่งคุยกับตัวเอง ให้ตกตะกอนความคิดให้ได้ก่อนว่าเราจะซื้อ “ คอนโด ” ไปเพื่ออะไร มันเหมาะกับเราหรือไม่ บางคนต้องการซื้อเพื่อลงทุน บางคนซื้อเพื่ออยู่เอง แค่จุดเริ่มต้นแค่นี้ก็ทำให้ขั้นตอนต่อไปของแต่ละคนแตกต่างกันได้แล้ว และควรกำหนดระยะที่จะซื้อให้ชัดเจน เพราะจะเป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนทางการเงิน เช่น จะทำให้เรารู้ว่าต้องเก็บเงินเพิ่มขึ้นอีกแค่ไหนถึงจะดาวน์ได้ หรือต้องมีเงินสำรองไว้เท่าไหร่สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ คิดวิเคราะห์ทุกแง่มุมออกมาเป็นข้อๆลงในกระดาษ แล้วเริ่มวางแผนอย่างจริงจังตั้งแต่ตอนนี้เลย!
.2. ตรวจสุขภาพทางการเงิน.
หลังจากมีแผนที่ชัดเจนแล้ว ขั้นต่อไปอย่าลืมตรวจเช็คสุขภาพทางการเงิน หรือสภาพคล่องของคุณให้ดีก่อน ให้มองด้วยความเป็นจริง อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง เห็นมาเยอะแล้ว “หนุ่มโสด” ที่ตัดสินใจซื้อคอนโด โดยคิดว่าตัวเองผ่อนไหว ค่าผ่อนแค่นี้ไม่เกินศักยภาพของตัวเองหรอก แต่สุดท้ายก็ตกม้าตาย ผ่อนไม่ถึงไหน ก็ยกธงขาว จะเพราะด้วยปัจจัยภายนอกต่างๆ อย่างเรื่องเศรษฐกิจหรือสังคม หรือ เกิดจากตัวเองที่ไม่สามารถบริหารการเงินให้ Flow เป็นปกติได้ก็ตามแต่ สุดท้ายโดนแบงก์ยึด เงินจม เป็นหนี้ ชีวิตแทบล้มละลาย เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียหน้าด้วย ฉะนั้นถ้าตัดสินใจจะมี “คอนโด” เป็นของตัวเองแล้ว อย่างน้อยๆ คุณต้องมีเงินสำรองอยู่พอสมควร เอาแบบง่ายๆควรมีเงินก้อนสำรองไว้ไม่น้อยกว่า 3-6 เท่าของเงินเดือน เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ เช่น ต้องเข้าโรงพยาบาล ทำงานไม่ได้ หรือถูกเลิกจ้าง จะได้ไม่ต้องเดือดร้อน และส่วนหนึ่งต้องเก็บไว้ใช้จ่ายเบี้ยใบ้รายทาง ที่มาพร้อมคอนโดอย่างค่าส่วนกลาง ค่าน้ำไฟ ค่าซ่อมบำรุง ค่าภาษี ฯลฯ
.3. จริงจังกับการเก็บเงิน.
เอาล่ะ! ถึงเวลาเริ่ม “เก็บเงิน” อย่างจริงจังได้แล้ว จริงอยู่ว่าการจะซื้อ “คอนโด” เป็นเงินก้อนใหญ่มาก น้อยคนที่จะเก็บเงินซื้อเป็นเงินสด คนส่วนใหญ่ 90% เลือกที่จะกู้แบงก์กันทั้งนั้น แต่อย่าลืมนะว่ามันยังมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นอีกหลายอย่างมากที่แบงค์ไม่ได้มาซัพพอร์ตเรา เช่น เงินดาวน์ อันนี้ส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของผู้ซื้อเองที่ต้องหามาจ่าย ยิ่งดาวน์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี (แต่บางทีส่วนนี้หลายคนก็ใช้วิธีกู้มาดาวน์ หรือผ่อนดาวน์) ไหนจะค่าจอง ค่ามัดจำ ค่าทำสัญญา ค่าโอนกรรมสิทธิ์ พวกนี้ต้องใช้เงินทั้งนั้นแหละ อีกอย่างเลย ไม่ใช่ว่าทุกธนาคารที่เราไปยื่นกู้ เค้าจะให้วงเงินกู้เรา 100% เต็มจำนวนของราคาคอนโดนะ แล้วแต่นโยบายและการพิจารณาของแต่ละสถาบันการเงิน คอนโดใหม่ๆ หรือจากค่ายใหญ่ๆ จะค่อนข้างได้เปรียบส่วนใหญ่จะกู้ได้เต็ม แต่ถ้าเป็นคอนโดเล็กๆ หรือคอนโดมือสอง โอกาสที่แบงก์จะปล่อยกู้เต็มก็จะน้อยกว่า ถ้าได้เต็มจำนวนก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าได้ไม่ครบ ส่วนต่างที่เหลือนั้นก็เป็นหน้าที่ผู้ซื้ออย่างเรานี่แหละต้องหามาให้ได้ ซึ่งต้องทำยังไงล่ะ ก็ต้อง “เก็บเงิน” ไง จะใช้จ่ายอะไรก็ต้องเริ่มคิดให้รอบคอบ ประหยัดได้ก็ประหยัด เริ่มออมเงิน หรือหารายได้พิเศษเอาไว้ได้แล้ว
.4. มองหาโครงการที่ใช่.
โครงการ ” คอนโด ” เดี๋ยวนี้ มีผุดขึ้นมาให้เลือกเป็นรายวันยิ่งกว่าดอกเห็ด ซึ่งแต่ละโครงการต่างก็มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน และปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่ “หนุ่มโสด” ควรต้องพิจารณา
- ราคา
ไหวแค่ไหน ซื้อแค่นั้น จำเอาไว้ “นกน้อยทำรังแต่พอตัว” อย่าทำอะไรเกินตัวแบบที่คิดว่าเท่ สุดท้ายจะจบเห่ ผ่อนไม่ไหวซะเปล่าๆ ฉะนั้นตั้งงบประมาณให้เหมาะสม เอาแบบไม่ลำบาก ผ่อนได้สบายๆ อย่าลืมนะว่า “หนุ่มโสด” อย่างคุณไม่ได้มีคนมาช่วยผ่อนนะ
- พื้นที่
ข้อนี้ก็เหมือนกัน เอาแต่พอดีๆ ยิ่งเป็น “หนุ่มโสด” แบบนี้ อยู่คนเดียวซื้อห้องใหญ่ๆไปก็เกินเรื่อง ยิ่งห้องใหญ่ก็ยิ่งราคาแพง ผ่อนกันบาน ที่สำคัญทำความสะอาดไม่ไหวอีก ปกติเชื่อว่าก็ขี้เกียจทำความสะอาดกันอยู่แล้วสไตล์ผู้ชายง่ายๆ ยิ่งห้องใหญ่ ยิ่งขี้เกียจ เลือกห้องไม่ต้องใหญ่มาก แต่เอามาตกแต่งให้เป็นตัวเราเองจะดีกว่านะ
- ทำเล
ราคาเกินครึ่งหนึ่งของคอนโด มาจากทำเลที่ตั้งของโครงการนี่แหละ ยิ่งทำเลดี มีความปลอดภัยสูง ไม่อยู่ในย่านที่เสี่ยง ไม่มีข่าวอาชญากรรมบ่อยๆ ใครๆก็อยากอยู่ ราคามันก็เลยยิ่งสูงตามไปด้วย โดยเฉพาะใจกลางเมืองอย่าง คอนโดติดรถไฟฟ้า ราคายิ่งสูงลิบ อันนี้เราควรเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์เราเลย ถ้าต้องทำงานในเมือง การเลือกคอนโดในเมืองก็ถือว่าเหมาะสม แลกกับการไม่ต้องหงุดหงิดจราจรและไม่เสียเวลาเดินทาง
- สาธารณูปโภค
เดี๋ยวนี้คอนโดแข่งกันจัดเต็มเรื่องสาธารณูปโภค หรือส่วนกลางกันสุดๆ ผลกำไรตกอยู่ที่ผู้ซื้ออย่างเรา อันนี้ “หนุ่มโสด” เลือกได้เลย ตามไลฟ์สไตล์ตัวเอง ถ้าชอบออกกำลังกาย คอนโดที่มีฟิตเนส อุปกรณ์ดีมีมาตรฐาน หรือมีสระว่ายน้ำที่ใช้งานได้เพียงพอ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ควรอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล หรือแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
- ประวัติโครงการ
ศึกษาให้ดีถึงประวัติของผู้พัฒนาโครงการ และนิติบุคคล สมัยนี้เช็คประวัติการได้ง่ายๆ แค่เสิร์ชในอินเทอร์เน็ตก็พอจะหาข้อมูลได้แล้ว บางเจ้าโฆษณาดิบดี แต่การบริการหลังการขายแย่ ไม่ใส่ใจลูกบ้าน หรือวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาสร้างคอนโดไม่ได้มาตรฐาน หลอกลวงผู้บริโภคก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ.
.5. ทุกอย่างพร้อมก็ลุยเลย!.
เมื่อทุกข้อพร้อมแล้ว เดินไปปรึกษาแบงก์ได้เลย เตรียมเอกสารให้พร้อม หลักๆที่ต้องมี คือ เอกสารแสดงสถานภาพทางการเงิน เช่น สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน หนังสือรับรองเงินเดือน เป็นต้น แนะนำว่าให้เข้าไปปรึกษาหลายๆธนาคารได้เลย เพราะแต่ละสถาบันการเงินก็จะมีนโยบายและโปรโมชั่นแตกต่างกัน เลือกที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดมาสัก 2-3 เจ้าแล้วลองยื่นกู้พร้อมๆกัน เผื่อเจ้าไหนไม่อนุมัติจะได้ไม่เสียเวลา ไม่ต้องลุ้นกันนานๆ โดยปกติจะทราบผลไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ หลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว ธนาคารก็จะดำเนินการให้ตามขั้นตอน และหลังจากนี้ “หนุ่มโสด” ก็ต้องสร้างวินัยและความรับผิดชอบให้ตัวเองมากขึ้น เพื่อผ่อนชำระอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ ถ้าเราเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว แค่นี้คอนโดในฝันของ “หนุ่มโสด” ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
.
เป็นอย่างไรกันบ้าง ? อ่านมาถึงตรงนี้ คงได้ไอเดียและความรู้ดีๆกันไปบ้าง ไม่มากก็น้อย MOVER ขอสนับสนุนให้ “หนุ่มโสด” ทุกคน ทำความฝันของตนเองได้สำเร็จเร็วๆ มี “คอนโด” ในฝันเป็นของตัวเอง ที่ถูกใจและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณแบบสุดๆ เราขอเป็นกำลังใจให้ !
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com