การก้าวเข้าสู่วัยที่โตขึ้น ไม่ได้หมายถึงการเพิ่มขึ้นแค่เพียงอายุ แต่หมายถึงความรับผิดชอบที่ต้องเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน เราต้องแบกรับภาระมากขึ้น และมีหลายสิ่งที่เราต้องเตรียมพร้อมที่จะก้าวต่อไป เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่วัย 30 เราจำเป็นที่จะต้องมี 10 ข้อเหล่านี้ที่เราต้องทำให้มัน มั่นคงและแน่นอนเพื่อไม่ให้การก้าวเข้าสู่เลข 3 ของเรามีปัญหาได้ และวันนี้ Mover ขอนำเสนอ 10 Checklists เตรียมพร้อมก่อนวัย 30 อย่างมั่นคง ไปกับ “10 Checklists เตรียมพร้อมก่อนก้าวเข้าสู่วัย 30 อย่างมั่นคง”
#1 | ประกันชีวิต และประกันสังคม
อาจจะรู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อมีคนมาขายประกันชีวิตให้คุณ แต่เราต้องบอกเลยว่าในยุคสมัยนี้การทำประกันนั้นสำคัญมากๆ เพราะลดโอกาสเสี่ยงที่คุณจะไม่มีเงินเมื่อคุณตกงาน หรือลาออกจากงานและหางานใหม่ ถ้าจะบอกว่าตำแหน่งของคุณนั้นสูงหรือเป็นคนสำคัญขององค์กรละก็ คงใช้เป็นข้ออ้างไม่ได้แล้วในยุคที่ไม่มีอะไรแน่นอนแบบนี้
รวมไปถึงเมื่อคุณเจ็บปวย หรือเกิดอุบัติเหตุคุณยังสามารถเบิกค่าใช้จ่ายทั้งหมด หรือส่วนหนึ่งได้จากประกันต่างๆที่คุณได้ทำไว้ แล้วยิ่งสำคัญมากๆ คือประกันสังคมจากรัฐบาลเพราะมีความมั่นคงสูงที่สุด และมีผลตอบแทนที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากๆ โดยปกติแล้วบริษัทต่างๆ จะทำประกันนี้ให้กับคนในบริษัทอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไม่ทำให้กับคนในบริษัทตัวบริษัทเองจะทำผิดตามกฎหมาย แต่ก็ว่าอะไรได้เพราะกฎหมายข้อนี้ไม่มีการตรวจอย่างเข้มงวด เราได้เพียงแนะนำว่าควรหาบริษัทใหม่ที่ทำประกันสังคมให้กับคนทุกคนในองค์กรดีกว่า เพราะเรื่องนี้มั่นจะสืบเนื่องไปถึงเมื่อคุณเกษียณด้วย
#2 | รายได้ที่มั่นคง
ไม่สำคัญว่าคุณจะทำงานอิสระ ฟรีแลนซ์ หรือทำงานประจำ ขอแค่คุณมีรายได้ที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากทางไหนก็แล้วแต่ เพราะการมีรายได้ที่มั่นคงหมายถึงความปลอดภัยในชีวิต หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เข้าโรงพยาบาล หรือไว้จ่ายค่าประกันที่เราได้กล่าวไปข้างต้นนั้น เมื่อคุณมีเงินในกระเป๋า แน่นอนว่ามันก็จะสบายใจกว่าที่คุณไม่มีเงิน หรือมองไม่เห็นเงินที่จะได้มาในอนาคต
#3 | มีรายรับมากกว่า 1 ทาง
ปัจจุบันข้าวของที่ต้องใช้เพื่อกิน เพื่ออยู่ในปัจจุบันนั้นมีราคาสูง ยังไม่รวมของฟุ่มเฟื่อยที่คุณจะต้องซื้อเพื่อบำเรอตัวเองอีก ทั้งหมดล้วนใช้เงินเป็นปัจจัยเพื่อที่จะแลกมันมา ในเมื่อรายการที่ต้องใช้จ่ายเงินออกไปนั้น มีหลายรายการแต่รายรับมีเพียงช่องทางเดียวคือรายได้หลักขอคุณ มันก็คงจะอยู่ไม่ได้ หรืออยู่ได้แต่ก็คงจะลำบาก และไม่มีเงินเก็บหรือไม่มีเงินไว้สำหรับจ่ายเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เพราะฉะนั้นเราควรที่จะหารายได้เสริม งานเพิ่มเติม ทำโอที หรือนำเงินไปลงทุน
#4 | มีแนวคิดและกริยาท่าทางที่โตและสุขุมขึ้น
หลังจากที่เราพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆสำหรับความพร้อมให้ชีวิตมั่นคงมากขึ้นกันไปแล้ว ตอนนี้เราควรที่จะใส่ใจกับบุคลิกภาพ สำหรับวัยที่โตของเรากันหน่อย เราคงเคยจะเจอกับคนบางคนที่โตแต่ตัว โตแค่เพียงอายุ แต่จิตใจ หรือนิสัยกับไม่แตกต่างจากเด็กที่เอาแต่ใจตัวเองเลย ใช้ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ หรือคิดว่าตัวเองนั้นสำคัญมากๆ แค่คิดถึงคนประเภทนี้ขึ้นมาเราก็คงจะอารมณ์เสียแล้วละ เพราะเราต่างก็อาจเคยที่จะไม่พอใจคนประเภทนี้ เพราะงั้นเราไม่ควรจะเป็นคนประเภทที่เราไม่ชอบ ถ้าจะให้ดีเราควรจะเป็นคนที่สุขุมเยือกเย็นขึ้น แล้วถ้ายิ่งไปเจอกับคนประเภทนี้ขอให้เราใจเย็นไว้ก่อน เอาน้ำเย็นเข้าลูบ ใช้ความคิดให้มากกว่าคำพูด และอย่าลืมที่จะยิ้ม
#5 | มีที่พักผ่อนหย่อนใจ
ที่พักในที่นี้ไม่ได้หมายบ้านที่เป็นของคุณ แต่หมายถึงสถานที่ที่ไว้เอนกาย นอนพัก ที่ที่คุณอยู่แล้วสบายใจ ไว้ชาร์ตพลัง เติมไฟให้กับชีวิต ให้กลับมาสู้ต่อหลังจากพักผ่อนของวันที่เหนื่อยล้า อาจจะเป็นห้องเช่าเล็กๆของคุณ หรือเป็นคอนโดมิเนียมสุดหรู หรือเป็นโบสถ์ เป็นวัด ที่ซึ่งไปแล้วรู้สึกสบายใจ มีความสุขกับชีวิต พร้อมที่จะเผชิญเรื่องราวต่างๆในชีวิตต่อไป
#6 | งานอดิเรก
คุณควรจะมีของฟุ่มเฟือยเพื่อเป็นการขับเคลื่อนในการทำงาน ในการใช้ชีวิต อาจจะเป็นแค่ได้ดูหนังภาคต่อสักเรื่องที่คุณเฝ้ารอมันมาเป็นปี การสะสมโมเดล ของเล่นต่างๆ หรือจะเป็นรถหรูไม่ได้หมายถึงต้องครอบครองมัน แค่ศึกษาหาความรู้เรื่องรถต่างๆ หรือการเข้าสมาคมต่างๆอย่างบิ๊กไบค์ มีการจัดทริปของคนในกลุ่มบ้าง เพิ่มฐานคนที่เรารู้จักในหลายๆวงการ พวกเขาอาจจะไม่ช่วยคุณในหน้าที่การงานด้วยก้ได้ใครจะไปรู้
#7 | ท้าทายตัวเองด้วยเป้าหมายในชีวิตแปลกใหม่
ด้วยวัยนี้คิดว่าเราทุกคนน่าจะมีแผนในชีวิตกันอยู่แล้ว แต่อยากให้เมื่อเราอายุมากขึ้นลองท้าทายตัวเองมาขึ้นดูสิ วางเป้าหมายที่ใหญ่ทำมันให้สำเร็จก่อนวันเกิดปีถัดไป หาเป้าหมายใหม่ให้กับตัวเองเรื่อยๆ วางแผนท่องเที่ยวว่าเราจะต้องได้ไปมันสักครั้งก่อนวันเกิดเราในปีถัดไป วางไว้สูงๆ เลยอย่างการไปเขาเอฟเวอร์เรส หรือจะเป็นการท้ายทายตัวเองด้วยการฝึกทักษะใหม่ๆ ภาษาที่ 3 4 5 ฝึกซ่อมรถ ซ่อมจักรยาน เป็นนักปั่น นักวิ่งมาราธอน ไปออกรายการทีวีที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมสนุก แค่อ่านก็รู้สึกตื่นเต้นสำหรับความท้าทายใหม่ๆแล้วใช่มั้ย ลองทำดูสิชีวิตคุณจะมีสีสันขึ้นอีกเยอะ และคุณคงจะเป็นคนที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ
#8 | มีเพื่อนคู่คิดที่สามารถไว้วางใจ
ในที่นี้เราจะไม่พูดถึงความจำเป็นที่ต้องมีคนรัก เพราะไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ส่วนใหญ่ หรือผลสำรวจอะไรก็ตาม เราเชื่อว่าการที่ได้อยู่คนเดียว เราจะพบสุขมากกว่า แต่ครั้งนี้เราไม่ได้จะพูดถึงประเดนนั้นข้ามมันไปก่อน
“เพื่อนคู่คิด” ในหลายๆเหตุการณ์ของชีวิตมันก็ยากที่จะตัดสินใจ บางครั้งเราก็ควรจมีผู้ที่ให้คำปรึกษาเพื่อมองในมุมที่แตกต่างจากเรา เพราะบางครั้งในการตัดสินใจของตัวเรา เราก็นำอารมณ์เข้ามาตัดสินด้วย และตัดสินจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเราเพียงคนเดียว ซึ่งถ้าเป็นการตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ อย่างการลงทุนหลักล้าน เราก็ควรจะมีผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า หรือคนที่ไม่ได้อยู่ในเกมกระดานเดียวกันมาช่วยชี้แนะและปรึกษา เพราะเคยมีคำกล่าวประมาณว่า “คนที่อยู่ในเกม มันมองกระดานไม่ออกหรอก” เพราะงั้นเราเลยจึงควรถามคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างจากเรา เพื่อหาความเห็นที่แตกต่าง นำมาประกอบการตัดสินใจของเรา
#9 | สุขภาพกาย และสุขภาพใจ
ในชีวิตอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด นั้นก็คือสุขภาพของตัวเราไงมีเงินเท่าไรก็ไม่สามารถซื้อได้หรอกนะ แล้วสุขภาพที่ดีมันแปลผกผันกับอายุซะด้วยสิ แล้วยิ่งเป็นวัย 30 เป็นวัยที่ร่างกายเริ่มต้นเข้าสู่การถดถอยแล้ว เพราะฉะนั้นเราควรไม่ลืมที่จะใส่ใจในสุขภาพทั้งกาย และใจ เพราะสุขภาพใจที่ดี ก็จะทำมาซึ่งสุขภาพใจที่ดี ในทางกลับกันสุขภาพกายที่ดี ก็ทำพาสุขภาพใจที่ดีเช่นกัน ฉะนั้นเราควรที่จะประคองทั้งสองส่วนนี้ให้ได้อย่างสมดุล เพื่อมีชีวิตไว้ทำทั้ง 8 ข้อก่อนหน้า เพื่อมีชีวิตที่ยืนยาว เงินเงินใช้อย่างมีความสุข
#10 | เตรียมเวลาให้กับตัวเอง
เหตุการณ์ทั้ง 9 อย่างก่อนหน้ามันก็ทำให้ตัวเราดูวุ่นๆซะหน่อย แต่การพักผ่อนมันเป็นเรื่องดีนะ การได้อยู่กับตัวเองคุยกับตัวเอง ถามว่าตอนนี้เรามีความสุขไหมกับงานที่ทำ เราเหนื่อยไปรึป่าว อ้วนไปไหม หรือผอมเกินไป มานั่งครุ่นคิดกับตัวเอง คนที่ผ่านไปจากชีวิต คนใหม่ๆที่เขามาในชีวิต ทำไมคนที่จากไปเขาถึงจากไป ตัวเราไม่ดีจริงๆ หรือเป็นตัวเขากันแน่ที่ไม่ดี แล้วคนที่เข้ามาใหม่ จะเข้ากับเราได้จริงๆหรอ เราควรแก้ไขปรับปรุงตัวตรงไหน เราว่าการได้คุยกับตัวเองหาคำตอบในชีวิตกับตัวเอง การได้มีเวลานั้นมันสำคัญมากๆ ช่วงเวลาที่เราได้สงบจิตใจ ย้อนคิดสิ่งที่ผ่านไป มองสิ่งที่จะเกิดในอนาคต เรียกได้ว่าข้อนี้เป็นการวางแผนสำหรับ 9 ข้อทั้งหมดที่ผ่านมาก็ได้