Vivo เปิดตัวสมาร์ทโฟนสุดล้ำในซีรีส์ V15 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย V15 Series ตัวนี้ถือเป็นโมเดลรุ่นแรกนอกเหนือจากรุ่น NEX ที่หยิบนวัตกรรมกล้องหน้าแบบเลื่อนอัตโนมัติหรือกล้องป๊อปอัพ ซึ่ง Vivo เป็นเจ้าแรกที่พัฒนาและคิดค้นขึ้นมา พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI อัพเกรดใหม่ และจะมีอะไรเด็ด ๆ สำหรับรุ่นนี้บ้าง เราขอพามาดูเครื่องจริงพร้อมสเปคกันเลย
Vivo ได้ออกสมาร์ทโฟน V Series อย่าง V15 Series รุ่นใหม่มาสองตัวด้วยกัน ได้แก่ V15 และ V15 Pro ขอบอกว่ามาในราคาที่จับต้องได้และเทคโนโลยีล้ำ ๆ แบบอัดแน่นที่ปกติจะได้รับสเปคนี้แค่ในสมาร์ทโฟนตัวพรีเมียมเท่านั้น ก่อนจะพาไปดูความตื่นเต้นต่าง ๆ นานาของสมาร์ทโฟนตัวนี้ เรามีพรีวิวตัวเครื่องภายนอกให้ดูก่อน
สำหรับ V15 Series ที่เราได้มารีวิวตัวนี้เป็น Vivo V15Pro สีแดง Coral Red ราคา 14,999 บาท
จริง ๆ มีให้เลือกทั้งหมดสองสี อีกสีหนึ่งคือสีน้ำเงิน Topaz Blue โดยเป็นสมาร์ทโฟนไร้ขอบไร้ติ่ง มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Ultra Fullview Display ด้วยเทคโนโลยี Super AMOLED
AI Triple Camera & Pop-up Front Camera
ถ่ายภาพได้คมชัดและได้มุมมองที่กว้างมากขึ้น ด้วย AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัวที่ถ่ายภาพโปรมากยิ่งขึ้น โดยกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย
- Dept Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- Super Wide-Angle Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหลักความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล
กล้องทั้ง 3 ตัวจะรวมความอัจฉริยะในการถ่ายภาพโดยเทคโนโลยี 4 อิน 1 ที่ถ่ายภาพได้กว้างถึง 120 องศาไปเลย
ความพิเศษของ V15 Series ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะนอกจากฮาร์ดแวร์ที่ทรงคุณภาพของ V15Pro ซึ่งผนวกเข้ากับเทคโนโลยี AI จนทำให้การถ่ายภาพอย่างมืออาชีพเป็นเรื่องง่ายดาย V15Pro ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก V11
Camera Mode
ยังมีลูกเล่น AI ล้ำ ๆ ด้านการถ่ายภาพอีกมากมายอย่างหมวด AI Face Beauty ปรับแต่งรูปหน้าให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกว่าเดิม และ AI Portrait Framing ที่ช่วยจัดองค์ประกอบภาพให้ดูโดดเด่น ตลอดจน AI Super Night Mode ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการถ่ายภาพในที่มืดและภาพสั่น ได้อย่างคมชัดโดยไม่ต้องง้อขากล้องและกล้อง DSLR เพราะ AI Super Night Mode ของ V15Pro สามารถถ่ายภาพรัว ๆ ได้ในทุกสถานการณ์อย่างคมชัดและสว่างสดใส
ส่วนอีกหนึ่งความน่าตื่นเต้นของนวัตกรรมการถ่ายภาพสุดล้ำของ V15Pro คือฟีเจอร์ AI Body Shaping ที่ผู้ใช้งาน สามารถปรับแต่งรูปร่างทุกสัดส่วนของร่างกาย อย่างเอว สะโพก และรูปขา ให้ออกมาสวยงามไร้ที่ติอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่านแอพพลิเคชั่นใดๆเพิ่มเติม
รีวิวภาพจากกล้อง Vivo V15Pro ตัวนี้ให้ดูสักหน่อย ภาพแรกเป็นภาพถ่ายจากเลนส์ปกติของกล้อง ส่วนภาพที่สองเป็นเลนส์ไวด์ (Wide)
ภาพถัดมาเป็นฟิลเตอร์สีจากเครื่องและประสิทธิภาพในการถ่าย Night Mode
Unlock by Fingerprint
นวัตกรรมล้ำสมัยที่นำไปสู่ความงดงามของหน้าจอไร้ขอบที่แท้จริงของ V15 Series นั้น เป็นเพราะทาง Vivo ได้พัฒนาเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอย่างประสบความสำเร็จมาเป็นรุ่นที่ 5 แล้ว และด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นของพิกเซลสแกนลายนิ้วมือบวกกับระบบอัลกอริทึมที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้งาน สามารถปลดล็อกโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้อย่างปลอดภัย และเนื่องจาก V15Pro เป็นสมาร์ทโฟนไร้แพดสแกนนิ้ว ทำให้บอดี้ด้านหลังของ V15Pro มีสีสันที่สวยสะดุดตาไร้รอยต่อด้วยสี Topaz Blue และสี Coral Red ที่เมื่อสะท้อนแสงแล้ว ทำให้เห็นเงาวิบวับสวยงามในหลากหลายมิติ เรียกได้ว่าเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ถือเป็นการเติมเต็มนวัตกรรมแห่งอนาคตของ V15Pro ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีก
Jovi Image Recognizer
การใช้งาน Jovi นั้นง่ายและรวดเร็วเพียงปลายนิ้ว เพียงแค่ผู้ใช้งานกดปุ่ม Smart Button ที่อยู่ด้านข้างของ V15Pro โดยเริ่มจากการเปิดใช้งาน Google Assistant และเรียก Jovi Image Recognizer ให้เริ่มทำงาน เพียงเท่านี้ Jovi ผู้แสนชาญฉลาดก็จะถูกปลุกขึ้นมาช่วยเหลือผู้ใช้งาน และที่พิเศษสุดๆคือทาง Vivo ยังได้พัฒนานวัตกรรมจดจำรูปภาพร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง Google ทำให้ V15Pro มีเสียงสั่งการที่ปรับเปลี่ยนได้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งใช้งาน AI Face Beauty สั่งเคลียร์เมมโทรศัพท์ หรือสั่งค้นหารูปภาพอาหารในโทรศัพท์ของคุณ เพียงแค่มอบคำสั่ง V15Pro ก็จะตอบรับคำสั่งอย่างรวดเร็วทันใจ
Vivo V15Pro เปิดให้ Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 1-8 มีนาคม 2562 และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็น ทางการในวันที่ 9 มีนาคม 2562 โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Topaz Blue ( น้ำเงิน–ฟ้า ) , Coral Red ( แดง–ส้ม ) และ Vivo V15 เปิดให้ Pre-order ตั้งแต่วันที่ 16 – 27 มีนาคม 2562 จะวางจำหน่ายในวันที่ 28 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Topaz Blue ( น้ำเงิน–ฟ้า ) , Glamour Red ( แดง )