Type to search

Hang out & Travel Lifestyle

แนะนำ 6 ทริปหน้าหนาวบรรยากาศดี จาก 6 บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวเพจดัง

Share

เข้าสู่เดือนธันวาคมที่นอกจากจะเป็นเดือนแห่งการส่งท้ายปีเก่าแล้ว ยังเป็นเดือนแห่งการท่องเที่ยว ออกไปรีเฟรช ชาร์จพลังชีวิตให้พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย

วันนี้ Mover เลยขอพาคุณไปรู้จักกับ 6 บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวจากเพจดัง ที่จะมาร่วมแนะนำ 6 ทริปท่องเที่ยวหน้าหนาวกับ 6 สไตล์เฉพาะตัว ทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมมุมมองผ่านภาพสวย ๆ ที่จะทำให้คุณอยากออกไปตามรอย

 

 #1 ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย 

By: Nonstop Journey / เที่ยวไม่หยุด ฉุดไม่อยู่

พูดถึงหน้าหนาวเมืองไทย ดอยบ้านเราก็ถือว่าตอบโจทย์และครองใจสายเที่ยวธรรมชาติให้ได้ขึ้นเหนือกันทุกปี ขึ้นดอยไปแล้วนอกจากจะซึมซับออกซิเจนให้สุดปอดและปาร์ตี้หมูกะทะกลางอากาศหนาวแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือวิว “ทะเลหมอก” ที่เป็นเหมือนหัวใจของทริปเลย ซึ่งครั้งนี้ “ต้อง” บล็อกเกอร์และนักเที่ยวขาลุยแห่งเพจ Nonstop Journey / เที่ยวไม่หยุด ฉุดไม่อยู่สุด ก็ได้แนะนำให้เราไปชม สุดยอดวิวทะเลหมอก ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย ความงามของธรรมชาติที่เป็นรางวัลของคนตื่นเช้า ซึ่งต้องเล่าว่า “เราเดินขึ้นมาถึงเนิน 103 ก็หกโมงเช้าพอดี หินผารูปร่างแหลมคมตั้งตระหง่าน ส่วนเบื้องล่างก็เป็นทะเลภูเขากับอภิมหาทะเลหมอกแบบพาโนราม่า ทุกอย่างมันหยุดนิ่ง พร้อมกับดวงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ โผล่พ้นขอบฟ้า เป็นภาพที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยล่ะ”

วิวทะเลหมอกแบบพาโนราม่า

พระอาทิตย์ค่อย ๆ ขึ้นแล้ว

ช่วงเช้าที่ดาวยังเต็มฟ้า มุ่งหน้าสู่เนิน 103

และอีกอย่างที่พลาดไม่ได้ก็คือ “ช่องผาขาด” ทางของช่างภาพโดยเฉพาะ เพราะเป็นช่องเขาที่สามารถมองทะลุไปเห็นแม่น้ำโขงและทะเลหมอกได้เลย

“เขาว่าการจะถ่ายภาพวิวให้สวยนั้น ธรรมชาติคือผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนอุปกรณ์และไอเดียผู้ถ่าย เป็นแค่ส่วนเติมเต็มให้ภาพเกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเท่านั้น”

 #2 น่าน 

By: เที่ยวก่อนตาย Buckets list TH

“หนึ่งเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้เชียงใหม่ ยิ่งในเรื่องของธรรมชาติจากที่ผมไปมามั่นใจเลยว่าไม่แพ้เชียงใหม่แน่นอน” ช่วงปลายฝนต้นหนาวที่ทุกคนในแดนสยามแต่งมุ่งหนาวขึ้นเหนือ จังหวัดที่มาแรงแซงทุกโค้งความนิยมก็หนีไม่พ้นจังหวัดน่าน เงียบสงบ ให้ธรรมชาติสยบทุกความเคลื่อนไหว แทนจะไปอัดกันอยู่ในเชียงใหม่ เรามาให้ธรรมชาติโอบกอดกันที่น่านดีกว่าครับ ซึ่ง Buckets list TH ก็แนะนำทริปเที่ยวน่านไว้แบบถึงแก่น ในระยะเวลาแค่ 3 วัน 2 คืน แบบที่ยังตายไม่ได้ถ้าไปไม่ถึงน่าน เฮ้ย มันเป็นไปได้หรอ?!

บ้านสะจุกสะเกี้ยง

ดาวเต็มฟ้าที่บ้านสะจุกสะเกี้ยง

เรียกได้ว่าถ้าตามรอยทริปนี้จะเก็บไฮไลท์และ unseen ของน่านได้ใน 3 วัน 2 คืนเลย เริ่มตั้งแต่ล่องแก่งลำน้ำว้าสุดมันส์แถมโปรอีกเพียบ – บ้านสะจุกสะเกี้ยง โครงการสถานีพัฒนาเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ธรรมชาติร้อยล้าน กลางคืนดาวเต็มฟ้า ตื่นเช้าพร้อมวิวไร่ชาและภูเขา ที่พักดีราคาไม่แพงอยู่นี่แล้วครับ – โรงเรียนชาวนา ต.ศิลาเพชร อ.ปัว ที่ได้รับการรีวิวว่าพีคในพีค บ้านกลางทุ่งนาที่ให้ความรู้สึกราวกับ “โดนธรรมชาติสะกดจิตไปแล้ว”

โรงเรียนชาวนา

กาแฟบ้านไทลื้อ

กาแฟบ้านไทลื้อ อ.ปัว ร้านกาแฟสุดชิลล์กลางทุ่งนาและภูเขา กาแฟหลัก 10 วิว (และรูปที่ถ่ายไป) หลักล้าน – วังศิลาแลง “แกรนด์แคนยอนเมืองปัว” –  วัดศรีมงคล(วัดบ้านก๋ง) วัดพร้อมวิวที่นาสุดลูกหูลูกตา – จุดชมวิวดอยภูคา ภูเขาหัวเขียวพร้อมทะเลหมอกมินิมอล – และธรรมชาติข้างทางที่ต้องจอดรถกันแบบนัดครั้งไม่ถ้วนเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นทริปชาร์จพลังด้วยธรรมชาติที่แท้จริงครับ

 

 #3 เวียงจันทน์-วังเวียง ลาว 

By: Go Went Go : เที่ยว เว้น เที่ยว

ทริปนี้ออกเดินทางสู่ประเทศเพื่อนบ้านกันบ้าง กับเส้นทางคู่ขวัญแห่งประเทศลาว “เวียงจันทน์ – วังเวียง” กับการเที่ยวแบบครบรสของแก๊งค์ Go Went Go ที่คราวนี้จะมาเที่ยวแบบจัดเต็ม แต่สไตล์ชิลล์ ๆ สโลว์ไลฟ์กัน เริ่มต้นทริปกันที่นครหลวงเวียงจันทน์ จัดไปคืนแรกฟิน ๆ ทั้งโรงแรม ที่กิน ที่ดื่ม และที่เที่ยว

ประตูไซ

Walking Street ในเวียงจันทน์

ต่อกันที่วังเวียงด้วยระยะทางที่ไม่ไกลนัก แต่อาจจะถึงช้าหน่อยเพราะถนนไม่ค่อยดีและเป็นทางบนภูเขาครึ่งหนึ่ง ใครที่เมารถต้องไม่ลืมพกยาดมไปด้วย ซึ่งหลังจากถึงที่หมายแล้ว ที่นอนคืนที่ 2 ก็คือ “ริเวอร์วิว บังกะโล” เห็นวิวแม่น้ำซอง ที่เที่ยวยอดฮิต และใครใคร่จะแช่น้ำชิลล์ ๆ เย็นชื่นใจ ที่นี่ก็มีบ่อน้ำธรรมชาติสะอาดใสให้ได้ลงเล่น หลังจากเที่ยวธรรมชาติจนหนำใจก็กลับมาที่พัก ซึ่ง Go Went Go ก็ได้รีวิวไว้ว่า “บรรยากาศตอนเย็น ๆ พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินทำให้ผมหลงรักที่นี่เลยครับ”

สะพานส้มตัดผ่านไปยังถ้ำจัง

วิวแม่น้ำซองหลังพระอาทิตย์ตกดิน จาก ริเวอร์วิว บังกาโล

หลังจากตื่นเช้ามาเจอหมอกและภูเขา สูดอากาศดี ๆ ให้ชุ่มปอดแล้ว Go Went Go ก็มุ่งหน้าสู่ บูลลากูน สวนน้ำธรรมชาติกิจกรรมแน่น และมุ่งตรงไปที่ถ้ำน้ำ ทางเดินเข้าถ้ำสวย จะชมหินงอกหินย้อยในถ้ำก็ต้อง “สวมไฟฉายไว้ที่หัว จับเชือกที่ยึดไว้ตามผนังถ้ำลอยเข้าไปเรื่อย ๆ” เมื่อออกจากถ้ำแล้ว ป้ายสุดท้ายก็คือการพายเรือคายัก ล่องแม่น้ำซอง แค่ฟังก็ฟินแล้วครับ

จุดถ่ายรูปเด็ด โรงแรมเวียงทารา

โรงแรม “เวียงทารา” คืนที่ 3 จัดว่าน่าประทับใจมากครับ “ที่นี่มีจุดถ่ายรูปสวยๆที่ใครมาก็ต้องถ่าย คือ ทางเดินหน้ากระท่อมที่พัก ที่ตัดผ่ากลางทุ่งนา แนะนำให้มาหน้าฝน หรือหน้าหนาวจะถ่ายรูปสวยมากก” และปิดท้ายด้วยโรงแรมริมโขงที่เวียงจันทน์ในคืนที่ 4 ก่อนเดินทางกลับ เที่ยวลาวทริปนี้สุขใจได้ตั้งแต่ในโรงแรมเลย ใครได้ไปตามรอยทริปนี้ เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวแบบชิลล์ ๆ ไม่เอิกเกริกนัก แต่ความประทับใจเต็มกระเป๋าแน่นอน

 #4 เชียงใหม่… 

…หนาวไม่นาน จะไปต้องรีบ !! ขับรถตู้เก่าๆ เปิดเพลงเหงาๆ ไปนอน Camp 

By: Surfer’s Holiday

เชียงใหม่ที่ผ่านมาของหลาย ๆ คนอาจเป็นการเดินเล่นนิมมานแล้วจบที่ Warm up ทุกคืน หรือการขึ้นยอดดอยไปนอนเตนท์แล้วตื่นเช้ามาชมทะเลหลอก ซึ่งถ้าพูดถึงการนอนเตนท์อารมณ์ camping แล้ว เราก็เหมือนถูกลิมิตความคิดให้ขลุกตัวอยู่แต่บนดอยทุกครั้งไป… จนกระทั่ง “ต๊ะ” แห่งเพจ Surfer’s Holiday ผู้รักในแสงแดดและฤดูร้อน มาเบิ่งเนตรให้เห็นเชียงใหม่แนวใหม่ ให้เรารู้ว่าเชียงใหม่มันมีที่พักแบบเตนท์ที่ไม่ธรรมดา กับบรรยากาศตีนดอยที่ก็ไม่ธรรมดาอีกนั่นแหละ!

เตนท์สีขาวสะอาดตาน่าอยู่

บริเวณกางเตนท์

หลังจากเดินทางไปบ้านปงเข้าสู่จุดชมวิวสะเมิง ดื่มดำกับธรรมชาติสองข้างทางและ ณ ที่หมายแล้ว ต๊ะกับเพื่อนก็เลื่อนมือถือไปเจอ CAMP Chiang Mai ที่พักแบบเตนท์ที่ราคาไม่แพง ก็ตัดสินใจจองเลยทันที เป็นที่มาขุมทรัพย์ที่พักที่เราขอนิยามให้เห็นภาพว่า Minimal luxury เตนท์ดูดี ส่วนตัว วิวดี ใกล้ชิดธรรมชาติ และมีบรรยากาศแบบ camping community ตกเย็นปิ้งบาร์บีคิวกิน ถึงอากาศหนาวแต่ก็รู้สึกอบอุ่น เชื่อว่านี่อาจเป็นทริปเชียงใหม่แนวใหม่ในฝันเก่าของใครหลายคน เหมาะจะไปพักผ่อนอย่างแท้จริง!

บรรยากาศตอนกลางคืน

พื้นที่ส่วนรวม ทานอาหาร นั่งคุยกัน รู้จักคนใหม่ๆ

ซึ่งต๊ะก็ได้สรุปไว้ว่า “ที่พักต้องบอกว่าเป็นสไตล์ Camping ซึ่งยังมีน้อยมากๆในประเทศไทย Camp Chiangmai ตั้งอยู่ในจุดที่น่าสนใจ สามารถเดินทางไปเที่ยวที่อื่นๆได้ง่าย Highlight ต้องบอกว่าอากาศดี, ที่พักสวย เหมาะแก่การถ่ายรูป, เตนท์สะอาด อุปกรณ์ที่นอนเยี่ยม อีกอย่างที่เจ๋งมากๆคือ Dinner บรรยากาศทำให้เราสนุกๆ ฟิลเหมือนมีกิจกรรมร่วมกัน ทำอาหาร นั่งคุยกัน บรรยากาศดีมากๆ , พนักงานโอเค”

แช่น้ำฟิน ๆ กลางแจ้ง

 #5 ดานัง-เว้-ฮอยอัน เวียดนาม 

By: ABOVE THE MARS

ทริปนี้แนะนำโดยนักเที่ยวสาวหนึ่งเดียวของคอนเทนท์นี้ “อีฟ มาริษา” จากเพจ Above the Mars ที่จะพาเราไปเปิดมุมมองใหม่เมืองดานัง-เว้-ฮอยอัน เวียดนาม ที่เธอนิยามเอาไว้ว่าเป็น “สามเมืองในเวียดนามกลางที่รวมความหลากหลายเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอายแบบตะวันตก มรดกทางวัฒนธรรมของโลก ไปจนถึงวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบเรียบง่ายของผู้คนที่นี่ ทำให้เราหลงเสน่ห์เวียดนามได้อย่างไม่ยากเย็น”

Bana Hills

ดานัง – หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว อีฟก็เริ่มออกเที่ยวทันที “สิ่งสะดุดตาสะดุดใจทำให้เราอยากมาดานังคือภาพยอดเขาสูง ที่มีสิ่งปลูกสร้างคล้ายปราสาท เรียกว่า Bana Hills” เธอนั่งกระเช้าผ่านกลุ่มหมอกขาวและน้ำตกสายใหญ่ เมื่อถึงด้านบนก็ได้พบกับอากาศเย็นและวิวเมืองฟอเรนท์ในยุโรป ทั้งที่อยู่แค่เวียดนามนี่เอง

เว้

เว้ – “เว้เป็นเมืองหลวงเก่าของเวียดนาม เป็นเมืองมรดกโลก มีทั้งสถาปัตยกรรมโบราณที่อายุหลายร้อยปี ปราสาท ป้อมปราการ สุสานของจักรพรรดิและแม่น้ำหอม แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านกลางเมืองนำความมีชีวิตชีวา ความอุดมสมบรูณ์มายังเมืองเว้ ตั้งแต่สมัยอดีตจวบจนถึงทุกวันนี้” อีฟถ่ายทอดความเป็นเว้ออกมาได้ตราตรึงใจมากจริงๆครับ เป็นเมืองที่ถ่ายรูปสนุก ที่มนุษย์กล้องไม่ควรพลาด

ล่องเรือกะตัก

ฮอยอัน – เมืองที่อีฟเห็นด้วยทันทีกับคำพูดที่ว่าถ้ามาเวียดนามต้องไปฮอยอัน เมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบนที่รวมเสน่ห์วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่หลากหลายของผู้อาศัยหลากเชื้อชาติ และกิจกรรมที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือการล่อง “เรือกระตัง” สัมผัสวิถีชีวิตที่อยู่คู่กับสายน้ำของคนที่นี่

ฮอยอันยามค่ำคืน

แสงโคมทั่วเมือง เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า

 #6 ฮอกไกโด ญี่ปุ่น 

By: HashCorner

ขึ้นชื่อว่าหน้าหนาวก็ต้องไป ฮอกไกโด เกาะเหนือสุดของดินแดนที่เรียกได้ว่ายอดฮิต แถมเที่ยวได้ทั้งปีไม่มีเบื่อ “ก็อต” นักเที่ยวอารมณ์ดีจากเพจ HashCorner ก็เป็นอีกคนที่ขอยกฮอกไกโดให้เป็นทริปสุดฟินสิ้นปี กับความหนาวสะท้านสะใจแบบที่หาที่ไทยยังไงก็ไม่ได้ฟีลแบบนี้ จนถึงขนาดต้องบอกว่า คนที่ไม่เคยเห็นอุณหภูมิติดลบพร้อมปุยหิมะสีขาวหนา ๆ จะต้องเอียนและร้องขออากาศร้อน ๆ แบบเมืองไทยแน่นอน ตามแพลนของก็อต ทริปนี้ใช้เวลาแค่ 11 วันก็เที่ยวได้ครบถึง 7 เมืองดัง งานนี้ลุยกันทั้งทางรถ รถไฟ เรือ เป็นประสบการณ์ที่ขาลุยพลาดไม่ได้จริง ๆ

เมืองบิเอะ: ถนนที่ขับก็จะมีน้ำแข็งเกราะเลยล่ะ มันจะขับยากก็ตรงนี้ แต่อย่างที่บอก ถ้าเราขับไม่เร็ว และมีสติ ไปรอดปลอดภัย

“การที่เราขับรถไปเรื่อยๆ เจออะไรน่าสนใจก็ลง และนี่คือตู้น้ำที่ตั้งกลางหิมะโล้นๆโคตรคูลลลลลลลล 555555”

“มันคือน้ำแข็งขั้วโลกที่ลอยลงมาอยู่เหนือเมืองอะบาชิริ บางอันแผ่นหนาและใหญ่มาก แถมโคตรหนาว ลมแรงจนตัวแข็งเลยจริงๆ”

“จากนั้นก็นั่งรถไฟ Ryohyo Monogatari Train ดูวิวชายฝั่งฮอกไกโดตอนเหนือ รถไฟขบวนนี้มีเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้นด้วย ห้ามพลาด”

ซึ่งเกาะฮอกไกโดนี้สามารถมาได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม – มีนาคมเลนครับ แต่ถ้าอยากสัมผัสความแฟนเดย์ก็แนะนำให้ไปช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ชมเทศกาลหิมะ Sapporo Snow Festival หนาวจริง หนาวนาน ตอกย้ำความเหนือสุดของเกาะนี้เข้าไปอีก

จบไปแล้วกับ ทริปหน้าหนาว บรรยากาศดี ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างแตกต่าง ผ่านมุมมองและเลนส์กล้องของทั้ง 6 บล็อกเกอร์จาก 6 เพจดัง รับรองว่าตามรอยแล้วจะได้ความประทับใจกลับบ้านมาแน่นอนครับ กดติดตามและร่วมเดินทางไปกับพวกเค้าได้ ในลิงค์เพจที่แนบไว้ด้านบนเลยครับ

“Traveling – it leaves you speechless, then turns you into a storyteller.” – Ibn Battuta

“การออกเดินทางท่องเที่ยว – พูดไม่ออกขณะที่คุณได้สัมผัส แต่หลังจากนั้นคุณจะกลับมาถ่ายทอดเรื่องราวนับล้าน”

 


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงานเพจ Mover

mover.in.th@gmail.com


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com
Tags