กลับมาเป็นปีที่สองแล้วสำหรับการจัดลำดับร้านอาหารในประเทศสิงคโปร์ โดย สิงคโปร์ มิชลินไกด์ ปี 2017 คู่มือแนะนำร้านอาหารชั้นนำระดับโลก ซึ่งในปีนี้มีร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินทั้งหมด 38 ร้าน รวมถึงร้านอาหารหน้าใหม่ที่ได้รับดาวมิชลินเป็นครั้งแรกอีกทั้งหมด 12 ร้าน
นี่นับเป็นปีที่สองแล้ว ที่สิงคโปร์ มิชลินไกด์ ได้ตอกย้ำสิงคโปร์ในฐานะประเทศที่มีความโดดเด่นทางด้านอาหาร ซึ่งขับเคลื่อนโดยบรรดาเชฟยอดฝีมือ ที่ทุ่มเทและพัฒนาในการสร้างสรรค์เมนูและร้านอาหารใหม่ๆ รวมถึงชาวสิงคโปร์ และนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทางด้านอาหารอยู่เสมอ
??????????????????????????????????????????????????
สำหรับปี 2017 สิงคโปร์มีร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลิน 1 ดาว ทั้งหมด 30 ร้าน โดยในจำนวนร้านอาหารทั้งหมดนี้ มี 11 ร้านที่เป็นร้านอาหารหน้าใหม่ ซึ่งได้รับดาวมิชลินเป็นครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งร้านอาหารหน้าใหม่เหล่านี้ ล้วนเป็นภาพสะท้อนของสิงคโปร์ ในฐานะเมืองแห่งความหลากหลายของประเภทและสัญชาติอาหาร เพราะในปีนี้ มีร้านอาหารกว่า 30 ประเภท ที่ได้รับดาวมิชลินไปครอบครอง ไล่ตั้งแต่อาหารเปอรานากัน, ออสเตรเลีย ไปจนถึงแต้จิ๋ว, ฝรั่งเศส และอิตาเลียน ลองมาดูตัวอย่างร้านเด็ดที่ได้ดาวมิชลินไปครอบครองในปีนี้ ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวสิงคโปร์
มาเริ่มกันที่ร้านอาหารสัญชาติออสเตรเลียร่วมสมัยอย่าง Cheek by Jowl ของเชฟชาวศรีลังกา ที่เคยใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ออสเตรเลีย และให้คำนิยามการปรุงอาหารของทางร้านว่าเป็นเมนูอาหารแบบ “โมเดิร์น ออสเตรเลียน” ซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อนทางรสชาติจากวัตถุดิบที่สดใหม่ และแรงบันดาลใจที่หลากหลาย ต่อด้วยร้าน Whitegrass ซึ่งใช้แต่วัตถุดิบสดใหม่จากออสเตรเลีย และญี่ปุ่น รังสรรค์เมนูที่ล้วนผสมผสานกลิ่นอายแบบเอเชียเข้าด้วยกันอย่างกลมกล่อม
Cheek by Jowl (ภาพจาก: https://www.facebook.com/whitegrassrestaurant/)
มาต่อกันที่ร้านอาหารฝั่งยุโรป ที่ได้รับดาวมิชลิน 1 ดาวไปครอบครองกันบ้าง เช่น Saint Pierre ร้านอาหารฝรั่งเศสแบบร่วมสมัย ที่เน้นใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่นเป็นส่วนประกอบหลักในการปรุงอาหาร ตามติดมาด้วย Iggy’s ร้านอาหารยุโรปแบบร่วมสมัย มาพร้อมเมนูที่ไม่ควรพลาด เช่น ข้าวผัดกุ้ง carabinero (carabinero rice) และ ปลาแมคเคอเรลสเปน เสิร์ฟพร้อมสาคู (Spanish mackerel with tapioca pearls) ต่อด้วย Garibaldi หนึ่งในร้านอาหารอิตาเลียนที่โด่งดังที่สุดในสิงคโปร์ ที่มาพร้อมกับรายชื่อไวน์กว่า 7,000 ชนิด ให้ได้จับคู่กับเมนูอาหารอิตาเลียนเลิศรส ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ทั้งร้าน Garibaldi และ Braci คือร้านอาหารอิตาเลียนสองร้านแรกที่ได้รับดาวจากสิงคโปร์ มิชลินไกด์
Saint Pierre (ภาพจาก: https://www.facebook.com/saintpierrerestaurant/)
เมนู carabinero rice ของร้าน Iggy’s (ภาพจาก: https://www.facebook.com/iggys.sg/)
นอกจากร้านอาหารต่างชาติแล้ว เชฟท้องถิ่นของสิงโปร์เองก็ได้รับดาวมิชลินเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ไปลองลิ้มชิมรสอาหารจีนกวางตุ้งแบบดั้งเดิมที่ร้าน Chef Kang’s โดยฝีมือเชฟ Kang หรือจะไปร้าน Labyrinth และชิมอาหารสิงคโปร์แท้ๆ ที่แฝงกลิ่นอายความโมเดิร์น รังสรรค์ขึ้นโดยเชฟ Han Li Guang
ส่วนร้านอาหารญี่ปุ่น แบบ Fine Dining สไตล์โมเดิร์น Waku Ghin โดยเชฟ Tetsuya Wakuda ที่ตั้งอยู่ใจกลางโลเคชั่นสุดเก๋ ณ มาริน่า เบย์ แซนด์ ก็คว้าดาวมิชลิน 2 ดวง ในปีนี้ไปครอบครองอย่างสวยงาม
Waku Ghin (ภาพจาก: https://www.facebook.com/wakughin/)
ฟากร้านอาหารราคาย่อมเยา และร้านอาหารสตรีทฟู้ด ก็ไม่น้อยหน้า เพราะปีนี้ มีรายชื่อร้านอาหารทั้งหมด 38 ร้าน ที่ได้รับรางวัลระดับดาวชมเชย หรือ “Bib Gourmand” รวมถึงร้านอาหารหน้าใหม่ที่เพิ่งได้รับดาวเป็นครั้งแรกทั้งหมด 9 ร้าน โดยทั้ง 38 ร้าน ครอบคลุมสัญชาติอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่ฝรั่งเศส, อินเดีย, ญี่ปุ่น ไปจนถึงเปอรานากัน ความพิเศษของร้านอาหารที่ได้ดาว Bib Gourmand คือ เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียง รสชาติอร่อย และมีคุณภาพสูงอย่างเอื้อมถึงได้ ในราคาจานละไม่เกิน 45 เหรียญสิงคโปร์เท่านั้น
ร้านที่เราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด ได้แก่ ร้านอาหารฝรั่งเศส Bar-Roque Grill และร้านอาหารญี่ปุ่น Man Man Japanese Unagi Restaurant โดยเชฟ Teppei Yamashita
สำหรับร้านในศูนย์อาหารหน้าใหม่ที่ได้รับดาวในปีนี้ ขอแนะนำให้ลองเมนูชาสมุนไพรจีนกวางตุ้ง Ah Er Soup ที่ ABC Brickworks Market และข้าวอบหม้อดิน ร้าน New Lucky Claypot Rice ที่ Holland Drive Market and Food Centre
??????????????????????????????????????????????????
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com