“Slim d’Hermes” ประดิษฐกรรมแห่งเวลาที่เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์น่าค้นหา มีจำกัดเพียง 90 เรือนบนโลก

Slim d’Hermes ประดิษฐกรรมแห่งเวลา แอร์เมส GMT โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นบอกโซนเวลา ออกเดินทางจากปารีสสู่นิวยอร์ก และจากบัวโนสไอเรสสู่มุมไบ ตัวเรือนแพลเลเดียมงามสง่าเพรียวบาง ส่งให้เรือนเวลาแอร์เมส GMT คอลเลกชั่นใหม่เจิดจรัสข้ามขอบฟ้า

เสริมด้วยเสน่ห์ลึกลับชวนค้นหาของหน้าปัดหินชนวนสีเทาประดับเลขบอกเวลาที่โปร่งบาง แง้มหน้าผ่านกระจกสีอมเทา ขับเคลื่อนด้วยกลไก H1950 รุ่นบางพิเศษจากแอร์เมส เพิ่มความโดดเด่นเฉพาะตัวด้วยโมดูล GMT  บอกโซนเวลา เช่นเดียวกับคุณสมบัติด้านความบางพิเศษ  และแม้จะหลงทางไปบ้าง ก็จงปล่อยใจแล้วดื่มด่ำไปกับห้วงเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือเมื่อใดก็ตาม ลองมาตามคำเชิญเพื่อออกสำรวจไปกับเรือนเวลาของแอร์เมส ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 90 เรือน 

สลิม เดอ แอร์เมส ผสานคุณสมบัติสำคัญไว้ด้วยกัน  ทั้งความเรียบง่ายภายใต้กรอบเกณฑ์อันเคร่งครัดและสมดุลย์แห่งสุนทรียศาสตร์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นสำหรับคอลเลกชั่นนี้ได้รับการหล่อหลอมขึ้นในปี 2015 ด้วยสไตล์ที่ทั้งคลาสสิคและทันสมัยไปพร้อมๆ กัน  ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ความโค้งที่ลาดลงเล็กน้อยของตัวเรือนกลาง วงรอบที่โค้งอย่างพอเหมาะพอดี และเลขอักขระที่คงความเป็นต้นแบบ ล้วนเป็นฝีมือของฟิลิปป์ อะเปอลัวก์ (Philippe Apeloig) 

ตัวเรือนทำจากแพลเลเดียม โลหะหายากและมีน้ำหนักเบาในกลุ่มเดียวกับแพลตินัม แอร์เมสรุ่น GMT เป็นดั่งเพื่อนคู่ใจสำหรับนักเดินทางรอบโลก   ตัวเรือนที่บางพิเศษเพียง 9.48 มิลลิเมตรเผยภาพเบื้องล่างที่งามพิสุทธิ์ภายใต้มนต์ขลังของกระจกคริสตัลสีอมเทาที่ห่อหุ้มมันเอาไว้ หน้าปัดสีเทาหินชนวนที่กว้างและลายเส้นเพรียวบางของเลขอักขระงามจับตา คั่นด้วยช่องว่างระหว่างกัน ผ่านกรรมวิธีขัดแต่งที่แยบยลเพื่อเพิ่มมิติให้คมชัดยิ่งขึ้น Chapter ring ลายประกายแสงอาทิตย์ กลางตัวเรือนและหน้าปัดย่อยบอกวันที่ประดับลายกิลโยเช่ หน้าปัดบอกโซนเวลา GMT เหลือบเงินประดับตัวเลข  สะท้อนความวิจิตรของหน้าปัดที่แอร์เมสรังสรรค์เองอย่างแจ่มชัดไร้ที่ติ ตวัดวาดด้วยเข็มนาฬิกาแต่งเป็นทรงบาตงพ่นทรายและสีน้ำเงินเคลือบเงา

หัวใจสำคัญของการเดินทางในครั้งนี้ อยู่ที่เรือนเวลาสลิม เดอ แอร์เมส  GMT โฉมใหม่ ซึ่งขับเคลื่อนจังหวะแห่งเวลาด้วยเครื่องกลไก H1950 รุ่นบางพิเศษเพียง 2.6 มิลลิเมตร ประกอบ ด้วยโมดูลบอกโซนเวลา GMT ซึ่งบางเป็นพิเศษ ที่อาเกนฮอร์ (Agenhor) รังสรรค์เพื่อแอร์เมสโดยเฉพาะ   นอกจากฟังก์ชั่นบอกชั่วโมง นาที และวันที่แล้ว   กลไกแบบไขลานอัตโนมัตินี้

ยังติดตั้งไมโครโรเตอร์ ทำหน้าที่บอกเวลาทั้งสองโซนให้สมบูรณ์แบบพร้อมเครื่องหมายบอกเวลากลางวันและกลางคืนสองจุด บอกความต่างสำหรับเวลาในประเทศต้นทางและระหว่างเวลาเดินทาง ซึ่งสามารถปรับเวลาปลายทางได้ง่ายๆ สนุกๆ เพียงกดปุ่มที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ส่วนสะพานเครื่องเกลาด้วยมือ ตกแต่งพิเศษด้วยตัวอักษร H โมดูลลายโก๊ตส์ เดอ เฌอแนฟ (Côtes de Genève) และลายก้นหอย  ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้เผยให้เห็นความงดงามผ่านคริสตัลแซฟไฟร์ด้านหลัง ประกอบสายหนังจระเข้สีกราไฟต์เนื้อแมตต์ที่ผ่านการรังสรรค์ในเวิร์คช็อปของแอร์เมส พันผูกรอบข้อมือเหมือนดั่งเพื่อนคู่ใจแห่งการเดินทางได้อย่างลงตัว

 ผลิตจำนวนจำกัด 90 เรือน และสลักหมายเลขประจำตัวเรือน

1 | กลไก 

กลไกไขลานอัตโนมัติ ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์
เครื่องกลไก H1950 รุ่นบางพิเศษ ผลิตโดยแอร์เมส
ขนาด 30 มม. หนา 2.6 มม.
ประดับอัญมณี 29 เม็ด
ความถี่ในการเดิน 21,600 รอบ/ชั่วโมง (3 Hz)
สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง
ไมโครโรเตอร์ สะพานเครื่องเกลาด้วยมือ
ตกแต่งพิเศษด้วยตักอักษร H

2 | โมดูล

โมดูล GMT
ขนาด 33.6 มม. หนา 1.4 มม.
ส่วนประกอบ 63 ขิ้น อัญมณี 9 เม็ด

3 | ฟังก์ชั่น

บอกชั่วโมง นาที วันที่ โซนเวลา GMT
เครื่องหมายบอกกลางวัน/กลางคืนในประเทศต้นทางและเวลาท้องถิ่น

4 | หน้าปัด

หน้าปัดหินชนวนสีเทา Chapter ring ลายประกายแสงอาทิตย์
กลางหน้าปัดและหน้าปัดย่อยบอกวันที่แต่งลายก้นหอย
หน้าปัดย่อยบอกโซนเวลา GMT ลายเกรนเคลือบเงิน
ตัวเลขอารบิคสีขาวโปร่งแสง
เข็มนาฬิกาทรงบาตงพ่นทรายชุบโรเดียมและเคลือบสีน้ำเงิน

5 | ตัวเรือน

วงกลม ขนาด 39.5 ม.
แพลเลเดียม (≈ 36.45 กรัม)
คริสตัลแซฟไฟร์และตัวเรือนด้านหลังตัดแสงสะท้อน
กระจกสีอมเทาเข้ม
กันน้ำลึก 3 บาร์
ความกว้างระหว่างหูสาย 20 มม.

6 | สาย

สายหนังจระเข้เนื้อด้านสีกราไฟต์
หัวล็อกสายแบบหัวเข็มขัดทำจากแพลเลเดียม 17 มม. (≈ 4.15 g)

แอร์เมส รังสรรค์ชิ้นงานมากมาย ที่ล้วนกลั่นกรองจากฝีมือของช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเพื่อนคู่ใจของผู้สวมใส่ ชิ้นงานของแอร์เมสให้ความพึงพอใจเหนือความคาดหมาย เน้นประโยชน์การใช้งาน พร้อมคุณสมบัติด้านฟังก์ชั่นต่าง ๆ ก่อกำเนิดขึ้นจากทักษะความเชี่ยวชาญอันหาตัวจับยาก เป็นชิ้นงานที่จะเปลี่ยนทุกวันให้มีชีวิตชีวา และทุกจังหวะให้เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ 

สำหรับแอร์เมสแล้ว เวลาก็เป็นอีกหนึ่งผลงาน ความกดดันโดยธรรมชาติของมันได้ผ่านการตีความสู่ลักษณะเฉพาะตัว นอกเหนือ จากการบอกเวลา จัดลำดับและค้นหาวิธีที่จะควบคุมมันแล้ว แอร์เมส ยังกล้าที่จะมองหาเวลาแบบใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความรู้สึก กล้าที่จะหยุดเว้นจังหวะ และเปิดพื้นที่สำหรับความเป็นธรรมชาติและการผ่อนคลาย