กล้อง Mirrorless หรือชื่อเต็มๆ Mirrorless Interchangeable Lens Camera พูดกันง่ายๆ ก็คือ กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ชนิดที่ไม่มีกระจกสะท้อนภาพ ซึ่งจะต่างกับกล้อง DSLR หรือที่ชอบเรียกกันว่า กล้องโปร ที่จะมีกระจกสะท้อนภาพจากเลนส์ขึ้นไปยังช่องมองภาพ ( กล้อง Mirrorless จะแสดงภาพเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์แทน )
โดยข้อดีของการที่ไม่มีกระจกแบบนี้ก็คือทำให้กล้องมีขนาดเล็กลง สามารถพกพาได้บ่อยและสะดวกขึ้น แต่ในเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานนั้นบางตัวบอกเลยว่าไม่แพ้กล้อง DSLR ใหญ่ๆ แถมยังใช้งานง่าย เหมาะมากกับมือใหม่ หรือมือโปรที่ไม่ต้องการเซ็ตกล้องมากมาย เน้นใช้งานง่าย ได้รูปที่มีคุณภาพสวยถูกใจ ง่ายต่อการพกพา ตัวกล้องต้องมีดีไซน์สวยงาม และที่สำคัญสามารถเชื่อมต่อและแชร์รูปภาพไปยังโซเชี่ยลมีเดียร์ได้สะดวกรวดเร็ว
1.
SONY A6000
สำหรับคนที่ต้องการความจริงจังและโปรเฟสชั่นนอลขึ้น แนะนำเป็นตัวนี้ แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูเล็ก กะทัดรัด แต่ก็เล็กพริกขี้หนู ด้วยคุณสมบัติอัดแน่นชนิดเทียบชั้นกล้อง DSLR ได้ ความละเอียดตัวกล้อง 24 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus ที่ทาง Sony เคลมว่าเร็วที่สุดในโลก มีระบบ Eye detection เพื่อโฟกัสเป้าบริเวณดวงตา หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว (ไม่มีระบบสัมผัส) ปรับขึ้นได้ 90 องศา / ปรับก้มลงได้ 45 องศา ทำให้สามารถถ่ายภาพ ในมุมมองที่แปลกๆหลากหลายได้ง่ายมากขึ้น มีช่องมองภาพ (Viewfinder) แบบอิเล็คทรอนิกส์ให้ภาพที่คมชัด เชื่อมต่อแบบ Wi-Fi และ NFC เพื่อส่งรูปไปยังสมาร์ทโฟนสำหรับอัพลงโซเชียลได้อย่างรวดเร็ว และตัวกล้องสามารถลงแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ เช่น แอพหน้าใส แอพตกแต่งรูปภาพ แต่งรูปสวยเสร็จตั้งแต่ในกล้องได้เลย
2.
Olympus OM-D E-M5 Mark II
ความโดดเด่นที่สุดของตัวนี้ น่าจะเป็นเรื่องของระบบกันสั่นแบบ 5 แกน และบอดี้ที่ทนทาน ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ มี Weather Seal ป้องกันละอองน้ำและฝุ่น ทางแบรนด์เคลมว่าทนอุณหภูมิได้ถึง -10 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ตัวกล้องมีสองสีให้เลือกคือสีดำและสีเงิน ดีไซน์สไตล์เรโทรสุดเท่ เซนเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แต่มีความพิเศษอยู่ที่ฟังก์ชั่น High Resolution Shot ที่สามารถเพิ่มความละเอียดของภาพสูงสุดได้ถึง 40 ล้านพิกเซล ด้วยวิธีการรวมภาพ 8 ช็อต ให้กลายเป็นภาพความละเอียดสูงภาพเดียว มีช่องมองภาพแบบอิเลคทรอนิคส์ และจอภาพ Touchscreen หลังกล้องขนาดใหญ่ ที่สามารถหมุนพลิกปรับได้หลากหลายองศา รวมถึงหมุนไปด้านหน้าเพื่อถ่าย Selfie รองรับ SD Card Class 10 ที่ทำงานได้รวดเร็ว และสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ส่งภาพเข้าสมาร์ทโฟนได้ทันที
3.
Panasonic GX85
รุ่นนี้ต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่นพี่อย่าง GX8 ที่ความสามารถเรียกได้ว่าอยู่ในระดับมืออาชีพ แต่อาจจะมีข้อเสียในเรื่องของขนาดที่ค่อนข้างดูใหญ่ไปนิดนึง เจ้า GX85 นี่แหละเกิดมาเพื่อจัดการปัญหานี้ ด้วยบอดี้ที่ถอดแบบออกมาใกล้เคียงกับรุ่นเดิม แต่ขนาดเล็กลง ( 122 x 71 x 44 มม. ) แต่ความสามารถไม่ลดลงตาม ด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กับระบบกันสั่น 5 แกน รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K มีช่องมองภาพอิเล็คทรอนิกส์ และจอ LCD ทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว ที่ปรับขึ้นลงได้ มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และ สีเงิน
4.
Nikon 1 J5
Mirrorless ไซส์มินิจากฝั่ง Nikon ตัวนี้เข้าแข่งขันในตลาดด้วยขนาด 98.3 x 59.7 x 31.5 มม. หนักเพียง 235 กรัมเท่านั้น บอดี้มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ สีเงิน และทูโทน เซ็นเซอร์ภาพเป็นแบบรับแสงด้านหลัง ความละเอียด 20.8 ล้านพิกเซล จับโฟกัสได้มากสุดถึง 171 จุด เลนส์ยืดหดได้ด้วยระบบซูมของตัวเลนส์แบบไฟฟ้า หน้าจอเป็นแบบ Touchscreen พลิกได้ถึง 180 องศา สะดวกสำหรับการถ่าย Selfie อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ WiFi และ NFC อีกด้วย เรียกได้ว่าเล็กพริกขี้หนูจริงๆเลยล่ะเจ้าตัวนี้
5.
Leica T701
เพื่อฉลองวาระครบ 100 ปี ของ Leica แบรนด์ผู้ผลิตกล้อง Hi-End ระดับตำนานจากประเทศเยอรมัน ไลก้าจึงใช้โอกาสนี้เปิดตัวกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ Leica T701 ออกมายั่วน้ำลายคนรักกล้องกัน ตัวบอดี้ผลิตจากอลูมิเนียมเจาะและฉลุอย่างประณีต มีขนาดกะทัดรัดเพียง 134 x 69 x 33 มม. น้ำหนักเบา สะดวกต่อการพกพา (ตัวเครื่องหนัก 384 กรัม) ดีไซน์หรูหราสุดๆ เนื่องจากร่วมมือกันผลิตกับทีมออกแบบรถยนต์หรูอย่างออดี้ (Audi) สำหรับคุณสมบัติภายในนั้น รุ่นนี้ใช้เซนเซอร์รับภาพ APS-C ความละเอียด 16.5 ล้านพิกเซล มีหน้าจอ Touchscreen ขนาด 3.7″ ถ่ายวีดีโอได้คมชัดถึงอารมณ์ระดับ FULL HD และถือเป็นกล้อง Leica ตัวแรกที่มี Wi-Fi ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้เอง ทำให้ Leica T701 กลายเป็นกล้องไซส์มินิในฝันของหลายๆคนได้ไม่ยากเลย
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com