ชวนคนรู้ใจไปดินเนอร์หรูสไตล์อินโนเวทีฟที่ Tenshino Japanese Restaurant @Pullman King Power
Share
สำหรับใครที่รู้สึกว่าร้านอาหารญี่ปุ่นในยุคนี้ดูคล้ายคลึงกันไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศหรือเมนูอาหารที่ไม่ว่าไปร้านไหนๆ ก็หาทานได้ไม่ยาก วันนี้ MOVER จึงขอพาทุกท่านจูงมือคนรู้ใจไปเปิดประสบการณ์การทานอาหารญี่ปุ่นสุดหรูสไตล์ Innovative ที่ร้าน Tenshino Japanese Restaurant ตั้งอยู่ที่บริเวณชั้นสองของโรงแรม Pullman King Power ซอยรางน้ำ
เมื่อก้าวเข้ามาภายในร้าน คุณจะพบกับบรรยากาศสไตล์ Bohemain Chic ที่เน้นสีสันผสมกับความเป็น Japanese และเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ ซึ่งทุกอย่างดูเข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ทางร้านยังมีมุมต่าง ๆ ให้ลูกค้าเลือกนั่งรับประทานอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นบาร์ โต๊ะยาว หรือว่าโซฟาแบบส่วนตัว ก็ล้วนแล้วแต่ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการพาคนรู้ใจหรือว่ากลุ่มเพื่อนสนิทมาสังสรรค์หลังเลิกงาน
ที่ร้าน Tenshino แห่งนี้นอกจากที่จะมีบรรยากาศภายในจะได้รับการออกแบบด้วยแนวคิดของร้านบิสโตรแบบฝรั่งเศสผสานเข้ากับประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นแล้ว ในส่วนของวัสดุและสิ่งทอตามธรรมชาติรวทถึงภาพวาดต่าง ๆ ที่ประดับตกแต่งอยู่ก็ช่วยให้คุณรู้สึกถึงความผ่อนคลาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนชั้นดีเลยทีเดียว ส่วนทางด้านของอาหารที่นี่ก็เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เพราะเป็นเมนูที่ครีเอทขึ้นมาเฉพาะสำหรับที่ร้านเท่านั้น โดยจะเน้นไปที่การผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและความเป็นตะวันตกได้อย่างเข้ากัน
เริ่มต้นที่เมนูแรกอย่าง Black Truffle Cold Soba (THB 300) เป็นเส้นโซบะเย็นที่มีความนุ่มกำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมกับเห็ดทรัฟเฟิลและไข่ปลาแบบเต็ม ๆ คำเพื่อให้ได้รสชาติที่เยี่ยมยอดที่สุด เป็นจาน Starter ที่ทุกคนไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
สำหรับเมนูที่สองนี้เป็นจานหลักที่มีชื่อว่า Live Lobster and Seaweed Butter (THB 1,780) ซึ่งเป็นล็อปสเตอร์ตัวโตเนื้อฉ่ำ ปรุงรสด้วย Bordier seaweed butter ชุ่ม ๆ ผสมกับซอส Yuzu ponzu และเครื่องเทศสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ อย่าง Togarashi Spice ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและลงตัว
ต่อกันที่เมนูสไตล์ญี่ปุ่นกันบ้างอย่างเซ็ต Sushi of the Day (THB 1,240) ที่ทางร้านได้นำเข้าเนื้อปลาสดจากตลาดปลา Tsukiji ที่โตเกียวประเทศญี่ปุ่น กิมมิคของเมนูนี้คือจะประกอบด้วยซูชิ 5 ชิ้นผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่าง ๆ เพื่อให้ได้เนื้อปลาที่สดและดีที่สุดสำหรับวันนั้น ๆ นอกจากเนื้อปลาที่พรีเมี่ยมแล้ว ตัวข้าวญี่ปุ่นที่ใช้ก็ได้มีการผสม Brown Vinega แทนการใช้น้ำส้มสายชูทั่วไป เพื่อให้ตัวเม็ดข้าวมีสีน้ำตาลอ่อน ๆ และรสชาติเข้มข้นมากขึ้น เข้ากันได้ดีกับเนื้อปลาสด ๆ ที่อยู่ด้านบน
ปิดท้ายกันด้วยเมนู Tuna Ceviche (THB 690) ซึ่งเป็นเนื้อปลาทูน่าหั่นเต๋า แล้วนำดองเล็กน้อยในโชยุกับน้ำส้มยูสุ จัดเสิร์ฟลงบนบนสาหร่ายทะเลและสาเกเจลลี่ จากนั้นโรยด้านบนด้วยไข่ปลาแซลมอนแบบจัดเต็ม ถือเป็นรสสัมผัสที่ยอดเยี่ยมทีเดียวครับ
