‘วิลล์ สมิธ’ สุภาพบุรุษตลอดกาล พระเอกแถวหน้าของฮอลลีวูด
Share
“วิลล์ สมิธ เข้าวงการครั้งแรกในปี 1986”
- ปัจจุบัน วิลล์ สมิธ อายุ 51 ปี
- Instagram ของวิลล์ สมิธ คือ @willsmith
- วิลล์ สมิธ มีลูก 3 คน ประกอบไปด้วยลูกชาย 2 คน เจเด้น สมิธ, เทรย์ สมิธ และลูกสาว 1 คน วิลโลว์ สมิธ
ในหมู่นักแสดงผิวสีที่ได้รับบทตัวเอกในบทบาทต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะบทตัวนำ อย่างบทพระเอก ฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรม หรืออื่นๆ ที่เป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง “วิลล์ สมิธ” ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เราคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันต่อให้เขาจะมีอายุขึ้นเลข 5 ไปแล้ว เราก็ยังเห็นพระเอกผิวสีคนนี้มีผลงานออกมาให้เราได้รับชมกันอยู่แทบทุกปี อย่างปี 2019 นี้เอง เราก็น่าจะได้เห็นเขาในบทบาทของ “จินนี่” ในเรื่อง Aladdin ไปแล้ว
โดยในวันที่ 14 พฤศจิกายน เราได้เห็น ‘วิลล์ สมิธ’ ในบทบาทใหม่อีกครั้ง ในหนังแนวแอ็คชั่นทริลเลอร์สุดล้ำ เรื่อง ‘Gemini Man’ หนังเรื่องใหม่ล่าสุดจากการกำกับของ ‘อั้งลี่’ โดยในเรื่องนี้ วิลล์ จะได้รับบทเป็น ‘เฮนรี่ โบรแกน’ นักฆ่าฝีมือฉกาจซึ่งกลายเป็นเป้าหมาย และถูกไล่ล่าโดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับที่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของเขาได้ทุกฝีก้าว โดยความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือเราจะได้เห็น วิลล์ 2 คนในวัยหนุ่ม (23 ปี) และวัยปัจจุบัน (51 ปี) พร้อมๆ กัน !!
ประวัติของ “วิลล์ สมิธ”
วิลล์ สมิธ มีชื่อจริงชื่อเต็มๆ ว่า ‘วิลเลี่ยม ซี สมิธ จูเนียร์’ และมีชื่อเล่นว่า ‘เฟรชพรินซ์’ เพราะเด็กๆ เขาใช้เสน่ห์เอาตัวรอดเก่ง จนคุณครูของเขาเรียกเขาว่า ‘เดอะ พรินซ์’ พอโต วิลล์จึงเติมคำว่า ‘เฟรช’ เข้าไป วิลล์เกิดวันที่ 25 กันยายน 1968 ที่ฟิลาเดลเฟีย เขามีแม่เป็นกรรมการโรงเรียน และมีพ่อเป็นเจ้าของบริษัทตู้เย็น วิลล์เข้าวงการครั้งแรกในปี 1986 รับบทในภาพยนตร์เรื่อง The Imagemaker เขาเคยแต่งงาน 2 ครั้ง ครั้งแรกกับ เชรี แซมปีโน่ และครั้งที่ 2 กับ เจด้า พิงเค็ต ซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบันของเขา
นอกจากงานในวงการบันเทิง ซึ่งมีผลงานตั้งแต่ภาพยนตร์ และซีรีส์ต่างๆ มากมายแล้ว เขายังเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง และมีผลงานเพลงแนว Hip Hop ออกมาอีกด้วย ซึ่งถ้าพูดว่าผลงานภาพยนตร์ของเขาเจิดจรัสที่สุดแล้ว ผลงานเพลงของเขาก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน วิลล์ ออกผลงานเพลงชุดแรกตั้งแต่เขาเรียนอยู่ไฮสคูลปีสุดท้าย ก่อนที่ต่อมาเขาจะก้าวเข้าสู่วงการแร็พร่วมกับ ดีเจ แจซซี่ เพื่อนของเขา และออกผลงานเพลงอัลบั้มแพล็ตตินั่มออกมาหลายชุด เคยรับ 2 รางวัลแกรมมี่ และ 3 รางวัลอเมริกัน มิวสิค อวอร์ดมาแล้ว
อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของ วิลล์ มีชื่อว่า Big Willie Style ทำยอดขายได้มากถึง 8,000,000 ชุด และอัลบั้ม Willennium ของเขาก็ทำยอดขายไปได้มากถึง 2,000,000 ชุดด้วยกัน
ในวัย 18 ปี วิลล์ค่อนข้างมีหนี้สินรุงรัง เพราะใช้เงินอย่างไม่ยั้งมือ แต่ก็โชคดีได้ เบนนี่ เมดินา แห่ง วอร์เนอร์ บราเดอร์ส ดึงเขาไปเล่นซีรีส์เรื่อง The Fresh Prince of Bel Air ซึ่งออกอากาศอยู่ในทีวียาวนานถึง 6 ปี หลังจากนั้น วิลล์ก็ได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์อย่างเต็มตัวๆ เขาประสบความสำเร็จในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะ Bad Boys ในปี 1995, Independence Day ในปี 1996, Men in Blacks ในปี 1997 (จุดเริ่มต้นของอัลบั้มเดี่ยว Big Willie Style), The Legend of Bagger Vance ในปี 2000 น่าจะทำให้เราจดจำวิลล์ได้มากขึ้น และมากยิ่งขึ้นในบท มูฮัมมัด อารี ในเรื่อง Ali ในปี 2001 ซึ่งเป็นบทที่วิลล์บอกว่าเป็นบทบาทที่ยากที่สุดในชีวิตการเป็นนักแสดงของเขา แต่ความอุตสาหะ ก็ทำให้เขาได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก
สำหรับหนุ่มวัยวัยทำงาน อาจรู้จักวิลล์จากภาพยนตร์เรื่องแรก ก็คือ Men in Blacks ก่อนจะมาตามผลงานของเขาต่อในเรื่อง Bad Boys และก็ติดตามผลงานของวิลล์มาตลอด อย่างเรื่อง I Am Legend ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานยอดเยี่ยม ที่หลายคนเอาขึ้นหิ้งไปเรียบร้อยแล้ว
“วิลล์ สมิธ” สุภาพบุรุษแห่งวงการฮอลลีวูด
วิลล์ สมิธ ถือเป็นนักแสดงที่ได้รับความชื่นชอบในหมู่เพื่อนักแสดงด้วยกัน รวมไปถึงเหล่าทีมงานทุกระดับ เขาเป็นคนที่มีบุคลิกอันมีเสน่ห์น่าประทับใจ เขาทำให้ทุกสถานที่ที่มีเขาอยู่ กลายเป็นสถานที่ทำงานที่สนุก และมีความสุขมาก อาจจะเพราะว่า วิลล์ แม้จะเป็นดาราผู้มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว แต่ก็ไม่เคยวางมาดอยู่สูงกว่าคนอื่น เขามักเปิดเผย และมีภาพฮาๆ ของเขาปล่อยออกมาให้เราเห็นอยู่เต็มไปหมด ซึ่งตัววิลล์เองก็ให้สัมภาษณ์ว่า เขาชอบหัวเราะกับภาพฮาๆ ของตัวเองมาก
นอกจากนี้ วิลล์ยังเป็นคนที่คุยเก่ง และเก่งมากๆ กับการพูดคุยกับกลุ่มคนจำนวนมาก เขามีความสามารถให้คนรอบตัวเขา สนใจเขาได้ เขามักหัวเราะเรื่องตลกของตนเอง และตื่นเต้นทุกครั้ง ที่จะได้สัมภาษณ์ หรือพูดคุยกับเหล่าแฟนๆ ของเขา ซึ่งเขาพร้อมมอบความสุขกับเหล่าแฟนคลับของเขาอย่างเต็มที่ วิลล์เป็นคนรักเด็ก อย่างในงานรอบปฐมทัศน์ของ Aladdin แม้เขาจะมีเวลาไม่เยอะ แต่เขาก็เดินไปเล่นกับเด็กๆ ที่ยืนรอเขาอยู่ อย่างเป็นกันเอง
อย่าลืมนะปัจจุบันเขามีลูกอยู่ถึง 3 คน และทั้ง 3 คนก็โตมาเป็นเด็กที่เก่ง และดี ดังนั้นเขาจึงถูกยกย่องว่าเป็น “พ่อที่ดีแห่งวงการฮอลลีวูด” โดยเฉพาะการพาลูกๆ และภรรยาของเขามาแสดงภาพยนตร์ร่วมกับเขาหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะในเรื่อง I Am Legend, The Pursuit of Happyness และ After Earth เป็นต้น
